ใน ,

เปิดตัว Polestar 4 ครั้งแรกในโลกที่งาน Auto Shanghai 2023 รถยนต์ไฟฟ้า SUV กึ่งคูเป้ พร้อมลงตลาด 2024 นี้

Polestar 4 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน Auto Shanghai 2023 เป็นรถ SUV กึ่งคูเป้สมรรถนะสูง ซึ่งเป็นรถที่เร็วที่สุดของแบรนด์ เตรียมทำตลาดในปี 2024 ราคาเริ่มต้น 60,000 ยูโร (2.2 ล้านบาท) มาดูไฮไลท์และความสวยงามของรถคันนี้กัน

Polestar 4 เปิดตัวครั้งแรกในโลก ที่งาน Shanghai 2023 พร้อมลงตลาดปี 2024 นี้

Polestar 4 รถไฟฟ้า ทรง SUV สมรรถนะสูง เปิดตัวแล้วที่งาน Shanghai Auto Show 2023 เป็นรถ SUV คันที่ 2 ของแบรนด์ Polestar ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงแอโรไดนามิค ทำให้รถ  SUV คันนี้มีความเป็นคูเป้มากขึ้น ซึ่งทางแบรนด์เรียกรถคันนี้ว่าเป็นรถประเภท “D-segment SUV Coupé”

ข้อมูลพื้นฐาน

  • แบรนด์ : Polestar ในเครือของ Geely Automobile Holding
  • รุ่น : Polestar 4
  • มิติตัวถัง (ยาว x กว้าง x สูง) : 4839 x 2139 x 1544 มม.
  • ความยาวฐานล้อ : 2999 มม.
  • จำนวนมอเตอร์ : 1 มอเตอร์* (รุ่น Long Range) และ 2 มอเตอร์
  • ระบบขับเคลื่อน : RWD* และ AWD
  • กำลังมอเตอร์ : 200* – 400 kW
  • พละกำลังรวม : 272* – 544 แรงม้า
  • แรงบิด : 343 – 686 Nm
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. : 3.8 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด : – km/h
  • ขนาดแบตเตอรี่ : 102 kWh
  • ชนิดแบตเตอรี่ : Lithium-ion
  • ระยะทางสูงสุด : 560 – 600* กม. (WLTP)
  • อัตราการบริโภคพลังงาน : kWh/100km
  • ชาร์จ DC : 200kW
  • ชาร์จ AC : 22kW
  • รองรับ V2L
  • หน้าจอกลาง 15.4 นิ้วออกแบบใหม่ และจอหลังพวงมาลัย 10.2 นิ้วและมี HUD 14.7 นิ้ว
  • ระบบ OS จาก Google รองรับ Google Assistant, Google Maps และ Google Play และรองรับ Apple CarPlay ด้วย
  • ลำโพง 12 ตัวจาก Harman Kardon กำลังขับ 1,400W
  • ระบบความปลอดภัย : SuperVision Advanced Driver Assistance System กล้องรอบคัน 12 ตัว, เรดาร์ 1 ตัวและ Ultra Sonic Sensor อีก 12 ตัว
  • ดีไซน์ไร้กระจกด้านหลังตัวรถโดยแทนที่ด้วยกล้อง
  • วัสดุตกแต่งภายในใหม่ประกอบด้วยผ้าถักที่ปรับแต่งเองซึ่งประกอบด้วย PET รีไซเคิล 100% พร้อมด้วยไวนิล MicroTech ที่มาจากชีวภาพและเบาะหนัง Nappa ที่ปลอดภัย
  • การผลิตและวางตลาด : Polestar 4 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีน โดยมีกําหนดจะเริ่มการผลิตในอ่าวหางโจว ประเทศจีน ในเดือนพฤศจิกายน 2023 และส่งมอบในปี 2024
  • ราคา: เริ่มต้น EUR 60,000/USD 60,000/GBP 55,000 หรือประมาณ 2.06 ล้านบาท
  • ทั้งนี้ Polestar ยังไม่มีแผนทำการตลาดในไทยแต่อย่างใด

