รายงานผลวิเคราะห์จาก Consumer Reports เผยข้อมูลค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าซ่อมแซ่มเฉลี่ยของแบรนด์รถยนต์ในสหรัฐอเมริกา เรามาชมกันว่าในระยะเวลา 10 ปี แต่ละแบรนด์มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่เท่าไหร่ และเหตุผลอะไรที่ทำให้ค่าเฉลี่ยในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมต่ำ
รายงานเผย ค่าบำรุงรักษาและค่าซ่อมแซม 10 ปี ของรถยนต์ Tesla ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์
Consumer Reports ได้วิเคราะห์และแชร์ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา (Maintenance) และการซ่อมแซมเฉลี่ยเพียง 4,035 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 150,000 บาท เฉลี่ยปีละ 15,000 บาท) ในสหรัฐอเมริกา
เมื่อเทียบกับผู้ผลิตอื่น ๆ แล้ว Tesla มีค่าเฉลี่ยในการบำรุงรักษาและค่าซ่อมแซมต่ำกว่าประมาณ 3-4 เท่า เช่น Land Rover มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 19,250 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 710,000 บาท) และ Porsche มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 14,090 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 520,000 บาท)
โดย 4 ใน 5 ของแบรนด์รถยนต์ที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด เป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ในหสรัฐอเมริกา ได้แก่ Tesla, Buick, Lincoln และ Ford
แบรนด์รถยนต์ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยน้อยเป็นอันดับสองคือ Buick และ Toyota ที่มีค่าใช้ประมาณ 4,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 180,000 บาท) ในระยะเวลา 10 ปี
การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ พิจารณาจากต้นทุนการซ่อมแซมและการบำรุงรักษาในช่วงระยะเวลา 1-5 ปี และ 6-10 ปี รายงานระบุว่าแบรนด์รถยนต์น้ำมันหรูเฉพาะกลุ่มบางแบรนด์ มีแนวโน้มที่จะมีต้นทุนในการบำรุงรักษาสูง
Steven Elek หัวหน้าโครงการวิเคระาห์ข้อมูล Consumer Reports เผยว่า ค่าเฉลี่ยในการบำรุงรักษารถยนต์บางยี่ห้ออาจแตกต่างกันมากในระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ รถยนต์หรูหราราคาแพงก็มักจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงด้วยเช่นกัน
Steven Elek ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับคนที่ต้องการรถยนต์หรู แนะนำว่าให้ซื้อรถแบรนด์ในประเทศ (ถ้ามี) เนื่องจากค่าบำรุงรักษาและค่าซ่อมแซมอาจจะต่ำกว่า โดยเขาได้ยกตัวอย่าง แบรนด์ Mercedes-Benz ที่เป็นแบรนด์สัญชาติเยอรมนี มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมมากว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับแบรนด์ Lincoln ที่เป็นแบรนด์รถยนต์หรูในประเทศสหรัฐอเมริกา (สังเกตได้จากอันดับ 1-5 มีแบรนด์รถยนต์ในอเมริกา 4 แบรนด์ที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ อาจจะเป็นเพราะการผลิตในประเทศ)
ข้อมูลการวิเคราะห์จากรายงานนี้มาจากสมาชิกในโครงการสำรวจรถยนต์ประจำปี 2023 โดยมีการให้ข้อมูลค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการบริการ ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
ข้อมูลด้านล่างนี้เป็นการจัดอันดับแบรนด์รถยนต์ที่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมที่ต่ำที่สุด โดยเป็นข้อมูลจากการใช้งานในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นรายงานจากการวิเคราะห์ข้อมูลในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซึ่งค่าใช้จ่ายของแต่ละแบรนด์ในแต่ละประเทศก็อาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น ประเทศผู้ผลิต การนำเข้าอะไหล่ ฐานที่ตั้งโรงงานการผลิต ค่าบริการ เป็นต้น
ที่มา teslarati