ใน ,

พาชม 5 เทคโนโลยีใหม่ใน e-platform 3.0 EVO ที่อยู่ใน BYD Sea Lion 07

สัปดาห์ที่ผ่านมา BYD เปิดตัว Sea Lion 07 เป็นรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อม e-platform 3.0 EVO เรามาชมกันว่าเทคโนโลยีใหม่ในแพลตฟอร์มนี้มีอะไรบ้าง และมีประโยชน์อย่างไร

พาชม 5 เทคโนโลยีใหม่ใน e-platform 3.0 EVO ที่อยู่ใน BYD Sea Lion 07

แพลตฟอร์ม e-platform 3.0 EVO มาพร้อมเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ที่เน้นด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความเร็วในกาชาร์จ ซึ่งคำว่า EVO น่าจะหมายถึงวิวัฒนาการของแพลตฟอร์มเดิม และเตรียมอัปเดตประสิทธิภาพก่อนที่จะเปิดตัว e-platform 4.0 โดยสิ่งใหม่ที่มีอยู่ใน e-platform 3.0 EVO มีดังนี้

1. ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 12-in-1 ตัวแรกของโลก

ก่อนหน้านี้ e-platform 3.0 เปิดตัวระบบ 8-in-1 และตอนนี้ใน e-platform 3.0 EVO ก็ได้รับการอัปเกรดเป็น 12-in-1 เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า, ตัวควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ Silicon Carbide, Reducer ประสิทธิภาพสูง, DC converter, ระบบจัดการแบตเตอรี่, โมดูล Boost อัจฉริยะ

BYD อ้างว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตรายแรกของโลกที่มีมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้าความเร็วสูงสุดในโลก มีความเร็วถึง 23,000 รอบต่อนาที ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Sea Lion 07 มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 225 กม./ชม. และยังเคลมว่าใช้โมดูลพลังงาน Silicon Carbide เชื่อมด้วยเวเซอร์แบบเคลือบเป็นรายแรก

2. ระบบชาร์จเร็วอัจฉริยะ

BYD สามารถเพิ่มกระแสการชาร์จของยานพาหนะเป็น 400A เมื่อชาร์จโดยเครื่องชาร์จสาธารณะขนาด 250A ประโยชน์หลักของระบบนี้คือ สามารถลดระยะเวลาการชาร์จจาก 10%-80% เหลือเพียง 25 นาที และลดเวลาการชาร์จจาก 80%-100% เหลือเพียง 18 นาที ซึ่ง BYD อ้างว่าเป็นผู้นำในด้านเวลาการชาร์จ

สิ่งสำคัญสำหรับความก้าวหน้านี้คือ เทคโนโลนีการชาร์จเร็วด้วยเทอร์มินัลอัจฉริยะ ซึ่งมีข้อได้เปรียบที่ความสามารถในการชาร์จที่อุณหภูมิต่ำ ด้วยเทคโนโลยีการทำความร้อน Intelligent pulse self-heating จึงสามารถลดเวลาได้ถึง 40%

นอกจากนี้เทคโนโลยีการชาร์จเร็วยังสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องชาร์จ DC สาธารณะได้อย่างสมบูรณ์ โดยสามารถชาร์จด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 500kW ชาร์จ 10%-80% ได้ในเวลาเพียง 12 นาที

3. เทคโนโลยีปั๊มความร้อน (Heat Pump)

BYD เผยว่า e-platform 3.0 Evo มาพร้อมปั๊มความร้อนประสิทธิภาพสูงที่รองรับช่วงอุณหภูมิกว้างเป็นตัวแรกของโลก เป็นระบบจัดการความร้อนประสิทธิภาพสูง 16-in-1 ลดการใช้พลังงานในการระบายความร้อนลง 20% และยังมีเทคโนโลยีการระบายความร้อนโดยตรงอัจฉริยะและเทคโนโลยีการทำความร้อนสำหรับแบตเตอรี่ ซึ่งบริษัทอ้างว่าสามารถลดการใช้พลังงานลง 25%

ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิประสิทธิภาพสูงจะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จาก Waste Heat ที่อุณหภูมิต่ำเพิ่มขึ้น 30% พร้อมได้กำลังไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 40 kW สำหรับการขับขี่ในสภาพจารจนจึง ส่งผลให้ระยะทางเพิ่มขึ้น 60 กม. (CLTC) ที่อุณหภูมิสูง และเพิ่ม 45 กม. (CLTC) ในสภาพอากาศเย็น

4. สถาปัตยกรรมความปลอดภัย CTB แห่งแรกของโลก

CTB ย่อมาจาก Cell to Body (ผู้ผลิตอื่นอาจะเรียกว่า Cell to Chassis (CTC)) ซึ่งโครงสร้างนี้จะรวมชุดแบตเตอรี่ไว้ในแชสซี เพื่อให้โครงสร้างรับน้ำหนักไว้ และพื้นที่กันชนนิรภัยด้านหน้าเพิ่มขึ้น 100 มม. เพิ่มความปลอดภัยในการชนจากด้านหน้า 60%

นอกจากนี้ Body ยังมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 60% ซึ่ง BYD อ้างว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้ ทำให้ตัวถังรถยุบตัวน้อยลงกว่า 5 มม. ลดการยุบตัวของห้องโดยสารมากขึ้น ผู้โดยสารปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งได้รับการทดสอบจาก C-NCAP มาแล้ว

5. เทคโนโลยีควบคุมการเคลื่อนไหวอัจฉริยะ

สถานปัตยกรรมการควบคุมการเคลื่อนไหวใหม่นี้จะรวมกำลังของแชสซี รองรับการจดจำสถานะแบบไดนามิก การจดจำการเหนี่ยวนำของมอเตอร์ และการจดจำภาพ iTAC (ระบบควบคุมแรงบิด) ส่งผลให้เวลาของ Slip recognition อยู่ที่ 50 ms ลด Slippage speed ลง 40% และมุมการหันเหสูงสุดลดลง 11.7%

นอกจากนี้ iTAC ยังรองรับโหมดการขับขี่แบบพิเศษ เช่น โหมดช่วยขับขี่ภูมิประเทศ, Track Mode, Drift Mode และโหมดการลากจูง เป็นต้น

และทั้งหมดนี้ก็เป็นส่ิงใหม่ใน e-platform 3.0 Evo ที่ BYD เปิดตัวมาพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Sea Lion 07 เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ได้ใช้แพลตฟอร์มนี้ คาดว่า e-platform 3.0 EVO จะถูกใช้เป็นรากฐานของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ต่อไป ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้ e-platform 4.0

ที่มา carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.