ใน

Ford ประกาศเลื่อนการลงทุนผลิตรถยนต์ EV ชั่วคราว มูลค่าประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากในปัจจุบันรถยนต์ EV มีราคาแพงเกินไป และความต้องการชะลอตัวลง

Ford Motor กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ลูกค้าจำนวนมากในอเมริกาเหนือไม่เต็มใจที่จะจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอีกต่อไป มากกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ รถยนต์ไฮบริด ด้วยเหตุนี้ จึงเลื่อนการใช้จ่ายตามแผน มูลค่าประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ สำหรับกำลังการผลิตรถ EV ใหม่

Ford ประกาศเลื่อนการลงทุนผลิตรถยนต์ EV ชั่วคราว มูลค่าประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากในปัจจุบันรถยนต์ EV มีราคาแพงเกินไป และความต้องการชะลอตัวลง

ปัจจุบันลูกค้าในอเมริกาเหนือส่วนมาก มีความกังวลที่จะจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้แผนการที่ทะเยอทะยานและรถมีราคาแพงของ Ford มีความซับซ้อนในการผลิตรถยนต์เหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยอดขายรถ EV และอุตสาหกรรมของ Ford กำลังเติบโต แต่พวกเขาไม่ได้เติบโตตามที่คาดไว้

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในงานประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ประกาศว่าจะเลื่อนการใช้จ่ายตามแผน มูลค่าประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและหยุดโครงการสำคัญบางโครงการชั่วคราว รวมถึงการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่แห่งใหม่ในรัฐเคนตักกี้

John Lawler ซีเอฟโอของ Ford

John Lawler ซีเอฟโอของ Ford กล่าวว่า “ด้วยสภาพแวดล้อมของรถ EV มีเปลี่ยนแปลงเสมอ ทางเรามีความรอบคอบเกี่ยวกับการผลิตรถ EV ของเรา และมีการปรับเปลี่ยนกำลังการผลิตในอนาคตเพื่อให้เข้ากับความต้องการของตลาดได้ดีขึ้น”

และกล่าวเสริมอีกว่า “ทั้งหมดเราได้ผลักดันการใช้จ่ายในการผลิตรถ EV มูลค่าประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่าย, การลงทุนโดยตรง และค่าใช้จ่ายทุกกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเน้นย้ำว่า ยังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนกับรถ EV ในอนาคต”

John Lawler ซีเอฟโอของ Ford กล่าวในงานบรรยายสรุปของสื่อ ต่อสื่อ CNBC ว่า “ทางบริษัทจะไม่ย้ายออกจากผลิตภัณฑ์รถ EV เจเนอเรชันที่ 2 ของเรา แม้ว่าเรากำลังดูจังหวะของความสามารถที่เรากำลังวางไว้ โดยเราจะลดการลงทุนบางส่วนออกไป”

Ford ได้ประกาศไปแล้วว่า จะทิ้งเป้าหมายในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า 2 ล้านคัน ภายในปี 2026 และการเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นในขณะที่บริษัทรถยนต์มีความระมัดระวังมากขึ้น เกี่ยวกับอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า

Toshihiro Mibe ซีอีโอของ Honda

Toshihiro Mibe ซีอีโอของ Honda บอกกับ Bloomberg ว่า บริษัทกำลังยุติการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในราคาย่อมเยา และ General Motors (GM) ได้ทิ้งเป้าหมายในการสร้างรถยนต์ 500,000 คันภายในครึ่งแรกของปี 2024 เช่นกัน

William Clay Ford Jr. ประธานบริหารของ Ford

 

William Clay Ford Jr. ประธานบริหารของ Ford ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่า ราคารถยนต์ EV ที่แพงเกินไป ส่งผลให้เป็นสาเหตุหลักที่ Ford ชะลอการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

ตามคำกล่าวอ้างจาก Ford กล่าวว่า ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาแพงเกินไป และถ้าในอนาคตราคารถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่ถูกลง รวมถึงราคาเบี้ยประกันภัยที่ถูกลงด้วย เราจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา – Insider

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S