Polestar 4 รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ต SUV coupé ที่สำเร็จด้วยยอดขายที่ดีในประเทศจีน ได้ทำการเปิดตัวและบุกตลาดที่ยุโรป และประเทศออสเตรเลียแล้ว เรามาดูกันครับว่าราคาของทั้งสองที่จะเป็นอย่างไร และมีอะไรน่าสนใจบ้างเกี่ยวกับคันนี้ เพื่อเป็นการวอร์มอัพก่อนที่ Polestar 4 จะมาตีตลาดไทย เรามาดูไปพร้อม ๆ กันครับ
Polestar 4 เปิดตัวและบุกทำการตลาดที่ยุโรป และออสเตรเลียแล้ว
Polestar 4 เป็นนวัตกรรมล่าสุดจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหรูสมรรถนะสูงสัญชาติสวีดิช ที่ได้ทำการตลาดอย่างเป็นทางการที่ยุโรป และออสเตรเลียแล้ว Polestar 4 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 63,200 ยูโร (ประมาณ 2.4 ล้านบาทไทย) และ 81,500 ออสเตเลียนดอลล่า (ประมาณ 1.9 ล้านบาทไทย) Polestar 4 ถือว่าเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ที่ประเทศจีนช่วงสิ้นปี 2023 คาดว่าสายการผลิตจะเริ่มช่วงกลางปี 2024 และเริ่มส่งมอบได้ในช่วงเดือนสิงหาคม
ด้วยการออกแบบอันลาดชันของหลังคาแบบ coupé ถูกต้องตามหลักแอโรไดนามิก กว้างขวางด้วยขนาดตัวแบบ SUV ทำให้ Polestar 4 จัดให้อยู่ในหมวด SUV Coupé คันนี้ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่แรงที่สุดสำหรับรถ production car ของไลน์อัพ Polestar ปัจจุบันแล้ว ตำแหน่งของคันนี้จะอยู่ระหว่าง Polestar 2 และ Polestar 3 ในเรื่องของขนาดตัวและราคา
Thomas Ingenlath CEO ของ Polestar ได้กล่าวในงานว่า “การเปิดตัวของ Polestar 4 ในตลาดหลาย ๆ ประเทศของปี 2024 ถือว่าเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของทางแบรนด์ ด้วยการเพิ่มคันนี้เข้ามาอยู่ในไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้า เพราะ Polestar 4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรูสมรรถนะสูงซึ่งเป็น D-segment SUV อีกทั้งยังมาในรูปทรงท้ายตัดแบบ coupé ทำให้ทรวดทรงสวยงามน่ามอง และยังมีที่นั่งโดยสารที่เพียงพอ”
คลิปวิดีโอพาชมทั้งตัวรถของ Polestar 4
การออกแบบของ Polestar 4
Polestar 4 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถคอนเซ็ปอย่าง Polestar Precept ที่เริ่มออกแบบใหม่หมดตั้งแต่เริ่มต้นทุกกระบวนการ จุดเด่นเลยคือคันนี้ไม่มีกระจกหลัง ที่ช่วยลดการถูกรบกวนจากด้านหลัง คันนี้มีการออกแบบไฟที่เป็นเอกลักษณ์จาก Polestar เพราะได้นำดีไซน์แฉกจากโลโก้ไปออกแบบเป็นไฟหน้านั้นเอง เรื่องหลักประสิทธิภาพของแอโรไดนามิกถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของคันนี้ สังเกตได้จากจมูกด้านหน้าที่ต่ำ ที่จับบานประตูแบบเรียบไปกับตัวรถ และการออกแบบท้ายแบบ aero blades
โครงสร้างถูกผลิตโดย Geely Holding’s Sustainable Experience Architecture (SEA) Polestar 4 ถือว่ามีมิติตัวถังที่พอดีและสวยงาม อีกทั้งยังมีการออกแบบห้องโดยสารออกมาอย่างหรูหราอีกด้วย การที่ได้นำกระจกทั้งชิ้นด้านหลังออกไปทำให้ด้านบนเป็นหลังคาแบบกระจกเต็มบาน ที่ให้ประสบการณ์ที่แตกต่าง พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำที่ใช้แทนกระจกมองหลัง ด้วยจอดิจิตอลความคมชัดสูงแบบ ที่จะส่งภาพด้านหลังมาที่จอจากกล้องบนหลังคา
