คาดว่าใกล้จะได้เปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบหรือ Full Self-Driving (FSD) ในประเทศจีนเข้าไปทุกทีแล้ว ล่าสุดท้ายรายงานเผยว่า Tesla ได้รับอนุญาตให้เริ่มทดสอบระบบ FSD โดยนำร่องด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 10 คัน
Tesla เตรียมทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ FSD ในเซี่ยงไฮ้ เริ่มนำร่องรถยนต์ 10 คันแรก
รายงานเผยว่า Lu Sen ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลของคณะกรรมการบริหารเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ ในเขต Nanhui New City ไฟเขียวให้ Tesla ทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบหรือ Full Self-Driving (FSD) โดยนำร่องทดสอบรถ 10 คันแรก เขตนี้อยู่ใกล้กับโรงงาน Giga Shanghai ของ Tesla
Lu Sen ยังไม่ได้ระบุว่าการทดสอบระบบ FSD จะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ คาดว่าจะต้องรอให้ Tesla ลงทะเบียนซอฟต์แวร์ที่กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) เพื่อทำการอนุมัติระบบ FSD ให้เรียบร้อยก่อน
หลังจากได้รับการอนมัติจาก MIIT แล้ว พนักงานของ Tesla จะได้รับอนุญาตให้ทดสอบระบบ FSD บนถนนสาธารณะในเขตที่กำหนด ก่อนจะเปิดให้ลูกค้าชาวจีนได้เริ่มใช้งาน
ก่อนหน้านี้ Reuters รายงานว่า Tesla กำลังพิจารณาออกใบอนุญาตระบบ FSD ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ในจีนด้วย ถ้าหากระบบนี้อนุมัติให้ใช้ในประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน Tesla มีเพียงบริการระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Autopilot ในจีนเท่านั้น
Tesla ก่อตั้งศูนย์ข้อมูลในเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ปี 2021 เป็นที่จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดของบริษัทในประเทศจีน สำหรับรวมรวมและประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลระบบ Autopilot, ข้อมูลการขาย, ข้อมูลการผลิต, ข้อมูลการชาร์จ และอื่น ๆ
นอกจากนี้ Tesla ยังได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการสำหรับระบบ FSD ในเซี่ยงไฮ้และทีมจัดการข้อมูล รวมถึงส่งวิศวกรจากสำนักงานใหญ่จากสหรัฐอเมริกาไปฝึกอบรมพนักงานชาวจีนด้วย ซึ่งการจะเปิดใช้ระบบ FSD ในประเทศจีนนั้นต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขห้ามนำข้อมูลส่งออกไปนอกประเทศ จึงทำให้ Tesla ต้องจัดเก็บ ประมวลผล และเรียนรู้ข้อมูลระบบ FSD ทั้งหมดในประเทศจีน โดยไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังสหรัฐอเมริกา
และจากการประกาศอัปเดตซอฟแวร์ล่าสุดในประเทศจีนนั้น เห็นได้ว่า Tesla นำแผนที่ของ Baidu มาใช้ในรถยนต์แล้ว คาดว่าจะเป็น Baidu Maps V20 ที่ให้การนำทางระดับเลนอย่างละเอียด ซึ่งความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่ต้องใช้ข้อมูลภายในประเทศจีน จึงคาดว่าจะทำให้ระบบ FSD ของ Tesla เริ่มเข้าสู่การทดสอบและเตรียมเปิดใช้งานในประเทศจีนเร็ว ๆ นี้
ที่มา carnewschina