ถึงแม้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่ราคาขายเฉลี่ยของรถยนต์ไฟฟ้ายังคงแพงกว่าราคารถยนต์น้ำมันทั่วไป CEO Ford ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับราคารถยนต์ไฟฟ้าว่ามีโอกาสจะปรับลดลงมาเทียบเท่ากับรถยนต์น้ำมันเมื่อไหร่ และมีปัจจัยอะไรบ้าง
CEO Ford ให้ความเห็นเกี่ยวกับการปรับราคารถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่ากับรถยนต์น้ำมัน
Jim Farley ซีอีโอของ Ford เผยว่า ถึงแม้ว่าจะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแพร่หลายมากขึ้น แต่หลายคนก็ให้ความเห็นว่าปัญหาคอขวดที่ใหญ่ที่สุดคือ “ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังปรับมาให้เท่ากับรถยนต์น้ำมันไม่ได้” โดยที่ราคารถยนต์น้ำมันนั้นมีราคาที่ย่อมเยากว่ารถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ หากเทียบตามเซกเมนต์ของรถที่ใกล้เคียงกัน
แต่ปัจจุบันก็มีรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นได้ปรับลดราคาลงมาให้ต่ำกว่าราคาซื้อขายเฉลี่ย อ้างอิงจากการรายงานของ Kelly Blue Book ที่เผยว่า ราคาขายเฉลี่ยรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาปรับลดลงเหลือ 55,089 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลดลงจากปีที่แล้ว 10,096 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเฉลี่ยราคาขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโดยรวมจะมีมูลค่าอยู่ที่ 48,275 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังมีรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่น ๆ มากมายที่มีราคาต่ำกว่าราคาขายเฉลี่ย
Farley ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงมีราคาแพงกว่ารถยนต์น้ำมัน จนกว่าจะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 และ 3 หลังจากปี 2025 ที่คาดว่าราคาอาจปรับลดลงบ้าง แต่ก็ยังคงปรับลดลงมาเทียบเท่ากับรถยนต์น้ำมันไม่ได้จนกว่าจะถึงปี 2030 – 2035 ด้วยปัจจัยสำคัญคือเรื่องของต้นทุน ซึ่งในอนาคตต้นทุนอาจจะถูกปรับลดลงจากการลดจำนวนแรงงาน รวมถึงยานพาหนะก็จะมีความซับซ้อนน้อยลง ส่งผลให้ชิ้นส่วนน้อยลงด้วยเช่นกัน
Farley ทิ้งท้ายว่า หากทุกบริษัทมีจุดมุ่งหมายสร้างพลังงานที่ยั่งยืน ก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งตอนนี้ Ford ก็ได้จับมือกับ Tesla ให้รถยนต์ไฟฟ้าของ Ford สามารถใช้งาน Supercharger ได้ของ Tesla ได้โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์แปลง ช่วยให้การสถานีมีความน่าเชื่อถือและสร้างมาตรฐานแบบเดียวกัน
ที่มา teslarati