Sakura P.
Toyota ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่น bZ3X ในเวอร์ชัน พวงมาลัยขวา (RHD) สำหรับจำหน่ายในฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งนับเป็นการนำรถรุ่นนี้เข้าสู่เขตบริหารพิเศษทั้งสองแห่งอย่างเป็นทางการ โดย bZ3X เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) รุ่นแรกของโตโยต้าที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับฮ่องกง และได้เปิดตัวครั้งแรกที่โชว์รูมหลักในเกาลูนเบย์ เมื่อวันที่ 27 กันยายน
Toyota bZ3X พวงมาลัยขวาเปิดตัวที่ฮ่องกงและมาเก๊า ราคา 1.23 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าจีนเกือบ 50%
สำหรับมาเก๊า ได้มีการประกาศราคาเริ่มต้นที่ 259,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1,223,700 บาท) ส่วนราคาสำหรับฮ่องกงยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการและอาจแตกต่างจากราคาในมาเก๊า
ในรุ่นที่จำหน่ายในฮ่องกงและมาเก๊า bZ3X ใช้มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรที่ให้กำลัง 150 kW และแรงบิด 210 Nm แบตเตอ LFP ขนาด 70.0 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 565 กม. ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC
รถรุ่นนี้รองรับการชาร์จแบบ CCS2 โดยชาร์จ AC)ได้สูงสุด 6.6 kW และการชาร์จเร็ว DC ได้สูงสุด 90 kW นอกจากนี้ยังมีระบบ V2L (Vehicle-to-Load) ที่สามารถจ่ายไฟภายนอกได้ด้วย
ในด้านมิติรถ SUV รุ่นนี้มีความยาว 4,600 มม. ความกว้าง 1,850 มม. และความสูง 1,645 มม. มีระยะฐานล้อ 2,765 มม. มีน้ำหนักรถเปล่า 1,835 กิโลกรัม และมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 427 ลิตร รัศมีวงเลี้ยวอยู่ที่ 5.8 เมตร รถมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว และยางขนาด 225/45R19
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีมกึ่งอิสระ ระบบเบรกใช้จานเบรกแบบมีช่องระบายความร้อนที่ด้านหน้า และจานเบรกแบบธรรมดาที่ด้านหลัง
ภายในห้องโดยสาร bZ3X มาพร้อมกับระบบ Intelligent Driving Assistant ของ Toyota ที่รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันมือถือ แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8.88 นิ้ว จับคู่กับหน้าจอตรงกลางขนาด 14.6 นิ้ว ที่รวมการควบคุมระบบเสียง การนำทาง และระบบต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน
มีฟีเจอร์มาตรฐาน เช่น Apple CarPlay แบบไร้สาย, ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาอังกฤษ และระบบเครื่องเสียงพรีเมียม YAMAHA 11 ลำโพง เบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันทำความร้อน ระบายอากาศ และทำความเย็น ส่วนเบาะหลังสามารถปรับเอนได้ตั้งแต่ 117 ถึง 137 องศา
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ได้แก่ ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบ Dual-Zone พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และช่องแอร์ด้านหลัง, ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร 32 สี, หลังคากระจกพาโนรามาพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า, กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และปุ่มตัดไฟฉุกเฉินเฉพาะ
bZ3X ถูกเปิดตัวครั้งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม 2025 ภายใต้กิจการร่วมค้า GAC-Toyota ราคาเริ่มต้นในจีนอยู่ที่ 109,800 หยวน (ประมาณ 558,700 บาท) ซึ่ง Toyota รายงานว่าได้รับคำสั่งซื้อถึง 10,000 คันภายในชั่วโมงแรกของการเปิดตัว
รุ่นที่จำหน่ายในจีนมีหลายตัวเลือกแบตเตอรี่ ได้แก่ ขนาด 50.0 kWh, 58.4 kWh, และ 67.9 kWh ที่ให้ระยะทางวิ่งที่ 430 กม., 520 กม., และ 610 กม. ตามลำดับ ตามมาตรฐาน CLTC
รุ่นย่อยที่สูงกว่าในจีนมีคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ระบบ Lidar จาก Robosense และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Momenta’s 5.0 ซึ่งสามารถใช้งานระบบ Navigate on Autopilot ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้แผนที่ความละเอียดสูง โตโยต้าเน้นย้ำว่าชิ้นส่วนของ bZ3X มากถึง 65% มาจากซัพพลายเออร์จีน โดยมีเพียง 1% เท่านั้นที่นำเข้า
ข้อแตกต่างของรุ่นพวงมาลัยขวา และราคาที่สูงขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นในจีนแผ่นดินใหญ่ bZ3X รุ่นฮ่องกงและมาเก๊าจะมีความคล้ายคลึงกับรุ่นย่อย 520 Pro+ มากที่สุด แต่ก็มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด เช่น ใช้แบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าเล็กน้อยคือ 70.0 kWh แทนที่จะเป็น 58.4 kWh แต่ยังคงกำลังมอเตอร์ที่ 150 kW เท่ากัน และทำระยะทาง 565 กม. (NEDC) ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 500–520 กม. ในมาตรฐาน CLTC
นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณสมบัติพรีเมียม เช่น ระบบเครื่องเสียง YAMAHA 11 ลำโพง และหลังคาพาโนรามา แต่ไม่มีมอเตอร์ขนาด 165 kW หรือระบบขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงที่ใช้ Lidar ของ Momenta ซึ่งมีในรุ่นท็อปสุด 610 Max
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือ ราคา รุ่น 520 Pro+ ในจีนแผ่นดินใหญ่มีราคา 139,800 หยวน (ประมาณ 829,500 บาท) ในขณะที่รุ่นมาเก๊ามีราคา 259,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1,223,700 บาท) ทำให้รุ่นพวงมาลัยขวามีราคาสูงกว่ารุ่นที่ใกล้เคียงที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ถึงประมาณ 47%
ราคาส่วนต่างที่สูงขึ้นนี้สะท้อนถึงการวางตำแหน่งทางการตลาด, ภาษีนำเข้าในภูมิภาค และขนาดการผลิตที่จำกัดสำหรับรุ่นพวงมาลัยขวา
การเปิดตัวรุ่นพวงมาลัยขวาทำให้ Toyota นำ SUV ไฟฟ้า ที่เน้นตลาดจีนมากที่สุดเข้าสู่ฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งยังคงใช้ระบบขับรถชิดซ้าย ต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ใช้ระบบขับรถชิดขวา คาดว่าในอนาคต bZ3X รุ่นพวงมาลัยขวานี้คาดว่าจะถูกส่งไปจำหน่ายในประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ระบบพวงมาลัยขวา เช่น ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และไทย (อาจจะต้องลุ้น) เพื่อขยายฐานรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ทั่วโลกนอกเหนือจากประเทศจีน
ที่มา carnewschina
