BYD Seagull เป็นรถยนต์ ECO ขนาดกะทัดรัด มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ถึงแม้ว่าจะเป็นรถขนาดเล็กแต่พื้นที่โดยสารภายกว้างขวาง เรามาชมสเปคเบื้องต้นและข้อมูลอื่น ๆ กัน
BYD Seagull รถ City Car ไฟฟ้า ขนาดกะทะรัด ระยะทาง 400 กม. ชมข้อมูลเบื้องต้นและประสบการณ์ทดลองขับที่นี่
BYD Seagull เป็นรถ City Car ไฟฟ้าขนาดเล็ก สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 CTP Blade Battery วิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 400 กม.
สเปคของ BYD Seagull เบื้องต้น
- รูปแบบรถ : City EV ขนาดเล็ก 4 ที่นั่ง Hatchback 5 ประตู
- มิติตัวรถ : ยาว 3,780 x กว้าง 1,715 x สูง 1,540 มม.
- ระยะฐานล้อ : 2,500 มม.
- ขนาดแบตเตอรี่ : 38.88 kWh
- ระยะที่วิ่งได้สูงสุด : 400 กม./ชาร์จ (NEDC)
- มอเตอร์ : 1 ตัว
- ระบบขับเคลื่อน : 2WD
- พละกำลังสูงสุด : 55kW (~74 แรงม้า)
- แรงบิดสูงสุด : 135 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. : 13 วินาที
- รองรับการชาร์จ DC สูงสุด : 40kW
- ความจุห้องเก็บสัมภาระ : 930 ลิตร (หากพับเบาะหลัง)
- ระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC), ระบบ
ป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS), ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบช่วย
ออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HHC) - ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ อาทิ กล้องมองถอยหลัง, ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
Cruise Control, เซ็นเซอร์กะระยะหลัง 3 จุด - ถุงลมนิรภัยคู่หน้าฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างฝั่งคนขับและผู้โดยสาร
ตอนหน้า ม่านถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านหลัง
การออกแบบของ BYD Seagull
- โดดเด่นและแตกต่างด้วยดีไซน์สปอร์ต ที่ผสมผสานเส้นสายอย่างประณีตและเฉียบคม
- ไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยม เข้ามุม ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว พร้อมกับการออกแบบไฟท้ายแบบคริสตัล
น้ำแข็ง 3 มิติ - ดีไซน์สปอร์ต ทันสมัย ด้วยการออกแบบด้านข้างแบบการสยายปีกของนกนางนวล แนวหลังคา
ลาดเอียงไปด้านท้ายของรถยนต์ เสริมประสิทธิภาพในการลู่ลมที่ดียิ่งขึ้นขณะรถวิ่ง - ขับขี่คล่องตัว พร้อมพื้นที่โดยสารภายในที่กว้างขวาง
- ขนาดตัวรถที่กะทัดรัด มาพร้อมการออกแบบฐานล้อที่ยาวถึง 2,500 มิลลิเมตร จึงทำ
ให้รู้สึกว่าห้องโดยสารกว้างขวาง - ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 55 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร พร้อม
กับเทคโนโลยี BYD Blade Battery ประเภท LFP ที่พัฒนาภายใต้จาก e-Platform 3.0 - รัศมีวงเลี้ยวที่ 4.95 เมตร ขับขี่อย่างคล่องตัวแม้ในพื้นที่คับแคบ ทรงตัวอย่างมั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง
- ล้อขนาด 16 นิ้ว พร้อมความกว้าง 175/55 การออกแบบทรงแม็กซ์อลูมิเนียมที่มี
น้ำหนักเบา ทำให้การขับเคลื่อนมีความยืดหยุ่น ส่งเสริมประสิทธิภาพการทรงตัว - ระบบกันสะเทือนแบบ MacPherson Strut ช่วยบังคับทิศทางรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และด้านหลังแบบ Torsion Beam ช่วยเรื่องการทรงตัวอย่างมั่นใจ - ดิสเบรกระบายอากาศคู่หน้า และดิสเบรกคู่หลัง ส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยทั้งความเร็ว
ต่ำและความเร็วสูง - หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 10.1 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android
Auto - รองรับการชาร์จไฟกระแสตรงหรือ DC ที่กำลังสูงสุด 40 กิโลวัตต์ และรองรับระบบคายประจุ
ไฟ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้ไฟฟ้าอย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งในด้านของการชาร์จไฟ และ
การจ่ายกระแสไฟเมื่อต้องการ
ประสบการณ์การขับขี่
ครั้งนี้ทางทีมงานได้ทดสอบขับในสนามพีระเซอร์กิต อ.พัทยา จ.ชลบุรี ทั้งเป็นผู้ขับขี่ และผู้โดยสารตอนหลัง โดยจะอธิบายแยกเป็น 2 ส่วนนะครับ
- ในฐานะผู้ขับขี่ – ช่วงตัวรถด้านหน้า ค่อนข้างสั้น ทำให้ขับขี่คล่องตัว ในตัวเมือง และทางแคบ ๆ พวงมาลัยปรับเซ็ทมากำลังพอดี แต่ระยะเบรกเซ็ทมาค่อนข้างนุ่มนวล คือแตะเบรกไปนิดนึงแล้วเจอ ส่วนการเข้าโค้ง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน ระบบ Traction Control จะเข้ามาช่วยแบบรวดเร็วมาก แต่ถ้าเราเข้าโค้งแบบแรง ๆ ยังมีอาการที่ค่อนข้างน่ากลัว ท้ายรถพร้อมออกได้ตลอด ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ไปแบบนุ่มนวล ไม่กระชากมาก เพราะทำได้ 13 วินาที
- ในฐานะผู้โดยสารตอนหลัง – บอกได้เลยว่า เบาะนุ่ม นั่งสบาย (ความนิ่มของเบาะ) พอ ๆ กับ BYD Dolphin เลย ส่วนระยะ Leg Room เหลือค่อนข้างเยอะ (ทีมงานสูง 170 ซม.) ส่วนการเข้าโค้ง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน ตัวรถจะมีอาการโยนค่อนข้างเยอะ อาจทำให้เวียนหัวได้ เวลาโดยสาร
รอติดตามกันต่อไปว่าทาง เรเว่ จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่ หากมีข่าวสารเพิ่มเติมทางทีมงาน iMoD จะรายงานให้ทราบต่อไปครับ
นอกจากนี้ทาง BYD ยังได้นำรถรุ่นอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยเปิดตัวในประเทศไทยมาให้เราได้ทดลองขับกันด้วย ชมข้อมูลได้ที่