ใน

Xiaomi ยอมถอย! ยกเลิกการจำกัดพละกำลัง SU7 Ultra หลังเหล่าเจ้าของรถไม่พอใจ

Xiaomi ตัดสินใจยกเลิกข้อจำกัดการกักสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงตัวแรงอย่าง SU7 Ultra หลังจากที่ผู้ใช้งานจำนวนมากออกมาแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ Xiaomi HyperOS เวอร์ชัน 1.7.0 ซึ่งจะทำให้รถไม่สามารถใช้พละกำลังของรถได้เต็มที่ในการขับขี่แบบปกติ

Xiaomi ยอมถอย! ยกเลิกการจำกัดพละกำลัง SU7 Ultra หลังเหล่าเจ้าของรถไม่พอใจ

ในการอัปเดต Xiaomi ได้จำกัดพละกำลังสูงสุดของ SU7 Ultra จากเดิมที่สุดที่  เหลือเพียงประมาณ 900 แรงม้าสำหรับการใช้งานบนท้องถนนทั่วไป ผู้ขับขี่จำเป็นจะต้องผ่านการทดสอบการทำเวลาในสนามแข่งที่ได้รับอนุมัติ (Qualifying mode laptime assessment) เพื่อปลดล็อกการใช้พลังงานเต็มที่นี้ นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มเวลารอ 60 วินาทีก่อนใช้ระบบ Launch Control ทำให้ไม่สามารถเร่งออกตัวได้ทันทีที่สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว

ทาง Xiaomi Auto ได้ให้เหตุผลว่า ข้อจำกัดนี้ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อความปลอดภัย โดยระบุไว้ว่า “กำลังสูงสุด 1,548 แรงม้า ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสนามแข่งที่มีสภาพพื้นผิว และยางที่เหมาะสมเท่านั้น เราต้องการให้ผู้ใช้สามารถสนุกกับสมรรถนะสุดแรงนี้ได้อย่างปลอดภัย”

แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเหตุให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง โดยเฉพาะจากเจ้าของรถที่ซื้อ SU7 Ultra พร้อมแพ็คเกจความแรงนี้มาในราคา 529,900 หยวน (ประมาณ 265,000 บาท) เนื่องจากคาดหวังถึงความแรงระดับทำลายสถิติในการเร่งความเร็ว หลายคนแสดงความไม่พอใจผ่านฟอรั่มออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย โดยมองว่าพวกเขาควรมีสิทธิ์เข้าถึงศักยภาพของรถอย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อจำกัด

สุดท้าย Xiaomi ต้องยอมถอยและตัดสินใจถอนฟีเจอร์การจำกัดสมรรถนะดังกล่าวออก พร้อมออกแถลงการณ์ว่า “เราขอขอบคุณเสียงจากผู้ใช้งานของเรา และจะสื่อสารเรื่องการอัปเดตซอฟต์แวร์ในอนาคตอย่างโปร่งใสยิ่งขึ้น”

Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi ได้ชู SU7 Ultra ว่าเป็น “รถที่เทียบเท่า Porsche ด้านสมรรถนะ และเทียบเท่า Tesla ด้านนวัตกรรม” โดยรถรุ่นนี้สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 1.98 วินาที และมีความเร็วสูงสุดทะลุ 350 กม./ชม.

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในยุคที่ซอฟต์แวร์มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดคุณสมบัติของรถยนต์ไฟฟ้า ความปลอดภัย สมรรถนะ และนโยบายอัปเดตแบบ OTA (Over-the-Air) กำลังกลายเป็นประเด็นถกเถียงระหว่างผู้ผลิต และผู้บริโภคที่คาดหวังที่จะเสพประสบการณ์การขับขี่เต็มประสิทธิภาพ

Xiaomi ระบุว่าแบรนด์จะทำงานใกล้ชิดกับผู้ใช้งานมากขึ้นในการพัฒนาฟีเจอร์ในอนาคต และยังคงย้ำว่า “สนามแข่งยังคงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในการรีดสมรรถนะของ SU7 Ultra ได้อย่างเต็มที่”

การตัดสินใจถอนข้อจำกัดในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า เสียงของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลสามารถส่งผลต่อทิศทางของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นกันครับ

ที่มา : Carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.