Tesla ได้เริ่มทยอยปล่อยอัปเดตต้อนรับเทศกาลวันหยุดปี 2025 (2025 Holiday Update) แล้ว โดยเจ้าของรถหลายรายรายงานว่าได้รับการแจ้งเตือนให้อัปเดตซอฟต์แวร์เรียบร้อยแล้ว
Tesla ได้เริ่มทยอยปล่อยอัปเดตต้อนรับเทศกาล Holiday Update 2025 แล้ว
สำหรับ Holiday Update ของ Tesla ครั้งนี้มาในชื่อซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 2025.44.25.1 ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมาย แม้เราจะเคยเจาะลึกรายละเอียดไปในบทความก่อนหน้านี้แล้ว แต่เราขอสรุปสิ่งใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาให้ทราบดังนี้

- Grok สั่งการระบบนำทาง (Beta): ระบบ AI Grok สามารถช่วยเพิ่มและแก้ไขจุดหมายปลายทางได้แล้ว
- Tesla Photobooth: ถ่ายรูปภายในรถโดยใช้กล้องในห้องโดยสาร
- Dog Mode Live Activity: สามารถดูน้องหมาผ่านมือถือได้ โดยระบบจะถ่ายภาพสแนปช็อตในรถส่งมาให้ดูเป็นระยะ
- อัปเดตตัวดู Dashcam: เพิ่มข้อมูลใหม่ ๆ เช่น องศาการหมุนพวงมาลัย ความเร็ว และอื่น ๆ
- Santa Mode: เพิ่มกราฟิกใหม่, ต้นไม้ และเสียงสัญญาณล็อครถแบบใหม่
- อัปเดต Light Show: เพิ่มการแสดงแสงสีในชุด Jingle Rush
- ปรับแต่งสติกเกอร์และป้ายทะเบียน: ฟีเจอร์ Colorizer ช่วยให้ปรับแต่งรถในหน้าจอได้ละเอียดขึ้น ทั้งลวดลายพิเศษ ป้ายทะเบียน และความเข้มของฟิล์มกระจก
- ปรับปรุงระบบนำทาง: จัดวางรูปแบบหน้าจอและการตั้งค่าให้ใช้งานง่ายขึ้น
- แผนที่ Supercharger: แสดงภาพแบบ 3 มิติของสถานี Supercharger ที่คุณกำลังจะไป (เริ่มนำร่องใช้งานแล้วใน 18 แห่ง)
- เส้นทาง Carpool อัตโนมัติ: ระบบนำทางจะพาเข้าเลน Carpool ให้เองหากตั้งค่าเปิดใช้งานไว้
- ระบบเตือนลืมโทรศัพท์: รถจะส่งเสียงเตือนหากผู้ใช้ลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้างใน
- จำกัดการชาร์จตามสถานที่: สามารถตั้งค่าลิมิตการชาร์จแบตเตอรี่แยกตามแต่ละสถานที่ได้
- เกม ISS Docking Simulator: เพิ่มเกมจำลองการเชื่อมต่อยานอวกาศเกมใหม่
- การปรับปรุงอื่น ๆ: สามารถปิดแท่นชาร์จไร้สายได้, ปรับปรุง Spotify, Rainbow Rave Cave และเพิ่มเสียงล็อครถแบบ TRON

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ Tesla ประกาศเรื่อง Holiday Update เป็นครั้งแรก ผู้คนก็เริ่มรายงานว่าได้รับการอัปเดตแล้ว ดูเหมือนว่าการปล่อยอัปเดตครั้งนี้จะเป็นเหมือนการชดเชยให้กับกลุ่มผู้ใช้งานบางกลุ่มก่อน เพราะมีเพียงรถยนต์รุ่น Hardware 3 (HW3) โดยเฉพาะคันที่ใช้ชิป AMD Ryzen เท่านั้นที่ได้รับอัปเดตในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม Tesla ได้ยกเว้นรถกลุ่ม Hardware 3 ที่ซื้อหรือสมัครสมาชิก FSD (ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ) เอาไว้ก่อน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์การทยอยปล่อยอัปเดตแบบจำกัดกลุ่ม
เซอร์ไพรส์เพิ่มเติม 2 อย่าง Tesla ได้เพิ่มฟีเจอร์พิเศษเข้ามาอีก 2 อย่างใน Holiday Update นี้ ได้แก่ ฟีเจอร์ดูพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับ Dashcam ซึ่งจะบอกว่ามีการใช้พื้นที่ใน USB ไปเท่าไหร่และเหลืออยู่เท่าไหร่ และอีกอย่างคือการทำให้การชาร์จไฟสนุกขึ้นด้วยฟีเจอร์ Charging Passport
ฟีเจอร์ Charging Passport
Charging Passport จะใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน โดยจะทำหน้าที่สรุปภาพรวมประสบการณ์การชาร์จไฟของคุณตลอดทั้งปี ช่วยบันทึกเรื่องราวการเดินทางในปีนั้น ๆ ของผู้เอาไว้
นอกจากนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจอย่าง Badges สำหรับจุดชาร์จพิเศษต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลตัวเลขอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนเดินทางไปเสียบปลั๊กชาร์จไฟในสถานที่ต่าง ๆ มาแล้วมากแค่ไหน

Tesla จะใส่ข้อมูลสถิติเหล่านี้ลงในเมนู Charging Passport บนแอปฯ Tesla
- Charging badges: เหรียญตราสัญลักษณ์พิเศษเมื่อไปเยือนจุดชาร์จที่เป็นแลนด์มาร์ค เช่น Tesla Diner, Oasis Supercharger หรือเหรียญนักสำรวจ (Explorer Badge) และอื่นๆ
- Total Unique Superchargers Visited: จำนวนสถานี Supercharger ที่ไม่ซ้ำกันที่เคยไปใช้บริการ
- Total Charging Sessions: จำนวนครั้งที่ชาร์จทั้งหมด
- Total Miles Added: ระยะทางวิ่งรวมที่ได้จากการชาร์จ
- Top Charging Day: วันที่ทำการชาร์จไฟมากที่สุด
- Longest Trip: การเดินทางทริปที่ไกลที่สุด
- Favorite Charging Locations: สถานีชาร์จที่ไปใช้บริการบ่อยที่สุด
ฟีเจอร์นี้จะมอบวิธีที่ไม่เหมือนใครให้ผู้ใช้ได้ย้อนดูการเดินทางของตัวเองตลอดทั้งปี คล้ายกับ Spotify Wrapped และ Apple Music Replay ได้รับความนิยมอย่างมากในการสรุปเพลงที่ฟังตลอดปี ซึ่งนี่ก็คือเวอร์ชันของ Tesla นั่นเอง
นอกจากสถานี Supercharger แบบพิเศษที่มีอยู่แล้ว ตอนนี้ Tesla ก็กำลังสร้างสถานีแห่งใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น สถานีธีมจานบิน UFO ที่รัฐ New Mexico ใกล้กับเมือง Roswell
ที่มา teslarati
