Sakura P.
ตอนนี้รถยนต์ประเภทใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นคือ รถยนต์ไฟฟ้าขยายระยะทาง (Extended-Range Electric Vehicles) หรือที่เรามักจะรู้จักกันในชื่อย่อว่า EREV (บางแบรนด์เรียก REEV) ระบบนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในตอนนี้ เนื่องจาก Chevy Volt ก็ถือเป็น EREV ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจคือ รถยนต์ EREV รุ่นใหม่ ๆ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่แบรนด์รถยนต์หลายแบรนด์เริ่มพัฒนาและเปิดตัวกันมากขึ้น
รถยนต์ระบบขยายระยะทาง (EREV) กำลังเติบอย่างรวดเร็วในจีน
รถยนต์ EREV คืออะไร
ถ้าจะพูดถึงความหายของรถ EREV ให้เราเข้าใจง่าย ๆ ว่า รถยนต์ EREV ก็ถือเป็นหนึ่งในประเภทรถยนต์ไฮบริด (Hybird) ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่สามารถเสียบชาร์จได้ แต่สามารถใช้เครื่องยนต์สันดาปในทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่หรือส่งให้กับมอเตอร์ได้ แต่เครื่องยนต์จะไม่ส่งกำลังไปยังเพลาล้อใด ๆ [ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรถ EREV เพิ่มเติม]
การที่เครื่องยนต์ไม่ส่งกำลังไปยังเพลาล้อ ทำให้รถยนต์ EREV แยกออกมาเป็นรถอีกหนึ่งเวอร์ชัน ซึ่งแตกต่างจากระบบ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ที่สามารถใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนล้อโดยตรงได้ หรือใช้โหมด Parallel เป็นการทำงานทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังไปยังล้อร่วมกันได้
สรุปง่าย ๆ คือ ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้รถยนต์ EREV ได้ และยังสามารถเติมน้ำมันได้เหมือนรถยนต์ PHEV แต่ EREV ถูกออกแบบมาให้พึ่งพาพลังงานไฟฟ้ามากกว่าน้ำมัน และมีแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้วิ่งระยะทางไฟฟ้าได้มากกว่ารถยนต์ PHEV
EREV ในตลาดโลกและตลาดจีน
จากรายงาน Electric Vehicle Outlook 2025 ของ BloombergNEF ระบุว่า EREV เป็นระบบขับเคลื่อนที่เติบโตเร็วที่สุดทั่วโลก โดยมีสาเหตุหลักมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศจีน
ในปี 2024 ยอดขาย EREV ในประเทศจีนพุ่งขึ้น 83% เป็น 1.2 ล้านคัน ตามหลังรถยนต์ PHEV (3.4 ล้านคัน) และรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ BEV (6.3 ล้านคัน) ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ายังคงครองตลาด
แต่รถยนต์ EREV กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ BEV ช่วยลดความกังวลเวลาเดินทางไกลที่ไม่ค่อยมีจุดชาร์จได้ ถึงแม้ว่าในจีนจะมีสถานีชาร์จเป็นจำนวนมาก แต่ผู้คนบางส่วนก็ยังกังวลในเรื่องนี้
รายงานเสริมว่า EREV โดยเฉลี่ยในประเทศจีนปี 2024 มีแบตเตอรี่ขนาด 39 kWh สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนประมาณ 170 กม. และทำงานในโหมดไฟฟ้ามากกว่า 70% ของการเดินทางทั้งหมด
BloombergNEF คาดการณ์ว่าการนำ EREV มาใช้นั้น จะสามารถแซงหน้ารถยนต์ PHEV ในประเทศจีนภายในสิ้นทศวรรษนี้ (ปี 2030) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจเป็นเหมือนสนามทดสอบสำหรับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกที่ประสบปัญหาในการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ เช่น สหรัฐอเมริกา
สถานการณ์ EREV ในสหรัฐอเมริกาที่น่าจับตามอง
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ BEV แล้ว พวกเขามักจะไม่กลับไปใช้น้ำมันอีก แต่ทัศนคติเชิงบวกโดยรวมต่อรถยนต์ไฟฟ้ากลับลดลงเล็กน้อยในสหรัฐอเมริกาในปีนี้ ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ที่ต้องการยกเลิกนโยบายสภาพภูมิอากาศในยุคไบเดน
แม้แต่ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ซึ่งเคยเป็น “เพื่อนสนิทคนแรก” ของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักในการผลักดันประเทศไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
จึงคาดว่ารถยนต์ EREV อาจจะมีบทบาทในสหรัฐอเมริกามากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันรถยนต์ EREV จะยังไม่แพร่หลายในสหรัฐอเมริกา แต่ก็มีหลายรุ่นที่กำลังจะเปิดตัว เช่น
- Stellantis ได้เลื่อนการเปิดตัวรถกระบะ Ram 1500 REV ที่เป็น BEV เพื่อให้ความสำคัญกับ Ram 1500 Ramcharger ซึ่งเป็นรถกระบะ EREV
- Nissan ไม่ได้นำเสนอรถยนต์ไฮบริดในสหรัฐอเมริกา แต่ประกาศว่าจะนำระบบ EREV มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการฟื้นตัว
- Scout Motors จะพัฒนาและเปิดตัวรถกระบะและ SUV ประเภท EREV ควบคู่ไปกับรถยนต์ BEV โดยเริ่มตั้งแต่ปีหน้า
- Jim Farley ซีอีโอของ Ford กล่าวว่ารถกระบะไฟฟ้า BEV มีปัญหาเรื่องเศรษฐศาสตร์ที่ “ไม่สามารถแก้ไขได้” เนื่องจากน้ำหนักและราคา จึงมองว่า EREV เป็นตัวเลือกที่จำเป็น เมื่อพิจารณาถึงความต้องการ SUV และรถกระบะขนาดใหญ่ของชาวอเมริกัน
รถยนต์ EREV ในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทย รถยนต์ไฟฟ้าล้วน BEV กำลังได้รับความนิยม และมีอัตราการเติบโตในตลาดประเทศไทยมากกว่ารถ PHEV อย่างชัดเจน เนื่องจากยอดจดทะเบียนของรถ BEV ก็เยอะกว่า PHEV ในปี 2024 และมีปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ จากทั้งภาครัฐ เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นเรื่องความประหยัดและการรักษาสิ่งแวดล้อม
ส่วนรถยนต์ EREV แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนก็เริ่มนำเข้ามาทำการตลาดแล้ว โดยแบรนด์แรกเป็น Changan Deepal ที่เพิ่งเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ Deepal S05 REEV ในงาน Motor Expo 2024 ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง Changan เรียกระบบนี้ของตนเองว่า REEV (Range Extended Electric Vihicle) และคาดว่าในอนาคตก็อาจจะมีรถรุ่นใหม่จากแบรนด์อื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น
จากข้อมูลหมดนี้ บ่งบอกว่าได้รถยนต์ EREV กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมในหลายประเทศ แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะแซงรถยนต์ไฟฟ้าล้วน BEV เพียงแค่มองว่ารถยนต์ EREV อาจเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยอุดช่องว่างของรถยนต์ BEV บางส่วนได้ในขณะนี้ ทั้งการครอบคลุมระยะทางด้วยแบตเตอรี่ การลดความกังวลในการหาจุดชาร์จ เป็นต้น และจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปไปยังรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเต็มรูปแบบ
ที่มา insideevs
