ใน

New VESPA GTS 2023 สกู๊ตเตอร์ที่รวมความคลาสสิกเข้ากับ Technology ได้อย่างลงตัว

 

 

New VESPA GTS 2023 สกู๊ตเตอร์ที่รวมความคลาสสิกเข้ากับ Technology ได้อย่างลงตัว จะน่าสนใจขนาดไหน มารับชมกันได้เลย

รีวิว New VESPA GTS 2023

นอกจากความโดดเด่นทางด้าน Design ของ VESPA ที่ยังคงความคลาสสิกที่มีเสน่ห์มาจนถึงปัจจุบัน VESPA ได้มีการพัฒนาและนำเอา Technology ที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามาใน VESPA GTS นั้นคือ กุญแจแบบ KEYLESS เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

ถือว่าเป็นการผสมผสานความคลาสสิกมาไว้กับ Technology ได้อย่างลงตัว จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย

ความเป็นมาของ Vespa

Vespa เป็นแบรนด์จากประเทศอิตาลี โดย Vespa นั้นไม่ใช่รถมอเตอร์ไซต์แต่อย่างใด เขาจัดให้อยู่ในรุ่นของ พรีเมียมสกู๊ตเตอร์ ก่อตั้งในปี 1946 โดยตระกูล PIAGGIO ที่เริ่มธุรกิจจากการต่อเรือสำราญ และหันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ และ เครื่องบิน

ต่อมาในตระกูลนี้ ได้ให้วิศวกรออกแบบสกู๊ตเตอร์ต้นแบบขึ้น ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายกับรูปทรงของตัวต่อ ซึ่งภาษาอังกฤษนั้นใช้คำว่า Wasp หากเป็นภาษาอิตาลีจะกลายเป็นคำว่า Vespa ซึ่งคือกลายมาเป็นชื่อบรนด์ในปัจจุบันหากนับเวลามาถึงปัจจุบันแบรนด์ Vespa จะมีอายุมากว่า 77 ปีเลยทีเดียว สำหรับประเทศไทย Vespa ได้ทำการตลาดมาแล้วตั้งแต่ปี 2010

เราจะสังเกตุได้ว่าดีไซน์ของ Vespa นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม

 

Vespa GTS 2023

ในวันนี้ทีมงาน iMoD ของเราได้มารีวิวสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่จากทาง Vespa ที่เขาได้นำเทคโนโลยีมาผสมผสานดีไซน์ความคลาสสิคตรงนี้เข้าไปด้วย โดยมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันได้แก่

  • Vespa GTS 2023 SUPER SPORT 150 i-Get ABS
  • Vespa GTS 2023 300 HPE
  • Vespa GTS 2023 SUPER TECH 300 HPE

 

ดีไซน์ภายนอก

Vespa GTS 2023 ใช้ดีไซน์กระจกแบบใหม่ ดูมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น พร้อมกับไฟหน้ารูปทรงแบบใหม่ และไฟหน้าใช้เป็นแบบ LED รวมถึงไฟแบบ Day-Time Running Light จะอยู่บริเวณที่บังลมทางด้านซ้าย และด้านขวา ด้านหลังของที่บังลมเป็นช่องระบายอากาศ

ส่วนของล้อก็มีการปรับแต่งให้มีความสปอร์ตขึ้นมากว่าเดิม ระบบการสั่นสะเทือนยังคงใช้แบบด้านเดียว คงดีไซน์ความเป็นเอกลักษณ์ของทาง Vespa ไว้

Dashboard สำหรับรุ่น Vespa GTS 2023 SUPER SPORT 150 i-Get ABS, Vespa GTS 2023 300 HPE เป็นรูปแบบอนาล็อคที่มีความทันสมัยและหรูหรามากยิ่งขึ้น

ในรุ่น SUPER TECH 300 HPE ใช้หน้าจอแบบสี TFT Full Color หน้าจอ 4.3″ และรุ่นนี้ตัวเบาะจะมีไฟส่องในช่องเก็บของมาให้ด้วย

เทคโนโลยี

Vespa GTS 2023 ทุกรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยี Keyless ลักษณะคือคล้ายกับกุณแจของรถยนต์ ใช้ในการปลดล็อคเบาะนั่ง, ใช้ค้นหารถโดยรถจะแสดงไฟขึ้นมาให้เราเห็น ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของ Vespa ที่ปรับมาใช้กุญแจแบบ Keyless

เทคโนโลยีในหน้าจอ DashBoard แสดงข้อมูลหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในการขับขี่ อัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน, ระดับแบตเตอรี่ที่เหลือ, ระดับน้ำมัน, แสดงอุณหภูมิ ได้ ลักษณะคล้ายกับที่มีในรถยนต์เลย

