เมื่ออัตราการเติบโตของการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้การแข่งขันของบริษัทชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นโดย รายงานจาก Reuters เผยว่ามีบริษัทเกี่ยวกับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 900 แห่งทั่วโลก พยายามหาทำเลดี ๆ สำหรับการสร้างสถานีชาร์จสาธารณะ
รายงานเผย บริษัทบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หลายร้อยแห่ง ขยายสถานีเพิ่มและแย่งชิงทำเลที่ดีที่สุด
Tomi Ristimaki ซีอีโอของ Kempower ผู้ผลิตเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากฟินแลนด์ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า ลูกค้าของเรา (หมายถึงบริษัทสถานีชาร์จ) กำลังแย่งชิงที่ดิน เพื่อให้ได้ทำเลที่ดีที่สุด ใครที่ได้ทำเลที่ดีก็สามารถทำรายได้สูงขึ้นในปีต่อ ๆ ไปได้
ปัจจุบัน Tesla เป็นผู้นำด้านสถานีชาร์จในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้อหลายแห่งก็เริ่มขยับตัวเซ็นสัญญากับบริษัทอื่น ๆ เพื่อร่วมติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
Loren McDonald ซีอีโอของ EVAdoption ได้ให้ข้อมูลกับ Reuters เพิ่มเติมว่า เครือข่ายการชาร์จเร็วจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปี 2030 โดยจุดสำคัญจะเป็นร้านค้าต่าง ๆ เช่น Walmart, Circle K และ Pilot – GM และ Pilot Flying J ในขณะที่บริษัทสถานีชาร์จก็พยายามหาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างสถานีชาร์จและสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานี
โดยมีบริษัทที่ทำสัญญาพิเศษร่วมกับ McDonald’s และ Starbucks ในต่างประเทศ อย่างเช่น บริษัท Iziva จากฝรั่งเศสได้ทำข้อตกลงติดตั้งเครื่องชาร์จเร็วในร้าน McDonald หลายสาขา, บริษัท Instavolt ก็ทำสัญญาร่วมกับ McDonald’s ในประเทศอังกฤษ และ Volvo ก็เริ่มติดตั้งเครื่องชาร์จในร้าน Starcbuck ในสรหัฐอเมริกาแล้ว
สถานีชาร์จที่ได้ที่ตั้งในทำเลที่ดีอาจจะใช้เวลาประมาณ 4 ปี ถึงจะได้ผลกำไรหรือมีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 15% ซึ่งธุรกิจสถานีชาร์จเป็นเดิมพันที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุนระยะยาว
แน่นอนว่า ปัจจุบันมีทั้งบริษัทสตาร์ทอัพเล็ก ๆ จำนวนมากที่ต้องแข่งขันกับนักลงทุนรายใหญ่ ในการหาทำเลที่ตั้งเพื่อสร้างสถานีชาร์จ ส่วนบางบริษัทก็พยายามทำสัญญาควบรวมกิจการระหว่างผู้ลงทุนและร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ เพื่อขยายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากขึ้น คาดว่าเราได้เห็นสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา electrek