BMW VDX รถคอนเซ็ปต์ไฟฟ้าตระกูล M ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดีไซน์ไปแนว Neue Klasse เรามาดูกันครับว่าการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าตัวแรงของแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการขับขี่อย่าง BMW ไปถึงขั้นไหนแล้ว
BMW VDX รถคอนเซ็ปต์ไฟฟ้าตระกูล M แรงสุดกว่า 1,300 แรงม้า พร้อมซอร์ฟแวร์ “Heart of Joy”
คันนี้อาจดูเหมือนรถ M ของคอนเซ็ปต์ Vision Neue Klasse แต่จริง ๆ แล้วคันนี้เป็นมากกว่านั้น เพราะ BMW ได้ตั้งชื่อว่า BMW Vision Driving Experience (VDX) คันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ BMW ใช้ระบบซอฟต์แวร์ “Heart of Joy” เป็นซอฟต์แวร์ที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ (หรือที่เรียกว่า “Superbrains”) ที่สามารถตอบสนองได้เร็วกว่าระบบในรถยนต์ที่ผลิตในปัจจุบันอย่างมาก
ระบบขับเคลื่อน และเทคโนโลยีขั้นสูง
ระบบขับเคลื่อน ระบบเบรก และระบบฟื้นฟูพลังงานถูกควบคุมพร้อมกันด้วยความเร็ว ที่ความแม่นยำ นอกจากนี้ระบบควบคุมเครื่องยนต์รวมถึงแชสซียังทำงานร่วมกันเป็นหน่วยเดียวโดยมีค่าหน่วงต่ำกว่า 1 มิลลิวินาที ถือว่าเร็วกว่ารถยนต์รุ่นปัจจุบันถึง 10 เท่า ทำให้ BMW VDX มีสมรรถนะที่เหนือชั้น ทั้งการควบคุม การทรงตัว การยึดเกาะถนน และความเร็วครับ
ระบบซอฟต์แวร์ “Heart of Joy”
BMW พัฒนาระบบควบคุม Dynamic Performance Control ขึ้นเองทั้งหมด นอกจากจะช่วยเพิ่มสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่แล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของพลังงานอีกด้วย เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป ระดับการฟื้นฟูพลังงานสูงสุดเพิ่มขึ้น 15 กิโลเมตร ระหว่างการขับขี่บนทางหลวง BMW อ้างว่าระบบเบรกแบบสร้างพลังงานกลับมาใช้ (Regenerative braking) มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 25% ทำให้สามารถขับขี่ด้วย One-pedal (ใช้เพียงแค่แป้นคันเร่ง) ได้เกือบทุกสถานการณ์
แม้ว่า BMW จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด แต่ VDX ขับเคลื่อน 4 ล้อ หมายความว่าคันนี้จะใช้มอเตอร์อย่างน้อย 2 ตัว หรืออาจจะมากกว่า เนื่องจากคันนี้ถือเป็นรถต้นแบบที่แรงที่สุดของ BMW แล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูงว่ามันใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ Quad-motor (มอเตอร์ 4 ตัว)
ต้นแบบ BMW M2 ไฟฟ้าที่เราได้เห็นเมื่อไม่นานมานี้ก็มีกำลังปาไปเเล้วทะลุ 1,000 แรงม้า ดังนั้น BMW คาดว่าไฟฟ้า M ที่ใช้มอเตอร์ 4 ตัว จะสามารถรีดพละกำลังได้ถึง 1 เมกะวัตต์ หรือ 1,341 แรงม้า
รถต้นแบบ BMW M2 ไฟฟ้า
สมรรถนะ
แม้ว่า BMW จะยังไม่เปิดเผยตัวเลขแรงม้าอย่างเป็นทางการ แต่ต้นแบบ VDX ที่ได้รับการทดสอบสามารถปรับระดับกำลังได้ตั้งแต่ 1,300-1,700 แรงม้า และมีแรงบิดสูงมหาศาลไปจนถึง 17,990 นิวตันเมตร ถือเป็นตัวเลขที่น่าเหลือเชื่อ ทีมวิศวกรของ BMW กำลังทดสอบระบบควบคุมขั้นสูงเพื่อให้สามารถจัดการกับแรงบิดมหาศาลที่เกิดขึ้นทันทีได้ แม้ว่ารถยนต์ผลิตจริงที่มีแรงบิดขนาดนี้อาจเป็นเรื่องยาก แต่ BMW ตั้งเป้าไปไกลกว่านั้นไปอีกด้วยซ้ำครับ
แม้ว่า BMW จะไม่มีแผนที่จะผลิต VDX เพื่อวางจำหน่าย แต่เทคโนโลยีที่พัฒนาในโครงการนี้จะถูกนำไปใช้กับรถยนต์ในตระกูล Neue Klasse ทั้งหมด ที่จะรวมถึง iX3 ที่จะเปิดตัวในปีนี้ และ i3 ซีดานในปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าอีกอย่างน้อย 4 รุ่นจะตามมาในปี 2028
ดีไซน์และแอโรไดนามิกส์
VDX มีดีไซน์ที่ดูเหมือน Vision Neue Klasse ปี 2023 แต่ได้รับการปรับแต่งแบบ M ตัวรถเตี้ยลงกว่าต้นแบบกันชนหน้า-หลังที่ดุดันขึ้น กระจกข้างแบบดั้งเดิมถูกนำกลับมาแทนที่กล้องมองข้าง BMW ใช้ลายพรางปกปิดดีไซน์ ซึ่งหมายความว่าอาจจะยังมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับอากาศพลศาสตร์บางอย่างที่แบรนด์ยังไม่ต้องการเปิดเผยก็เป็นได้ครับ
แรงกดอากาศสูงสุด 1.8 ตัน
ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่ VDX มีใบพัด 5 ตัวที่ช่วยสร้างแรงกดอากาศ ทำให้สามารถสร้างแรงกดรวมมหาศาลที่ 1.8 ตัน แม้ในขณะที่รถยังจอดอยู่ BMW ยังปรับแต่งองค์ประกอบอื่น ๆ เพื่อให้สามารถควบคุมกำลังระดับ 4 หลักได้อย่างมั่นใจ โดยไร้สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ที่ด้านหลังของตัวรถ
ภายในและการออกแบบเพื่อ Performance
ภายใน VDX ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ติดตั้งเบาะ Bucket Seat จาก Recaro พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบแข่งจาก Schroth มีถังดับเพลิงติดตั้งไว้ที่ที่วางเท้าผู้โดยสาร ระบบสวิตช์เพิ่มเติมสำหรับรถต้นแบบเท่านั้น ทาง BMW ได้เอาโลโก้จากพวงมาลัยออก หน้าจอสัมผัสกลาง พร้อมหน้าจอ Panoramic Vision ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน CES ที่แสดงผลเต็มแนวกระจกหน้า แต่จะไม่มีคันโยกด้านหลังพวงมาลัยเหมือนในคอนเซ็ปต์
อนาคตของ BMW M ไฟฟ้า
แม้ว่าคันนี้จะไม่มีแผนผลิตจริง แต่ Vision Driving Experience แสดงให้เห็นถึงอนาคตของ BMW M ไฟฟ้า ที่มีทั้งความสนุกในการขับขี่ ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น สำหรับ BMW iX3 จะเป็นรุ่นแรกของ Neue Klasse ที่เปิดตัวภายในปีนี้ ตามมาด้วย i3 ซีดานในปี 2026และ BMW M ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ อีกหลายรุ่นที่จะตามมาในปี 2028
ที่มา : BMW Blog