Sakura P.
Xpeng ยังคงให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีการขับอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทเผยว่าวางแผนลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนากว่า 9 พันล้านหยวนในปี 2025 และวางแผนผลิตชิปประมวผล เพื่อนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองด้วย
Xpeng วางแผนลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนากว่า 9.5 พันล้านหยวนในปี 2025 และวางแผนผลิตชิปของตนเอง
ระหว่างการประชุมการพัฒนามณฑลกวางตุ้งปี 2025 He Xiaopeng ซีอีโอของ Xpeng เผยว่า บริษัทวางงแผนลงทุน 9.5 พันล้านหยวน (1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในด้านงานวิจัยและพัฒนา โดยแบ่งลงทุนด้าน AI เกือบครึ่งประมาณ 4.5 พันล้านหยวน (600 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
ก่อนหน้านี้ Xpeng ได้ลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา รวมถึงการผลิตไปแล้วกว่า 50,000 ล้านหยวน (6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ส่วนใหญ่การดำเนินงานอยู่ในสำนักงานใหญ่ ในมณฑลกวางตุ้ง
He Xiaopeng เผยว่า เขาเชื่อว่าการขับขี่อัตโนมัติจะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งคล้ายกับที่รถยนต์ไฟฟ้าเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และในปัจจุบัน ผู้บริโภคก็พิจารณาการเลือกซื้อรถยนต์พลังงานใหม่ โดยมีระบบขับขี่อัตโนมัติเป็น 1 ใน 3 ปัจจัยหลัก
He Xiaopeng เชื่อว่า ข้อได้เปรียบหลักของ Xpeng อยู่ที่ระบบขับขี่อัตโนมัติ และบริษัทก็ต้องลงทุนและพัฒนาความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติต่อไป ซึ่ง Xpeng นั้นเป็นผู้บุกเบิกความสามารถในระบบขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 ที่เรียกว่าฟีเจอร์ XPILOT
ตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้ Xpeng ตั้งเป้าจะบรรลุการขับขี่อัตโนมัติระดับ L3 ภายในครึ่งหลังปี 2025 และจะขยายการใช้งานไปยังทั่วโลก ซึ่งการขับขี่อัตโนมัติ L3 นั้น รถยนต์สามารถรับมือกับสภาพการขับขี่ทุกรูปแบบ โดยไม่จำเป็นต้องควบคุมโดยผู้ขับขี่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ในปี 2025 Xpeng ยังวางแผนเริ่มผลิตชิปประมวลผล Turing ที่เป็นชิปประสิทธิภาพสูงของบริษัท ออกแบบมาเพื่อระบบ AI สามารถนำไปใช้กับรถยนต์ ยานพาหนะบินได้ และหุ่นยนต์
Xpeng ทำยอดขายรถยนตืทั้งหมดได้ 190,068 คันในปี 2024 และเปิดตลาดใหม่หลายแห่ง โดยล่าสุดคือ ตลาดประเทศฟินแลนด์ ซึ่งในปี 2025 นี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะทำให้รถยนต์โมเดลต่าง ๆ มีจำหน่ายกว่า 60 ประเทศ และในอีก 10 ปีข้างหน้า Xpeng ตั้งเป้าที่จะทำยอดขายให้ได้ 50% จากตลาดต่างประเทศ
ที่มา carnewschina
