Sakura P.
ในที่สุด BYD ก็ได้เปิดตัว Sea Lion 07 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน รถยนต์แฮ็ชแบ็คไฟฟ้ารุ่นที่หลายคนรอคอยมายาวนาน ด้วยราคาเริ่มต้น 189,800 หยวน หรือประมาณ 980,000 บาท
BYD เปิดตัว Sea Lion 07 อย่างเป็นทางการ สร้างขึ้นบน e-platform 3.0 Evo ใหม่ เริ่มต้น 980,000 บาท
การออกแบบภายนอก Sea Lion 07
BYD Sea Lion 07 เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด Ocean-X ที่เปิดตัวในงาน Beijing Auto Show เมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงรูปลักษณ์การออกแบบของ BYD Seal ไว้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแฮชแบ็ค โดยภายนอกเน้นความเรียบหรูและมีสไตล์ ไฟหน้าคล้ายกับ BYD Seal ด้านข้างใช้มือจับประตูซ่อน
ส่วนด้านหลังดูโดยรวมก็คล้ายกับ BYD Seal ด้วยไฟท้ายยาวพาดด้านหลัง มาพร้อมสปอยเลอร์ Ducktail และสปอยเลอร์หลังคาที่เสริมความสปอร์ตมากขึ้น และรถคันนี้ได้ปรับใช้โลโก้เป็น “BYD” แทนโลโก้ Build Your Dreams แล้ว
มิติตัวถังของ Seal Lion 07 มีขนาด ยาว 4,830 มม. กว้าง 1,925 มม. สูง 1620 มม. และระยะฐานล้อ 2930 มม. ความจุถังเก็บสัมภาระ 58 ลิตร และขนาดห้องเก็บสัมภาระ 500 ลิตร
ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของ BYD Sea Lion 07 จะคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าซีดาน BYD Seal แต่ Sea Lion 07 นั้นมาพร้อมนวัตกรรมใหม่มากมาย เริ่มต้นด้วยการใช้พื้นฐาน e-Platform 3.0 Evo ใหม่ที่ถูกอัปเกรดจาก e-Platform 3.0 ปรับปรุงรบบส่งกำลังและความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่ที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี CTB (Cell-to-body battery) ที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการชนจากด้านหน้า 60% มีความต้านทานจากการเสียหายของห้องโดยสาร 50% มีโครงแข็งแกร่งขึ้น 60% เมื่อเทียบกับมาตรฐานอุตสาหกรรม การยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อได้รับการชนน้อยกว่า 5 มม. ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารมากขึ้น
Sea Lion 07 ยังมาพร้อมระบบ e-Drive อัจฉริยะ 12 in 1 ที่มีมอเตอร์ความเร็วรอบสูงที่สุดในโลก (23,000 รอบต่อนาที) ความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม. ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่เป็นนวัตกรรมของ BYD รวมส่วนประกอบสำคัญไว้ในหน่วยเดียว ช่วยปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือมากขึ้น
การออกแบบภายในของ Sea Lion 07
ภายในของ Sea Lion 07 มาพร้อมพวงมาลัยแบบสี่ก้านปลายตัด คันเกียร์คริสคัล และมีปุ่มควบคุมอยู่ใกล้กับเกียร์ ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอ AR-HUD ขนาด 50 นิ้ว ส่วนหน้าจอกลางมีขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ทำงานบนระบบ DiLink 100 ขับเคลื่อนด้วยชิป 6 nm ที่รองรับการควบคุมด้วยเสียง
นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังมีไฟ Ambient light เปลี่ยนสีได้มากกว่า 128 สี ระบบเสียง Dynaudio ลำโพง 12 ตัว และยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่อำนวยความสะดวกอีกมากมาย เช่น แหล่งจ่ายไฟ 220V สำหรับแล็ปท็อป ระบบคาราโอเกะ และการใช้งานแบบไร้กุญแจ NFC ส่วนด้านความปลอดภัยในห้องโดยสาร มีถุงลมนิรภัย 11 ใบ ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง และระบบตรวจสอบผู้ขับขี่
สเปคเบื้องต้นของ Sea Lion 07
- รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ มอเตอร์เดี่ยว มี 2 รุ่น คือ กำลังไฟฟ้า 230 kW และ รุ่นกำลังไฟฟ้า 170 kW
- รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมมอเตอร์ 2 ตัว กำลังไฟฟ้า 160 kW และ 230 kW กำลังรวมเป็น 390 kW
- แรงบิดสูงสุด 380 Nm
- รุ่นมอเตอร์เดี่ยว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.3 วินาที
- รุ่นมอเตอร์คู่ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 6.7 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม.
- ในรุ่นมอเตอร์เดี่ยวมีระยะทางให้เลือก 2 ช่วง ได้แก่ ระยะทาง 550 กม. และ 610 กม.
- รุ่นมอเตอร์คู่มีระยะทาง 550 กม. เพียงอย่างเดียว
- ความจุแบตเตอรี่ 71.8 kWh และ 80.64 kWh
- ชาร์จ 10%-80% ในเวลา 25 นาที
ระบบขับขี่อัจฉริยะและเทคโนโลยี Sea Lion 07
Sea Lion 07 เป็นรถยนต์ BYD คันแรกที่ติดตั้งระบบ ADAS DiPilot 100 “God’s Eye” ทำงานร่วมกับเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว, เรดาร์คลื่น 5 มม. และกล้องอีก 11 ตัว เป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงระดับ L2 โดยมี ระบบช่วยรักษารถให้อยู่เลน, ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้, ระบบเตือนการออกนอกเลน, การจดจำป้ายจราจร และระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ
รุ่นและราคา Sea Lion 07
BYD Sea Lion 07 วางจำหน่าย 4 รุ่นด้วยกัน แตกต่างตามระยะทางและระบบขับเคลื่อน ดังนี้
- 550 Standard：189,800 หยวน ประมาณ 980,000 บาท
- 610 Long Range：199,800 หยวน ประมาณ 1,030,000 บาท
- 610 Smart：219,800 หยวน ประมาณ 1,130,000 บาท
- 550 4WD Smart：239,800 หยวน ประมาณ 1,230,000 บาท
BYD Sea Lion 07 เปิดให้ลูกค้าในจีนทดลองขับแล้ว แต่ยังไม่กำหนดวันที่วางขายอย่างเป็นทางการ คาดว่ารถรุ่นนี้มีเป้าหมายที่จะเป็นคู่แข่งของ Model Y ที่เป็นรถที่มียอดขายสูงสุดในประเทศจีน ก็รอติดตามกันต่อไปว่ารถรุ่นนี้จะสามารถแซง Model Y ได้หรือไม่
BYD Sea Lion 07 คาดว่าเข้าไทยหรือไม่
สำหรับในประเทศไทย BYD Sea Lion 07 เคยนำมาจัดแสดงในงาน Motor Show 2024 ในประเทศไทยช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นรุ่นพวงมาลัยขวา (RHD) คาดว่ามีโอกาสที่จะนำเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยด้วย แต่ไม่แน่ชัดว่ารถรุ่นนี้จะเข้ามาช่วงไหน อาจจะเป็นการเปิดตัวช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้า รอติดตามกันต่อไป
ที่มา carnewschina
