กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดการแข่งขัน BMW Golf Cup 2024 รายการแข่งขันกอล์ฟสำหรับนั
BMW ประเทศไทย จัดการแข่งขัน BMW Golf Cup 2024 รอบคัดเลือก ตัวแทนนักกอล์ฟสมัครเล่ นจากประเทศไทย ชิงแชมป์สู่ระดับโลก จัดเต็มพร้อมรางวัล Hole in one
สำหรับรายการ BMW Golf Cup 2024 รอบคัดเลือก จัดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 รวม 20 ทัวร์นาเมนต์ ในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งรวมถึงอุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา พิษณุโลก เชียงใหม่ สุราษฎธานี สงขลา ภูเก็ต พัทยา และนครปฐม
ทั้งนี้ ยังคงเหลืออีก 9 รายการ ที่จังหวัดกรุงเทพฯ โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 24 พฤษภาคม 2024 นี้ และนักกอล์ฟสมัครเล่นที่สามารถคว้าโฮล-อิน-วัน จะได้รับรางวัลพิเศษ* ประกอบด้วย:
- ทริปสุดพิเศษสำหรับ 2 ท่าน ไปร่วมกิจกรรม Driving Experience ณ ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 2025** สำหรับนักกอล์ฟที่ทำโฮล-อิน-วัน หลุมที่ 2 สนับสนุนโดยบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
- ลำโพง Bowers & Wilkins รุ่น Formation Duo พร้อมขาตั้ง สำหรับนักกอล์ฟที่ทำโฮล-อิน-วัน หลุมที่ 8 เป็นท่านแรกของการแข่งขัน สนับสนุนโดยโบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ (Bowers & Wilkins)
- ชุดเหล็ก T-Series 1 ชุด พร้อมถุงกอล์ฟ สำหรับนักกอล์ฟทำโฮล-อิน-วัน หลุมที่ 14 เป็นท่านแรกของการแข่งขัน สนับสนุนโดยไทเทิลลิสท์ แบรนด์ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์กอล์ฟและอุปกรณ์เสริมระดับโลก
- นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ Luxury Golf Watch รุ่น MARQ Golfer สำหรับนักกอล์ฟทำโฮล-อิน-วัน หลุมที่ 16 เป็นท่านแรกของการแข่งขัน สนับสนุนโดยการ์มิน (GARMIN) แบรนด์นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ชั้นนำ
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยูยังคงเดินหน้าเชิญชวนผู้สมัครเข้าร่วมสมทบทุนเพื่อการกุศลอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการแข่งขัน BMW Golf Cup 2024 จะถูกนำไปสมทบทุนให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ร่วมเป็นกำลังใจให้นักกอล์ฟมือสมัครเล่นบนเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ พร้อมรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขัน BMW Golf Cup 2024 ได้ที่เว็บไซต์ www.bmw.co.th
*ผู้ที่ได้รับรางวัลโฮล-อิน-วัน ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป จะต้องเป็นผู้ชำระภาษี หัก ณ ที่จ่าย 5% จากมูลค่าของรางวัล
*บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่
**กรณีที่มีผู้ทำโฮล–อิน–วันได้
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิตมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
ในปี พ.ศ. 2566 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.5 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 209,257 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 23.5 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 142.6 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 149,475 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดยวางรากฐานความสำคัญสำหรับอนาคตตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่กระบวนการการผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือซัพพลายเชนในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง
ในปี 2566 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 15,477 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 14,128 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,349 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,079 คัน
ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยูมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 6รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู M760e xDrive
ข่าวประชาสัมพันธ์จาก BMW Thailand