หัวหน้าฝ่ายการออกแบบ Maximilian Missoni บอกว่านวัตกรรมการออกแบบด้านหลังของคันนี้จะช่วยมอบประสบการณ์ในการใช้งาน SUV coupé ให้ผู้โดยสารตอนหลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
แนวทางการกำหนดแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืน
ทาง Polestar ออกมาประกาศในช่วงสิ้นปี 2023 ว่า Polestar 4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มี carbon footprint น้อยที่สุดในโมเดลที่เคยปล่อยมาทั้งหมด สายการผลิตของ Geely Holdings หรือโรงงาน SEA ได้พยายามพลักดันให้ขั้นตอนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุด และการใช้วัสดุอลูมิเนียมที่มีคาร์บอนต่ำ ส่วนภายในห้องคันนี้ใช้วัสดุรีไซเคิล และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด รวมไปถึงการใช้เส้นใยจากสัตว์ที่รีไซเคิลได้ 100% วัสดุหนัง bio-attributed แบบ PVC และ MicroTech vinyl
สมรรถนะและความสามารถ
Polestar 4 ถือว่าเป็นรถที่ไวที่สุดของไลน์อัพรถยนต์ไฟฟ้าที่ Polestar ได้ผลิตออกมาในปัจจุบัน ทำตัวเลข 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที รีดกำลังไฟฟ้าได้สูงสุด 400 kW หรือ 544 แรงม้า มามีให้เลือกทั้งมอเตอร์คู่ และมอเตอร์เดี่ยว ที่จะช่วยบาลานทางเลือกให้ลูกค้าในเรื่องของสมรรถนะที่สูง และการควบคุมตัวรถ รุ่น Long Range Dual motor ทำระยะที่วิ่งได้ต่อการชาร์จที่ 580 กม. (ตามมาตราฐาน WLTP) ขณะที่รุ่น Single motor สามารถวิ่งต่อการชาร์จได้ถึง 610 กม. (WLTP)
เทคโนโลยีอันล้ำสมัย
ระบบความบันเทิง ใช้ระบบ Andriod Automotive OS จอ 15.4 นิ้วใช้งานร่วมกับระบบของ Google เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยจะมี SuperVision Advanced Driver Assistance System, กล้องรอบคัน และเซนเซอร์
เกี่ยวกับ Polestar
Polestar (หุ้น PSNY) ให้คำมั่นที่จะพยายามเร่งผลักดันเรื่องยานยนต์ของแบรนด์ ผ่านการออกแบบ และเทคโนโลยี บริษัทสาขาหลักที่เมืองกอเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน พร้อมอีกหลายที่ทั่วโลกกว่า 27 แห่ง Polestar ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าหรูสมรรถนะสูงอีก 5 คันภายในปี 2026 พร้อมโปรเจค Polestar 0 ที่แบรนด์มุ่งมั่นให้การผลิตทั้งหมดของรถยนต์ไฟฟ้า Polestar ไร้ซึ่งการปล่อยของก๊าซคาร์บอนให้เป็น 0 นั้นเอง ตั้งเป้าให้ทำได้ภายในปี 2030
ล่าสุด Polestar 4 ป้าย TC (Test car) ในไทยก็ได้ออกมาวิ่งทดสอบให้เห็นกันอย่างแพร่หลายแล้ว ดังนั้นเหลือแค่รอเวลาการประกาศเปิดตัวและทำการตลาดของ Polestar เท่านั้น หากใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Polestar 3 และ 4 พร้อมเทียบคู่รถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรา สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ สำหรับประเทศไทยเราต้องมารอลุ้นกันต่อไปครับ
ที่มา : Polestar