ใน ,

XPENG เปิดตัว MONA M03 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานรุ่นใหม่ เริ่มต้น 570,000 บาท ถูกกว่า Tesla Model 3 ในจีนกว่าครึ่ง

XPENG เปิดตัวพร้อมเผยราคา MONA M03 อย่างเป็นทางการ รถรุ่นนี้ถือเป็นรถรุ่นแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ MONA เป็นคู่แข่งกับ Tesla Model 3 แต่เปิดราคามาต่ำกว่าครึ่ง สามารถทำยอดจอง 10,000 คัน ในเวลาเพียง 52 นาที

XPENG เปิดตัว MONA M03 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานรุ่นใหม่ เริ่มต้น 570,000 บาท ถูกกว่า Tesla Model 3 ในจีนกว่าครึ่ง

MONA M03 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าซีดานรุ่นใหม่ที่มีราคาถูกที่สุดของ XPENG ได้เผยโฉมช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดย He Xiaopeng ประธานและซีอีโอของ XPENG กล่าวว่า M03 เป็นรถรุ่นแรกของ MONA ออกแบบมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ Tesla Model 3 และในตอนนี้เปิดตัวมาด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • 515 long battery life ราคา 119,800 หยวน ประมาณ 570,000 บาท
  • 620 long battery life ราคา 129,800 หยวน ประมาณ 619,000 บาท
  • 580 Max ราคา 155,800 หยวน ประมาณ 742,000 บาท

โดยตัวเลขในชื่อรุ่นของ MONA M03 เป็นระยะทางสูงสุดที่วิ่งได้ และในรุ่น Max ที่เป็นรุ่นท็อปนั้นมีความสามารถในการขับขี่อัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุด

การเผยราคาอย่างเป็นทางการของ MONA M03 สร้างเสียงฮือฮาอย่างมากในประเทศจีน เนื่องจากราคาของทั้ง 3 รุ่นถูกกว่าครึ่งหนึ่งของราคา Tesla Model 3 ทั้ง 3 รุ่นในจีน ที่เป็นทั้งแรงบันดาลใจและคู่แข่งของรถรุ่นนี้ สามารถทำยอดจอง 10,000 คัน ในเวลาเพียง 52 นาที

MONA M03 มีมิติตัวถัง ความยาว 4,780 มม. ความกว้าง 1,896 มม. และความสูง 1,445 มม. ระยะฐานล้อ 2,815 มม.

เมื่อเทียบกับ Tesla Model 3 ที่มีความยาว 4,720 มม. ความกว้าง 1,848 มม. และความสูง 1,442 มม. ตามลำดับ ระยะฐานล้อ 2,875 มม. เห็นได้ว่า MONA M03 มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย แต่ระยะฐานล้อสั้นกว่า

การออกแบบภายในของ MONA M03

ในงานเปิดตัว ไม่ได้มีการประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการตกแต่งภายใน แต่จากภาพที่แชร์ก่อนหน้านี้ เราเห็นได้ว่าเค้าโครงภายในของ MONA M03 มีความคล้ายกับ Tesla Model 3 ที่มีหน้าจออินโฟเทนเมนต์กลางขนาด 15.6 นิ้วหน้าเพียงจอเดียว ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 พร้อม RAM 16GB

ระบบภายในรองรับภาพพนาโนราคา 360 องศา และแผนที่เรนเดอร์แบบ 3 มิติ และในกรณีที่แผนที่แสดงมุมมองแบบไดนามิก 3 มิติ แผนที่จะถูกเรนเดอร์แบบเรียลไทม์ ทำให้เห็นสภาพจริงแทนที่จะอ้างอิงตามหน่วยความจำ

ภายในรถดูเรียบง่าย ไม่มีปุ่ม แต่จะแทนที่ด้วยการควคุมด้วยท่าทางและเสียง ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสั่งการด้วยการสัมผัสหน้าจอเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้การโต้ตอบด้วยเสียงได้ ซึ่งภายในรถมี 4 โซนเสียง ทำให้สั่งการแยกกันได้ในส่วนผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง รองรับการสนทนาต่อนเื่อง 20 วินาที พร้อมรับหลายคำสั่งพร้อมกันได้ ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบสองก้าน มีเพียงลูกกลิ้งสำหรับควบคุม

