นี่คือ 2026 BMW iX3 ใหม่ทั้งหมดเพราะ Neue Klasse ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มใหม่ แต่เป็นการปฏิวัติแนวคิดการออกแบบ การผลิต และการขับเคลื่อนของรถยนต์ตระกูลไฟฟ้าของ BMW โดยสมบูรณ์ มาชมรายละเอียดจากสื่อนอกที่ได้ทดสอบการขับขี่และสัมผัสคันต้นแบบในสนามของ BMW กันครับ
BMW iX3 ใหม่ จุดเริ่มต้นของยุค Neue Klasse พร้อมแข่งกับ Mercedes-Benz GLC EV
วันนี้จะเป็นวันที่พิสูจน์ให้ได้เห็นว่า iX3 จะสามารถแข่งขันกับ Mercedes-Benz GLC ไฟฟ้ารุ่นใหม่ และ Audi Q6 E-tron ได้มากน้อยแค่ไหนครับ
ครี่งนี้สื่อนอกได้ไปร่วมทดสอบถึงสนามของ BMW ที่ Miramas ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสครั้งนี้ เราได้มีโอกาสทดลองขับรถต้นแบบของ BMW iX3 ใหม่ คันนี้ถือเป็นรุ่นแรกที่ใช้ใต้แพลตฟอร์ม Neue Klasse
Mercedes-Benz GLC 400e (EV) ไฟฟ้า 100%
จุดเริ่มต้นจากแนวคิดสู่ความจริง
BMW ได้เผยโฉมแนวคิดรถหลายรุ่นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา :
-
i Vision Dee – ซีดานขนาด Compact ที่เน้นการโต้ตอบแบบดิจิทัล
-
Vision Neue Klasse Saloon – ซีดานที่มีแนวทางการออกแบบใหม่ที่ชัดเจน
-
Vision Neue Klasse X – SUV ห้องโดยสารและระบบ Panoramic iDrive
-
Vision Driving Experience – ซีดาน 4 มอเตอร์ สมรรถนะแรงระดับรถตระกูล M
แต่วันนี้คันที่ใกล้ความจริงแล้วก็คือ iX3 ใหม่ ที่ใช้พื้นฐานจากแพลตฟอร์มที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด และมีการลงทุนกว่า £1.7 พันล้าน (ประมาณ 78,000 ล้านบาท) โดยกว่าครึ่งใช้ไปกับการสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ Debrecen ประเทศฮังการี ซึ่งจะเป็นที่เริ่มผลิต iX3 ภายในปีนี้
Vision Neue Klasse X
แพลตฟอร์ม Neue Klasse จะรองรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างน้อย 6 รุ่นภายในปี 2028 รวมถึง BMW 3 Series ไฟฟ้า ที่รุ่นต่อไปที่อาจกลับมาใช้ชื่อ i3 แต่จะเป็นซีดานไฟฟ้าขนาดซีรี่ส์ 3
BMW i3 2026
ห้องโดยสารสุดล้ำด้วย Panoramic iDrive
ภายในห้องโดยสารเห็นได้ชัดว่า iX3 ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่เปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานเกี่ยวกับรถไปทั้งหมด :
-
Panoramic iDrive – หน้าจอแสดงผลแนวนอนขนาดยาวบริเวณฐานกระจกหน้า
-
จอสัมผัสกลางทรงเหลี่ยม พร้อมหน้าจอ Head-up Display แบบ 3 มิติ
-
ระบบปฏิบัติการใหม่ BMW OS X รองรับอัปเดตแบบ OTA และระบบผู้ช่วยอัจฉริยะเวอร์ชันปรับปรุงใหม่
แม้ว่ารถต้นแบบจะยังถูกพรางตัวอยู่หลายส่วน แต่ภาพรวมดูเรียบง่าย และล้ำสมัย พร้อมพวงมาลัยรุ่นใหม่ และ แดชบอร์ดที่ต่ำกว่าเดิม

พื้นที่ภายในและประสบการณ์ผู้โดยสาร
พื้นที่ภายในใกล้เคียงกับ X3 รุ่นปัจจุบัน แต่ได้พื้นเรียบจากการใช้แพลตฟอร์มใหม่ แม้จะมีธรณีประตูที่กว้างทำให้ขึ้นลงยากกว่านิดหน่อย แต่ทาง BMW ตั้งใจเสริมโครงสร้างใต้บันไดประตูเพื่อการป้องกันแบตเตอรี่
-
พื้นที่เก็บสัมภาระ ยังไม่ยืนยันแน่ชัด แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับ X3 เครื่องยนต์น้ำมันที่ 570 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังจุได้สูงสุดประมาณ 1,700 ลิตร
ขุมพลังไฟฟ้ารุ่นใหม่ – Gen6
คันนี้ไม่มีปุ่มสตาร์ต หากกุญแจอยู่ใกล้ แค่เข้าเกียร์ก็พร้อมออกตัวได้เลย
ระบบขับเคลื่อน Gen6 ใหม่ของ BMW ใช้โครงสร้างไฟฟ้า 800V แทน 400V ของรุ่นก่อนหน้า ช่วยเพิ่มความสามารถในการชาร์จและประสิทธิภาพกำลังไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่แบบเซลล์ทรงกระบอก (Cell-to-Pack) ไม่ผ่านโมดูลแบบเดิมทำให้
-
ความหนาแน่นพลังงานสูงขึ้น 20%
-
ระยะทางสูงสุดประมาณ 800 กม. (มาตราฐาน WLTP)
-
ความเร็วชาร์จสูงสุด DC 400kW ใน 10 นาที วิ่งไกลได้ถึง 350 กม.
