ใน , ,

Honda และ General Motors จับมือร่วมผลิตรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน

Honda จับมือกับ General Motors ร่วมผลิตรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน สร้างเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่เรียกว่า Fuel Cell System Manufacturing (FCSM) สำหรับการร่วมมือทั้ง 2 แบรนด์ถือว่าจะเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดของทั้งสองแบรนด์ และอาจจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลกด้วย

Honda และ General Motors จับมือร่วมผลิตรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน

Honda และ General Motors (GM) ได้จับมือกันร่วมพัฒนารถยนต์พลังงาน Hydrogen ด้วยเงินลงทุน 85 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3 พันล้านบาทไทย) เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกพลังงานนอกจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) การเป็นพาร์ทเนอร์ของทั้ง 2 แบรนด์ครั้งนี้จะนำไปสู่การสร้างเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่เรียกว่า Fuel Cell System Manufacturing (FCSM)

ภาพ Honda CR-V Hydrogen

เป้าหมายหลักของโปรเจคนี้คือการผลิตรถยนต์พลังงาน Hydrogen จำนวนมาก ซึ่งจะผลักดันความต้องการการส่งเสริมสังคมไร้คาร์บอนได้อย่างยั่งยืน เน้นให้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น แข็งแรง และลดต้นทุนการผลิตของโรงงาน การร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นก้าวใหญ่ที่สำคัญของอนาคตยานยนต์พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน

เงินลงทุนสำหรับ FCSM อยู่ที่ 85 ล้านเหรียญ ที่ลงทุนโดย Honda และ GM ที่เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2017 สำหรับการทำเทคโนโลยี Hydrogen ที่ล้ำสมัยนี้โดยเฉพาะ การผลิตได้สิ่งอำนวยความสะดวกจากโรงงานที่รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ด้วยพื้นที่กว่า 4 ไร่ ที่นอกจากจะมีการจ้างงานถึง 80 ตำแหน่งแต่ทางบริษัทจะถือว่าเป็นผู้นำการผลิตรถยนต์พลังงาน Hydrogen อีกด้วย

Honda ถือว่าเป็นผู้เล่นหลักของการร่วมมือครั้งนี้ จากวิสัยทัศที่มีต่อการวางแผนทำรถยนต์พลังงาน hydrogen  Honda ได้ปล่อย CR-V ใหม่ที่ใช้ระบบ Hydrogen ที่จะเริ่มวางขายในตลาดญี่ปุ่น และอเมริกาเหนือช่วงปี 2024 นี้

ระบบนี้จะทำงานรวมกับระบบ plug-in เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ที่เล็งเห็นถึงข้อจำกัดของการเติม hydrogen ช่วงปัจจุบัน เป้าหมายหลักคือทำให้รถพลังงานนี้มีราคาเพียง 1 ใน 3 ของรุ่นสันดาป ลดเงินต้นทุนในการผลิต และการเข้าเทคโนโลยีที่ใช้งานได้อย่างยั่งยืน

ทาง Honda พยายามที่จะขยายการผลิตนอกเหนือจากรถยนต์ทั่วไป บริษัทตั้งใจที่จะใช้เทคโนโลยีกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ โรงไฟฟ้า และอุปกรณ์ก่อสร้าง ขยายการใช้งานไฮโดรเจน

นอกจากนี้ Honda ยังแนะนําว่าเทคโนโลยีไฮบริดสามารถมีบทบาทในการสํารวจอวกาศ สร้างพลังงานและระบายอากาศออกนอกโลกได้

การร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาสําคัญในการเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่การใช้เซลล์เชื้อเพลิง โรงงานมูลค่า 85 ล้านดอลลาร์ในดีทรอยต์ได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงงานแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยนําเสนอรถยนต์พลังงานทางเลือกที่ปล่อยมลพิษให้เป็นศูนย์นอกเหนือจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

การพัฒนานี้ถือว่ามีความสําคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก โดยได้รับแรงหนุนจากกฎระเบียบด้านการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น

การอุทิศตนเพื่อเซลล์เชื้อเพลิงของ GM สอดคล้องกับแผนที่ครอบคลุมสําหรับรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป้าหมายในการหยุดการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแก๊สแบบดั้งเดิมสําหรับผู้บริโภคภายในปี 2035

ในขณะที่ Honda ตั้งเป้าขายรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนให้ได้ประมาณ 2,000 ต่อปีภายในปี 2025 โดยคาดว่าจะขายให้ถึง 60,000 คันภายในปี 2030 GM ไม่ได้ออกมาเปิดเผยเป้าที่ตั้งไว้ในการผลิตและการขาย ทั้งสองบริษัทเน้นย้ำถึงความสามารถในการปรับขนาด โดยเน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ในภูมิทัศน์ยานยนต์ที่ผู้ผลิตหลายรายกําลังลงทุนในเครื่องยนต์ไฮโดรเจน ความพยายามร่วมกันนี้เน้นย้ำถึงฉันทามติของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับบทบาทที่สําคัญของไฮโดรเจนในการผสมผสานพลังงานในอนาคต ความพยายามร่วมกันมีเป้าหมายที่จะจัดการกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับของผู้บริโภค โครงสร้างพื้นฐานที่เติมเชื้อเพลิง และต้นทุน โดยแสดงความมุ่งมั่นที่เป็นหนึ่งเดียวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ที่มา : Bolnews

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.