MONA M03 มาพร้อมลำโพง PSS ขั้นสูง 18 ตัว รองรับระบบเสียงพาโนรามา Compose 7.1 .4 ส่วนด้านบนเป็นหลังคาซันรูฟพาโนรามิคขนาด 1.22 ตารางเมตร พร้อมกระจกลามิเนต Low-E ให้การป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต 99.9% และการป้องกันรังสีอินฟราเรด 97.6%

พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถอยู่ที่ 621 ลิตร รองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 28 นิ้ว 1 ใบ และขนาด 20 นิ้ว 4 ใบได้ โดยไม่ต้องพับเบาะ และถ้าพับเบาะลงสามารถขยายพื้นที่ได้ถึง 1,602 ลิตร ซึ่งเบาะนั่งด้านหลังพับแยกแบบ 4:6 และปรับเอนได้ ส่วนเบาะหน้ามีทั้งระบบอุ่นและระบายอากาศ

MONA M03 มีออปชันเสริมที่ให้ผู้ใช้สั่งซื้อเพิ่มเติมได้ เช่น แผนหน้าปัดเสริมราคา 599 หยวน, เครื่องกระจายน้ำหอม, หมอนนุ่มปรับระดับได้สำหรับพนักพิงศีรษะ พร้อมที่รองเอวเมมโมรีโฟม และม่านบังแดดแบบคริสตัล

ระบบส่งกำลังของ MONA M03

  • ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ทุกรุ่น
  • ในรุ่น 515 กม. ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 1 ตัว กำลัง 140 kW แรงบิดสูงสุด 225 Nm
  • ในรุ่น 620 กม. และ 580 Max ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 1 ตัว กำลัง 160 kW แรงบิดสูงสุด 250 Nm
  • ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) แบบ Blade Battery จาก FinDreams ของ BYD
  • ในรุ่น 515 กม. ใช้แบตเตอรี่ความจุ 51.8 kWh
  • ในรุ่น 620 กม. และ 580 Max ใช้แบตเตอรี่ความจุ 62.2 kWh
  • คาดว่ารุ่น 580 Max มีระยะทางน้อยกว่ารุ่น 620 กม. เนื่องจากมีน้ำหนักมากกว่า

MONA M03 ใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่เห็นได้ว่ามีระยะทางการขับขี่ที่ไกล เนื่องจาก XPENG ได้ออกแบบให้รถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียทานอยู่ที่ 0.194 Cd ซึ่งบริษัทเคลมว่าต่ำที่สุดในโลกในบรรดารถยนต์แฮทแบ็กไฟฟ้า

นอกจากนี้ XPENG ยังออกแบบให้ MONA M03 จัดการพลังงานได้ดีที่สุด โดยรถรุ่นนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 11.5 kWh/100 กม.

ระบบขับขี่อัจฉริยะของ MONA M03

MONA M03 ไม่มีการติดตั้งเซ็นเซอร์ LiDAR เหมือนกับรถรุ่นอื่น ๆ ของ XPENG แต่มีเรดาห์ความยาวคลื่น 2 มม., เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้องอีก 7 ตัว ที่ช่วยในการขับขี่อัจริยะระดับ L2 บริษัทอ้างว่ารถรุ่นนี้มีความสามารถในการรรับรู้ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกันในตลาด

ในรถรุ่นมาตรฐาน 2 รุ่นแรกจะรองรับระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง ส่วนในรุ่น 580 Max จะมีความสามารถมากกว่า โดยรองรับระบบช่วยขับขี่บนถนนในเมืองเพิ่มเติมและคาดว่าจะรองรับระบบขับขี่อัจฉริยะ XNGP เพียงรุ่นเดียว

นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติที่ดีที่สุด อัตราการจอดสำเร็จ 95% สามารถจอดในสถานการณ์ที่ยากได้ เช่น ช่องจอดรถถูกบดบังบางส่วนด้วยเสา

สีภายนอกและภายใน

  • ภายในมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Morning mist gray, Mid-day blue และ Night gray
  • ภายนอกมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Xinghan Rice, Xingyao Blue, Night Black, Nebula White และ Xingque Gray

XPENG จะเริ่มส่งมอบ MONA M03 2 รุ่นแรกในเดือนกันยายนนี้ ส่วนรุ่น 580 Max จะส่งมอบหลังช่วงตรุษจีนปี 2025 (ประมาณเดือนกุมภาพันธ์)

ที่มา carnewschina, cnevpost, xiaopeng

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.