ใน , , , ,

Elaphe เทคโนโลยี “มอเตอร์ในล้อ” เขย่าวงการรถ EV บอกลาเพลาขับแบบเดิม?

Elaphe เทคโนโลยี “มอเตอร์ในล้อ” เขย่าวงการรถ EV บอกลาเพลาขับแบบเดิม?

Lordstown Endurance รถกระบะไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกาได้ถูกนำไปทดสอบวิ่งที่ประเทศสโลวีเนีย ที่ได้นำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสุดล้ำจาก Elaphe Propulsion Technologies บริษัทสตาร์ทอัพจากสโลวีเนียที่กำลังพัฒนา มอเตอร์ไฟฟ้าในล้อ (In-Wheel Motor) ที่สามารถส่งแรงบิดให้กับแต่ละล้ออย่างอิสระโดยไม่ต้องใช้เพลาขับแบบเดิมอีกต่อไป

มอเตอร์ในล้อคืออะไร?

โดยปกติมอเตอร์ของรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ระหว่างล้อทั้งสองข้าง แล้วส่งกำลังผ่านเกียร์ และเพลาขับ แต่ Elaphe กลับคิดต่าง โดยนำมอเตอร์ไปติดตั้ง “ภายในล้อ” ซึ่งช่วยตัดชิ้นส่วนกลไกอย่างเกียร์ เพลาขับ และ CV joint ออกไป ทำให้ประสิทธิภาพการตอบสนองไวขึ้น และใช้พื้นที่การติดตั้งน้อยลง

เทคโนโลยีนี้ทำให้คันเร่งเร็วกว่าเดิมถึง 20 เท่า ลดการสูญเสียพลังงานจากแรงเสียดทาน และทำให้การควบคุมแรงบิด (Torque Vectoring) ทำได้แม่นยำยิ่งกว่าเดิม

เบื้องหลังของ Elaphe

บริษัท Elaphe Propulsion Technologies ตั้งอยู่ที่เมือง Ljubljana ประเทศสโลวีเนีย มีพนักงานประมาณ 60 คน และก่อตั้งโดยอดีตผู้บริหารจาก Bosch ปัจจุบัน Elaphe เป็นซัพพลายเออร์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์หลายราย เช่น Rivian, Lightyear และ Lordstown Motors

ที่สนามทดสอบ Vransko ทางบริษัทได้นำรถต้นแบบ 3 รุ่นมาทดสอบระบบขับเคลื่อนล้อใน ได้แก่ Lordstown Endurance, Mazda MX-30, และ Hyundai IONIQ 5 ซึ่งเป็นการดัดแปลงจากรถรุ่นปกติให้กลายเป็นรถทดสอบระบบมอเตอร์ในล้อ

ข้อดี และข้อจำกัดของระบบมอเตอร์ในล้อ

หากรถเริ่มต้นใช้ระบบมอเตอร์ในล้อ Elaphe ตั้งแต่แรกจะช่วยให้ตัวถังเตี้ยลงได้ราว 5% ลดแรงต้านอากาศ และเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารได้มากขึ้น อีกทั้งยังคาดว่าจะช่วยเพิ่มระยะทางวิ่งได้ประมาณ 3% เมื่อขับที่ความเร็วคงที่บนทางหลวง

มอเตอร์ในล้อก็มีข้อจำกัด โดยเฉพาะเรื่อง “น้ำหนักที่ไม่ถูกสปริงรองรับ (Unsprung Weight)” เนื่องจากมอเตอร์ถูกติดไว้ในล้อโดยตรง ส่งผลต่อการควบคุม และความนุ่มนวลของช่วงล่าง ผู้ผลิตจึงต้องออกแบบระบบกันสะเทือนใหม่ตั้งแต่ต้นเพื่อรองรับเทคโนโลยีนี้

การทดสอบบนสนามจริง

การทดสอบได้นำ Hyundai IONIQ 5 ที่ติดตั้งระบบของ Elaphe บนพื้นผิวทดสอบแบบ “Split-μ” ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นพื้นถนนปกติ อีกครึ่งเป็นพื้นเปียกที่ลื่น ตอนทดสอบได้เหยียบคันเร่งเต็มแรง แต่รถกลับพุ่งตรงโดยไม่เสียการทรงตัว แม้ไม่จับพวงมาลัยเลย ระบบสามารถจัดการแรงบิดของแต่ละล้อให้เหมาะสมในเสี้ยววินาที

จุดเด่นอีกอย่างของเทคโนโลยีนี้คือสามารถ “ควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อ” เพื่อช่วยให้เข้าโค้งได้มั่นคงยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มแรงบิดต่อด้านนอกขณะเข้าโค้งเพื่อเพิ่มแรงเกาะถนน หรือปรับให้ล้อด้านในมีกำลังมากขึ้นเพื่อลดอาการโคลงของตัวรถ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนรถอยู่บนกิมบอล ไม่มีการโยนตัวแม้ว่าจะชู้ตเข้าโค้งอย่างแรง

เสียงและความรู้สึกใหม่จากมอเตอร์ไฟฟ้า

แม้ว่ารถไฟฟ้ามักจะถูกวิจารณ์ว่าไร้ “อารมณ์” ของเครื่องยนต์สันดาป แต่ Elaphe พบวิธีทำให้มอเตอร์ในล้อส่งเสียง และแรงสั่นคล้ายเครื่องยนต์จริงได้ ด้วยการปรับคลื่นความถี่ของอินเวอร์เตอร์ให้ทำหน้าที่เหมือนลำโพง ซึ่งยังสามารถใช้แทนระบบเสียงเตือนคนเดินถนน หรือแม้แต่ลำโพงซับวูฟเฟอร์ได้ด้วย

อนาคตของยานยนต์ไฟฟ้า

แม้เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ แต่ Elaphe แสดงให้เห็นว่าการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ถึงขีดสุด การรวมระบบมอเตอร์ในล้อ พร้อมกับซอฟต์แวร์ขั้นสูง อาจเปลี่ยนวิธีออกแบบ และขับขี่รถยนต์ไปได้อย่างแน่นอน รถหนึ่งคันอาจเป็นได้ทั้งรถครอบครัว และรถแข่งได้เพียงกดปุ่มเดียว!

แต่การจะได้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีนี้จำเป็นต้องออกแบบรถใหม่ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน Elaphe ตั้งเป้าเป็นซัพพลายเออร์หลักให้กับค่ายรถยนต์ทั่วโลกในอนาคต แม้จะต้องใช้เวลาอีกสักระยะก่อนที่เราจะได้เห็นรถที่ใช้ระบบมอเตอร์ในล้อออกสู่ตลาดจริง

ที่มา : Insideevs

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.