ใน ,

Dongfeng eπ 007 เปิดราคาพรีเซลล์ในประเทศจีน ราคา 22,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.88 แสนบาท)

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน Dongfeng Motors เปิดราคาพรีเซลล์รถยนต์รุ่น eπ 007 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน ในราคา 159,000 หยวน (22,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7.88 แสนบาท) ซึ่งมาพร้อมทั้งรุ่นไฟฟ้า 100% (EV) และรุ่น EREV มาชมรายละเอียดกันครับ

Dongfeng eπ 007 เปิดราคาพรีเซลล์ในประเทศจีน ราคา 22,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.88 แสนบาท)

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2024 Dongfeng แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ได้เปิดตัวรถเก๋งซีดานชื่อรุ่น eπ 007 อย่างเป็นทางการ สำหรับการขายล่วงหน้าในราคา 159,000 หยวน (22,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7.88 แสนบาท) ซึ่งมาพร้อมทั้งรุ่นไฟฟ้า 100% (EV) และรุ่น EREV คาดว่าจะเปิดตัวภายในไตรมาสแรกของปี 2024 นี้

ดีไซน์ภายนอก

  • มิติตัวรถ 4,880 x 1,895 x 1,460 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,915 มม.
  • ช่วงล่างด้านหน้า อิสระ McPherson Strut
  • ช่วงล่างด้านหลัง อิสระ 5-link

Dongfeng eπ 007 ไม่ได้เพียงมาในรูปทรง Fastback เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมประตูแบบไร้กรอบ (Frameless Doors) มือเปิดประตูแบบซ่อนราบเรียบไปกับตัวรถ และสปอยเลอร์หลังแบบไฟฟ้า ที่ขึ้น/ลง โดยอัตโนมัติตามความเร็วของรถ ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.209 cd นอกจากนี้ยังมีประตูเปิดแบบปีกนกไฟฟ้าอีกด้วย

ไฟหน้าและไฟท้าย ประกอบด้วยหลอดไฟ LED 334 ดวง พร้อมฟังก์ชัน Light Show

ด้านข้างมาพร้อมล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45 R19 ควบคู่กับคาลิปเปอร์เบรกสีแดง (เฉพาะรุ่น 540 Max) เพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถ แต่รุ่น 200 Pro, 530 Pro และ 620 Pro จะมาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว

ขุมพลัง

Dongfeng eπ 007 มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) ในรุ่น EV และ EREV พร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) รองรับการชาร์จ DC จาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 26 นาที

รุ่น EV

  • รุ่น 530 Pro
    • ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
    • มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง ให้กำลัง 160 kW หรือ 215 แรงม้า
    • แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร
    • ชุดแบตเตอรี่ LFP ความจุ 56.86 kWh
    • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 6.8 วินาที
    • อัตราการบริโภคพลังงาน 11.9 kWh/100 กม.
  • รุ่น 620 Pro
    • ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
    • มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง ให้กำลัง 200 kW หรือ 268 แรงม้า
    • แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร
    • ชุดแบตเตอรี่ LFP ความจุ 70.26 kWh
    • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 5.8 วินาที
    • อัตราการบริโภคพลังงาน 12.6 kWh/100 กม.
  • รุ่น 540 Max
    • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD)
    • มอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ด้านหน้าและด้านหลัง ให้กำลังรวม 400 kW หรือ 536 แรงม้า
    • แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร
    • ชุดแบตเตอรี่ LFP ความจุ 70.26 kWh
    • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.9 วินาที
    • อัตราการบริโภคพลังงาน 14.9 kWh/100 กม.

รุ่น EREV (200 Pro)

  • ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า
  • กำลังของเครื่องยนต์ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา
  • แต่มอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลังสูงสุด 160 kW หรือ 215 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 7.2 วินาที
  • ชุดแบตเตอรี่ LFP ความจุ 28.39 kWh
  • วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทาง 200 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
  • ระยะทางรวมสูงสุด 1,200 กม.
  • อัตราการบริโภคพลังงาน 12.8 kWh/100 กม.

ทั้งรุ่น EV และ EREV รองรับฟังก์ชัน V2V (Vehicle-to-Vehicle), V2L (Vehicle-to-Load) และ V2G (Vehicle-to-Grid)

ดีไซน์ภายใน

การตกแต่งภายในใช้รูปแบบสองสี พร้อมปุ่มทางกายภาพน้อยที่สุด พวงมาลัยแบบ 2 ก้าน ในดีไซน์ท้ายตัด พร้อมหน้าจอแบบ Full LCD ขนาด 8.8 นิ้ว แบบพลิกได้ คล้าย ๆ กับ McLaren 720S และหน้าจอสัมผัส infotainment ขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ที่ขับเคลื่อนโดยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 ส่วนล่างของคอนโซลกลาง มีพื้นที่เก็บของเพิ่มเติม

Dongfeng eπ 007 ได้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการติดตั้งเบาะที่นั่งมาพร้อมระบบนวด 8 จุด, ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light รอบคัน 64 สี, ระบบลำโพงระดับพรีเมียม 20 ตัว, ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย กำลังไฟ 50W, หลังคากระจก Panoramic ขนาด 1.82 ตารางเมตร และระบบจดจําใบหน้าสําหรับการปลดล็อกรถ

ระบบความปลอดภัย

ในแง่ของระบบความปลอดภัย ทุกรุ่นจะติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง eπ PILOT ซึ่งทำงานผ่านเซ็นเซอร์จำนวน 31 ตัว รองรับการจำตำแหน่งที่จอดรถ และระบบจอดรถเองอัตโนมัติผ่านรีโมทคอนโทรล เป็นต้น

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง eπ PILOT ประกอบด้วย

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันจนถึงจุดหยุดนิ่ง Adaptive Cruise Control with Stop&Go (ACC)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assistance (LKA)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitoring (BSD)
  • ระบบเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน Lane Change Collision Warning (LCW)
  • ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
  • ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Braking (RCTB)

ท่ีมา : CarNewsChina , Yipai

ขอบคุณภาพ : autohome

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S