ไฮไลท์เลยคือเชื่อมต่อแอป Vespa ได้ ทั้งทางฝั่งของ iOS และ Android สามารถใช้ดูรายละเอียดของตัวรถได้ เหมือนกับแอปพลิเคชันของรถยนต์ไฟฟ้า สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันแผนที่สำหรับการนำทางได้

มีช่องสำหรับเสียบสาย USB-A เพื่อใช้ในการชาร์จโทรศัพท์ของเราในกรณีที่แบตเตอรี่ใกล้หมดได้

สามารถดูรายละเอียดการใช้งานแอปพลิเคชันได้ในคลิปรีวิว :

ประสบการณ์การขับขี่

เริ่มต้นกันที่รุ่น SUPER TECH 300 กันก่อน สำหรับรุ่นนี้มีอัตราเร่งที่ทำได้ดี เห็นถึงความแตกต่างจากรุ่น 150 ได้ชัดเจน แรงบิดที่ให้มาเยอะ และกำลัง CC ของรุ่นนี้ ช่วยให้การขับขี่บนทางเรียบ หรือแม้กระทั่งการขับขี่ขึ้นเส้นทางเขาทำได้ง่ายดาย ไม่ว่าจะขับขี่ตัวคนเดียว หรือ มีคนซ้อนท้ายด้วย

ข้อดีของรุ่น GTS นั้นคือระบบระบายความร้อนแบบหม้อน้ำ จะอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวรถ มีดีไซน์รับลมด้านหน้าที่ช่วยเรื่องระบายความร้อนได้ดี ตอบโจทย์การขับขี่ในระยะทางไกล

ความรู้สึกของการนั่งบนเบาะ สำหรับคนขับขี่ ด้วยความที่ตัวเบาะดีไซน์มาในรูปแบบสปอร์ต ทำให้รู้สึกได้ว่ากระชับพอดีกับสรีระของเรา ไม่ได้ใหญ่ขนเกินไป สามารถคร่อมวางขาได้ปกติ

ทางฝั่งของคนซ้อน ด้วยความที่ดีไซน์ของ Vespa นั้นช่วงท้ายจะมีลักษณะโป่งออกมาเหมือนก้นของตัวต่อ อาจจะมีติดช่วงของขา ดันขานิดนึงสำหรับคนซ้อน

น้ำหนักของตัวรถ อาจจะส่งผลได้สำหรับคนที่มีแรงน้อย เพราะน้ำหนักของเขาอยู่ที่ 163 kg

เทคโนโลยีในตัว SUPER TECH 300 ที่ชื่นชอบโดยส่วนตัวคือ การใช้จอยสติกในการควบคุมเพลงได้ เช่นการกด Play, Pause, เพิ่ม-ลดเสียงได้ ดูข้อความที่เข้ามา หรือ รับสาย-วางสายโทรศัพท์ได้ผ่านตัวจอยสติกเลย

ข้อมูลบนหน้าจอสามารถแสดงได้ด้วยว่า ถนนสายที่เราขับอยู่นั้นมีการจำกัดความเร็วเอาไว้ที่เท่าไหร่ แสดงแผนที่นำทาง รวมถึงข้อมูลการขับขี่ได้ละเอียด

สำหรับทางฝั่งของรุ่น 150 แม้ว่าอัตราเร่ง หรือ แรงบิดจะน้อยกว่า แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การขับขี่ทั่วไปได้อยู่แล้ว บวกกับระบบระบายความร้อนแบบหม้อน้ำก็สามารถช่วยให้เราขับขี่รุ่น 150 ได้ในระยะทางที่ไกล

รวมถึงรองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Vespa เหมือนที่ใช้งานได้ร่วมกับ รุ่น 300 ก็ถือว่าเหมาะกับใครที่มองว่ารุ่ย 300 HPE หรือ SUPER TECH 300 มันเกินกำลังของเราไป รุ่น SUPER SPORT 150 i-Get ABS ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์การขับขี่ได้สนุก มีเทคโนโลยีรองรับ เป็นอย่างดีอยู่แล้ว

ราคาและสถานที่จำหน่าย

  • Vespa GTS 2023 SUPER SPORT 150 i-Get ABS เริ่มต้น 165,900 บาท
  • Vespa GTS 2023 300 HPE : 222,900 บาท
  • Vespa GTS 2023 SUPER TECH 300 HPE เริ่มต้น 241,900 บาท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมและการสั่งซื้อได้ที่ https://vespa.co.th และ https://www.vespa.co.th/vivalavespa

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Keattisak Moonrin