* รุ่น Long Range Single Motor

ในแง่ของขนาดและราคา Polestar 4 จะถูกวางตามแหน่งไว้อยู่ระหว่าง Polestar 2 และ Polestar 3 ซึ่งตัวรถ Polestar 4 สั้นกว่ารถ Polestar 3 ประมาณ 2-3 นิ้ว แต่มีความกว้างและความสูงกว่า Polestar 2 ประมาณ 2-3 นิ้ว

มิติตัวถัง (คันที่ขายในยุโรป)

กว้าง 2,139 มม. x ยาว 4,839 มม. x สูง 1,544 มม. และระยะฐานล้อ 2,999 มิลลิเมตร

Polestar 4 เป็นรถที่เร็วที่สุดของแบรนด์ ณ ตอนนี้ โดยทำ 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที จากกำลังมอเตอร์ 400kW พละกำลังรวม 544 แรงม้า (รุ่นมอเตอร์คู่) วิ่งได้ไกลสูงสุด 560 กม./ชาร์จ

ส่วนรุ่นมอเตอร์เดี่ยวมีมอเตอร์ 200kW พละกำลังรวม 272 แรงม้า จะให้ระยะทางการวิ่งสูงสุด 600 กม./ชาร์จ

ในรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่มีอัตราการชาร์จเท่ากัน ชาร์จได้สูงสุด 200kW ด้วยการชาร์จแบบ DC สามารถชาร์จ 5-80% ในเวลา 32 นาที และชาร์จ AC ได้สูงสุด 22kW สามารถชาร์จ 0-100% ภายใน 5 ชั่วโมง

Polestar 4 รองรับ V2L แบบสองทิศทาง แต่ทางแบรนด์ยังไม่เปิดเผยว่ารถคันนี้จะสามารถจ่ายไฟได้ที่อัตราเท่าใด

รถ Polestar 4 ใช้แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า SEA จาก Geely ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ส่วนรถคันต่อไปของ Polestar จะสร้างด้วยสถาปัตยกรรมของแบรนด์โดยใช้อะลูมิเนียมเชื่อมประสานที่พัฒนาโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาในอังกฤษ

Polestar 4 ใหม่นี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่เหมือนกับรถแนวคิด Polestar 5 ที่กำลังจะถูกเปิดตัวออกมาในอนาคต คือรถทั้งสองรุ่นไม่มีกระจกหลังแต่มีกล้องสำหรับมองหลังแทน ตัวกล้องนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นด้านหลังได้ดีขึ้นแทนที่จะมองผ่านกระจกหลัง กล้องสามารถให้มุมมองด้านหลังรถในมุมกว้าง โดยจะทำการส่งสัญญาณวิดีโอไปยังหน้าจอแทน

ทางแบรนด์บอกว่า การไม่มีกระจกหลังนี้ทำให้เกิด ประสบการณ์ผู้โดยสารด้านหลังในรูปแบบใหม่ เพราะจะทำให้พื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังสูงขึ้น มอบพื้นที่ที่ทำให้ดูโปร่งโล่งสบายมากขึ้น

หลังคาแก้วหรือ Panoramic glass roof ในรถคันนี้มีตัวเลือกแบบอิเล็กโทรโครมิก ควบคุมผ่านหน้าจอกลางเพื่อให้หลังคามีความโปร่งแสงหรือทึบแสงก็ได้

Polestar ใช้ระบบ Android Automotive OS ที่มาพร้อมฟังก์ชันต่าง ๆ Google และรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ over-the-air ด้วย ผู้ใช้ Apple  ไม่ต้องกังวล เพราะยังสามารถใช้งาน Apple CarPlay ได้เช่นกัน

ราคาเริ่มต้นของ Polestar 4 ในยุโรปจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 ยูโร (2.2 ล้านบาท) เตรียมทำตลาดในปี 2024 ณ ตอนนี้ยังไม่มีแผนที่จำนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม : Polestar

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Yanika Seesai