BYD ผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนกำลังจะเปิดตัวเทคโนโลยีการขับขี่อัจริยะขั้นสูง (ADAS) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเดือนมีนาคมนี้ เตรียมนำไปใช้กับรถยนต์ BYD ในอนาคต
BYD เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีระบบขับขี่อัจฉริยะใหม่ (ADAS) เดือนมีนาคมนี้
รายงานจากสื่อท้องถิ่นของจีน LatePost เผยว่า BYD เตรียมเปิดตัวระบบการขับขี่อัจฉริยะใหม่ (ADAS) ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง โดยเวอร์ชันแรกจะพร้อมใช้งานในวันที่ 30 มี.ค. นี้ รถยนต์ไฟฟ้า Denza N7 จะเป็นรถยนต์กลุ่มแรกที่ได้รับการอัปเกรด จากกลุ่มรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในไลน์อัป 20 กว่ารุ่น คาดว่าจะได้เห็นฟีเจอร์นี้ในเมืองใหญ่ ๆ ก่อน เช่น เซินเจิ้น
BYD Yangwang U7
ปีที่แล้ว ยอดขายของ BYD ส่วนใหญ่มาจากรถยนต์รุ่นกลางที่แทบไม่มีฟีเจอร์การขับขี่ขั้นสูงเลย ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม อย่าง NIO, XPeng, Huawei และ Li Auto พยายามนำเสนอคุณสมบัติเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะให้เป็นมาตรฐานของรถตนเอง
แต่เมื่อ BYD เริ่มเข้าสู่กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมในนามแบรนด์ YanWang และ Fang Cheng Bao ก็เริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งบริษัทมุ่งเน้นการผลิตเทคโนโลยีใหม่ภายในองค์กร
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นความคืบหน้ามากขึ้นจาก BYD ที่บริษัทประกาศลงทุนด้านเทคโนโลยีรถยนต์อัจฉริยะและระบบ ADAS มูลค่าถึง 14 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำด้านระบบขับขี่อัจฉริยะ BYD ได้เปิดตัวสถาปัตยกรรม XUANJI ที่เป็นเครือข่ายสมองและประสาทของรถยนต์พลังงานใหม่อัจฉริยะ การทำงานสำหรับระบบขับขี่อัจฉริยะใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยทีมพัฒนามากกว่า 4,000 คน
คาดว่าในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้า BYD จะมีมูลค่าสูงถึง 42,000 ดลอลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากบริษัทจะรวมเทคโนโลยีใหม่นี้ให้เป็นมาตรฐานมากับรถยนต์ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นกลาง เช่น Dolphin, ATTO 3 ระบบขับขี่อัจริยะอาจจะเป็นตัวเลือกเสริมให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเพิ่มเติม
BYD ATTO 3
Wang Chuanfu ซีอีโอของ BYD เผยว่า ยอดขายรถยนต์ BYD มากกว่า 57% ในปี 2023 เป็นรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัจฉริยะ ซึ่งก่อนหน้านี้ BYD ว่าจ้างเทคโนโลยีจากผู้พัฒนาภายนอก แต่การลงทุนพัฒนาระบบเป็นของตนเองต่อจากนี้จะช่วยให้องค์กรประหยัดต้นทุนและเวลาในการพัฒนามากขึ้น
ที่มา electrek