-
รองรับการชาร์จแบบสองทาง (Bi-directional charging)

ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะ
มีให้เลือก 2 รุ่น:
-
มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง
-
มอเตอร์คู่ ขับสี่ล้อ: มอเตอร์แบบ Asynchronous ด้านหน้า และ Synchronous ด้านหลัง
-
พละกำลัง 402 แรงม้า
-
แรงบิด 600 นิวตันเมตร
-
0-100 กม./ชม. ในไม่ถึง 5 วินาที
-
ความเร็วสูงสุดมากกว่า 180 กม./ชม.
การขับขี่และช่วงล่าง
โครงสร้างช่วงล่างใช้แบบเดียวกับ X3 รุ่นปัจจุบัน ปีกนกคู่หน้า และมัลติลิงก์หลัง ใช้สปริงเหล็กแต่เพิ่ม Hydraulic Rebound Stop ช่วยลดแรงกระแทกให้ความนุ่มนวลขึ้น
-
น้ำหนักกระจายหน้า-หลัง 49:51
-
น้ำหนักรวมประมาณ 2,300 กก.
-
ยาง Goodyear Eagle ขนาด 255/40 R21
ระบบควบคุมใหม่ชื่อ Heart of Joy ประมวลผลเร็วขึ้น 10 เท่า ให้การตอบสนองฉับไวขึ้นในโหมด Sport และนุ่มนวลขึ้นในโหมด Efficient
โหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ Personal (ปรับแต่งได้), Sport, Efficient และ Silent
ระบบเบรกแบบ Regen braking ทำงานได้ถึง 98% โดยไม่ต้องใช้เบรกจริงในสถานการณ์ทั่วไป ใช้เกียร์เลือกโหมด D (วิ่งไหล) หรือ B (เบรกแรงแบบ One-pedal)
ระบบขับขี่อัตโนมัติและความปลอดภัย
ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติระดับ 2+ ได้รับการปรับปรุงอย่างชัดเจน:
-
เพิ่มความแม่นยำของตรรกะการควบคุม
-
การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติที่ราบรื่นกว่าเดิม
-
ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Adaptive Cruise Control ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นของ BMW ยุคใหม่
BMW iX3 ใหม่ ไม่ใช่แค่การพัฒนาเทคโนโลยี EV แต่คือการเปลี่ยนปรัชญาโดยรวมของแบรนด์ ทั้งในด้าน:
-
การจัดวางโครงสร้าง
-
การขับขี่ที่แม่นยำและสนุกขึ้น
-
Interface ผู้ใช้งานที่ล้ำสมัย
แม้จะต้องรอจนถึงงาน Munich Motor Show เดือนกันยายนปีนี้ เพื่อเห็นเวอร์ชันผลิตจริง และอีกระยะหนึ่งกว่าจะวางขายในสหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แต่จากสิ่งที่ได้สัมผัสในต้นแบบครั้งนี้ BMW Neue Klasse คือ “การรีเซ็ต” โฉมโดยสมบูรณ์แบบนั่นเองครับ
ที่มา : AUTOCAR