BYD กำลังเดินหน้าเข้าสู่ตลาดรถกระบะในประเทศจีน หลังมีภาพหลุดรถต้นแบบในจีน โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะแตกต่างจากรุ่น BYD Shark 6 ที่วางขายในต่างประเทศ แต่มีแนวโน้มสูงว่าจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกันคือ DM-O
ภาพหลุด! รถกระบะ BYD ใหม่ในจีน พื้นฐานเดียวกับ Shark 6 (รุ่นใหม่หรือ Shark 6 ปรับโฉมที่จีน?)
จากภาพ Spy shots ที่หลุดออกจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่ารถกระบะคันใหม่นี้มีองค์ประกอบของการออกแบบ Dynasty ของ BYD ซึ่งอาจใช้แชสซีแบบ Monocoque ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่น Sealion 6
แม้ทาง BYD ยังไม่ยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่จากความคล้ายคลึงของแพลตฟอร์มและการออกแบบ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่ารถกระบะรุ่นใหม่นี้คือ Shark 6 รุ่นปรับโฉมสำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ
สเปกเบื้องต้นจาก Shark 6
BYD Shark 6 ที่จำหน่ายในตลาดต่างประเทศอย่าง อเมริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มียอดขายประมาณ 20,000 คัน ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายนที่ผ่านมา
จุดเด่นของ BYD Shark 6:
- ระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid DM-O
- เครื่องยนต์ 1.5T + ระบบ EHS (Electric Hybrid System)
- มอเตอร์ไฟฟ้า 3-in-1 กำลังรวมสูงสุด 321 kW แรงบิดรวมสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร
- อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 5.7 วินาที
- แบตเตอรี่ BYD Blade Battery 29.58 kWh
- วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 100 กม.
- อัตราสิ้นเปลืองในโหมดไฮบริดอยู่ที่ 7.5 ลิตร/100 กม.
- ระยะทางรวมสูงสุดราว 840 กม.
สมรรถนะทางออฟโรด:
- ใช้โครงสร้างแบบ เฟรมไม่รับน้ำหนัก (non-load-bearing)
- ระบบกันสะเทือนแบบ Double Wishbone แบบระยะยาว
- ขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า (e-AWD) พร้อม ดิฟล็อกกลาง
- มุมไต่: 31 องศา, มุมจาก: 19.3 องศา
- ระยะต่ำสุดจากพื้น: 210 มม.
ราคาต่างประเทศ vs. จีน
BYD Shark 6 วางจำหน่ายใน เม็กซิโก และ ออสเตรเลีย ด้วยราคา 400,000 หยวน (ประมาณ 1,820,000 บาท)
แต่สำหรับรุ่นผลิตในจีน คาดว่าจะมีราคาถูกลงมาก เนื่องจากไม่มีภาษีนำเข้า และเป็นไปตามกลยุทธ์ด้านราคาของ BYD ในประเทศจีนคาดว่าราคาจะอยู่ระหว่าง 200,000 – 250,000 หยวน (ประมาณ 1,010,000 – 1,260,000 บาท)
เทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ และผลกระทบในตลาด
BYD เตรียมการอัปเกรดระบบช่วยขับอัจฉริยะ (ADAS) ให้กับรถกระบะใหม่นี้ ถือว่าเหนือกว่าเวอร์ชันขายต่างประเทศ แม้ยังไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่มีการคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวภายในปลายปีนี้
การเข้าสู่ตลาดรถกระบะของ BYD ด้วยรถที่ใช้พลังงานใหม่ (NEV) อาจสร้างแรงกดดันให้แบรนด์คู่แข่ง เช่น Great Wall Motors และ Changan ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ในกลุ่มนี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า BYD กำลังวางรากฐานการเจาะกลุ่มผู้ใช้กระบะ หากกระบะรุ่นใหม่นี้สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะและราคาได้จริง ก็นับว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับตลาดรถกระบะในจีน และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงบ้านเราที่หลายคนก็ให้ความสนใจในรถกระบะพลังงานใหม่ไม่น้อยเลยครับ
ที่มา : Carnewschina