Xpeng ยังคงมุ่งมั่นกับเทคโยโลยีการขับขี่อัจฉริยะและคาดว่าจะเห็นการพัฒนาครั้งใหญ่ ด้วยการบรรลุการขับขี่อัตโนมัติเต็ม ระดับ L3 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
Xpeng เผยว่าจะบรรุลุการขับขี่อัตโนมัติ ระดับ L3 ครึ่งหลังปี 2025
He Xiaopeng ซีอีโอของ Xpeng เผยว่า บริษัทจะเป็นเจ้าแรกที่บรรลุมาตรฐานการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ L3 ซึ่งจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับผู้ใช้ คาดว่าจะบรรลุในช่วงครึ่งหลังปี 2025 นี้
ซึ่งการขับขี่อัจฉริยะระดับ L3 นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยและละสายตาจากการมองถนนไปทำอย่างอื่นบนรถได้ ขณะเปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ แต่ต้องพร้อมกลับมาขับขี่ต่อในกรณีฉุกเฉิน
เขากล่าวว่า “ผมเชื่อว่าการขับขี่อัตโนมัติ L3 จะขับเคลื่อนรถยนต์ AI เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงในยุคของ iPhone 4” ซึ่งปัจจุบันระบบขับขี่อัจฉริยะขอ งXpeng อยู่ในระดับ L2 (อาจจะมีเรียก L2.9 ให้ใกล้เคียงกับ L3 บ้าง เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด)
ในช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา เจ้าของรถยนต์ Xpeng จำนวนมากได้เดินทางกลับบ้าน และใช้ระบบขับขี่อัจฮริยะของ Xpeng ทำให้ระบบ AI ได้รับรู้เกี่ยวกับการขับขี่อัจฉริยะมากขึ้นและได้รับการรีเฟรช ซึ่ง He Xiaopeng กล่าวว่า เขาเชื่อว่า AI ที่ใช้โมเดลขนาดใหญ่จะเร่งการขับขี่อัตโนมัติในสู่อีกระดับหนึ่ง
ในปี 2024 อัตราการเจาะตลาดของระบบการขับขี่อัจฉริยะระดับในจีนทะลุ 10% แล้ว และการมีระบบขับขี่อัจฉริยะก็เป็นเหตุผลหลักที่ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อ Xpeng P7+ ที่ Xpeng เคลมว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้า AI คันแรกของโลก
นอกจากนี้ He Xiaopeng ยังได้กล่าวถึง DeepSeek บริษัท AI ของจีนเป็นกลายเป็นไวรัลทั่วโลกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า DeepSeek ได้เขย่าวงการเทคโนโลยีระดับโลก ให้ประสบการณ์ที่เทียบเคียงได้กับโมเดลขนาดใหญ่ของ OpenAI แต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก ซึ่งในทศวรรษหน้า เขาเชื่อว่า AI จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงด้านฮาร์ดแวร์และซอฟตแวร์ทั่วโลก
ด้านธุรกิจในต่างประเทศ Xpeng กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะทำให้รถยนต์โมเดลต่าง ๆ มีจำหน่ายกว่า 60 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกภายในปี 2025 และ Xpeng ก็มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในบรรดาแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของจีน
ที่มา cnevpost