Neta ได้เปิดตัวรถยนต์ Neta S ในประเทศจีนเมื่อปีที่ผ่านมา รุ่นที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ รถแพลตฟอร์ม EREV ทำระยะทางได้ 1,160 กม. ล่าสุดทาง Neta ก็ได้เตรียมเปิดตัว Neta S รุ่นใหม่ ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% มาพร้อมแบตเตอรี่ Qilin วิ่งไกลถึง 1,075 กม.
รถยนต์ไฟฟ้า Neta S ใหม่ มาพร้อมแบตเตอรี่ Qilin วิ่งไกลถึง 1,075 กม.
กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ได้เผยข้อมูลจำเพาะของรถยนต์ Neta S ซีดานใหม่ โดยระบุว่าใช้แบตเตอรี่ Qilin จาก CATL ส่งผลให้ Neta S วิ่งได้ไกลถึง 1,075 กม. นับเป็นรถยนต์ EV รุ่นที่ 3 ที่ใช้แบตเตอรี่ Qilin ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกใช้ในรถยนต์ Zeekr 009 และ Zeekr 001 มาแล้ว ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) วิ่งได้ไกลมากกว่า 1,000+ กม.
แบตเตอรี่ Qilin ของ CATL นั้น มาพร้อมเทคโนโลยีอันชาญฉลาด มีประสิทธิภาพสูง และจัดการการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี มีความหนาแน่นของพลังงานอยู่ที่ 255 Wh/kg
รถยนต์ Neta S ใหม่จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหน้าตัวเดียว มีพละกำลังที่ 200 kW 268 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 117.04 kWh น้ำหนักแบตเตอรี่อยู่ที่ 588 Kg.
ส่วนมิติตัวถังของ Neta S มีขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) 4,980 x 1,980 x 1,450 มม. ระยะฐานล้อ 2,980 มม. มีค่าสัมประสิทธิ์การต้านทานลมเพียง 0.216Cd เท่านั้น
ในแง่ของการออกแบบ Neta S มีดีไซน์ทรงสปอร์ต ตัวรถเตี้ยจุดศูนย์ถ่วงต่ำ กระจังหน้าแบบปิดตามแบบรถไฟฟ้า ไฟหน้ารถแบบ LED มาพร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน ทำให้หน้ารถดูโดดเด่นมาก
ดีไซน์ภายในรถโดยรวมดูเรียบง่าย มีหน้าจอแนวตั้งขนาดใหญ่ 17.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K ตั้งอยู่ตรงกลาง และมีหน้าจอ AR-HUD สำหรับคนขับที่แสดงข้อมูลนำทาง ระบบขับขี่ ระบบความปลอดภัย รวมถึงความบันเทิงต่าง ๆ
ในฝั่งผู้โดยสารก็มีหน้าจอความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้วที่รับชมเนื้อหาได้อย่างเต็มอิ่ม ส่วนระบบอัจฉริยะต่าง ๆ นั้นประมวลผลด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155
ด้านระบบเสียงประกอบด้วยลำโพง 21 ตัว กำลังขับ 1,216 W มีลำโพงหลัก 12 ตัว ซับวูฟเฟอร์ 1 ตัว ลำโพงเพดาน 4 ตัว และลำโพงพนักพิงศีรษะ 4 ตัว
Neta ยังไม่ได้เปิดเผยราคารถยนต์ Neta S ใหม่ในตอนนี้ โดยราคารถยนต์ Neta S รุ่นเดิมที่เคยเปิดตัวนั้นมีราคาอยู่ในช่วง 89,800 – 341,800 หยวน (26,600 – 47,900 USD) รุ่นที่แพงที่สุดเป็น Neta S รุ่น EREV ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า Neta S รุ่นใหม่ไฟฟ้าเพียว วิ่งได้ไกล 1,075 กม. นี้จะเปิดตัวที่ราคาเท่าไหร่
ที่มา carnewschina, arenaev