หลังจากที่ Tesla เปิดตัว Model Y ใหม่ Launch Series เราก็คงได้เห็นคุณสมบัติใหม่และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ กันมาบ้างแล้ว รวมถึงมีการเผยคุณสมบัติเชิงลึกที่ทีมงาน Tesla ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจที่เปิดเผยพร้อมการสัมภาษณ์นี้คือ Model Y ใหม่มีเรดาห์ 4 มิติ ในห้องโดยสาร มาชมกันว่าความสามารถของสิ่งนี้คืออะไร
Tesla Model Y ใหม่ มี 4D Radar โทรแจ้งบริการฉุกเฉินอัตโนมัติ หากลืมเด็กไว้ในรถ
Tesla ติดตั้งเรดาห์ในห้องโดยสารตั้งแต่ปี 2022 อยู่แล้ว ซึ่งสามารถตรวจสอบจำนวนผู้โดยสารภายในรถได้ แต่ใน Model Y รุ่นใหม่นั้นได้ติดตั้งเรดาห์ 4 มิติ (4D Radar) รุ่นใหม่ที่มีความสามารถมากขึ้น
เรดาห์ 4 มิติใหม่นี้ จะอยู่ในตำแหน่งเดิม เหนือกระจกมองหลัง และมีความสามารถในการให้รายละเอียดมากกว่าเรดาห์หรือกล้องในห้องโดยสารรุ่นปัจจุบันที่มีในรถรุ่นเดิม ดังนี้
จำแนกขนาดผู้โดยสาร
เรดาห์ 4 มิติ จะเน้นด้านความปลอดภัย เรดาห์จะตรวจจับและจำแนกขนาดผู้โดยสาร (ทราบขนาด ส่วนสูง และน้ำหนักของผู้โดยสาร) เพื่อกำหนดว่าจะใช้งานถุงลมนิรภัยไดนามิกแบบใด หมายความว่า หากพบว่าคนตัวต่ำนั่งอยู่ด้านหน้า ถุงลมนิรภัยบนแผงหน้าปัดอาจไม่ทำงาน แต่ถุงลมนิรภัยแบบม่านจะทำงานแทน
การกำหนดถุงลมนิรภัยให้เหมาะสมกับขนาดของผู้โดยสารจะช่วยลดการบาดเจ็บจากแรงกระแทกจากการทำงานของถุงลมนิรภัยได้ และลดต้นทุนในการซ่อมแซม เนื่องจากการเปิดใช้งานถุงลมโดยไม่จำเป็น
ตรวจจับการทิ้งเด็กไว้ในรถ
เนื่องจากความสามารถในการจำแนกผู้โดยสารตามข้อแรก เรดาห์จึงสามารถแยกแยะผู้สารที่เป็นผู้ใหญ่ ทารก หรือเด็ก ที่นั่งในแถวที่ 2 ได้ และปรับความปลอดภัยแบบไดนามิกที่จำเป็นโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ เรดาห์ในห้องโดยสารยังตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจของผู้โดสาร และถ้าหากพบว่ามีเด็กถูกทิ้งไว้ในรถโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล รถ Tesla ก็จะดำเนินการต่าง ๆ เริ่มต้นด้วยการเปิดระบบปรับอากาศ (HVAC) และส่งคำเตือนไปผ่านแอป Tesla ไปยังเจ้าของหรือผู้ที่มีกุญแจรถในแอป
แต่ถ้าหากในกรณีฉุกเฉิน เช่น เจ้าของรถไม่เห็นการแจ้งเตือนจนทิ้งเด็กไว้นานเกินไป รถยนต์จะโทรเรียกบริการฉุกเฉินให้อัตโนมัติ และรายงานตำแหน่งให้ทราบ เพื่อขอรับการช่วยเหลือ
รถยนต์นอกอเมริกาเหนือจะมีระบบ eCall ที่สามารถโทรฉุกเฉินได้ แต่ในอเมริกาเหนือไม่มี จึงไม่สามารถโทร 911 เองได้ เว้นแต่ว่าโทรศัพท์จะเชื่อมต่อกับรถยนต์ผ่านบลูทูธ
คาดว่าเรดาห์รุ่นใหม่และการทำงานด้านความปลอดภัยดังกล่าวจะยังไม่พร้อมทำงานเมื่อรถเริ่มส่งมอบ ซึ่ง Tesla ตั้งใจจะเปิดใช้งานคุณสมบัติเหล่านี้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ รอติดตามกันได้เลย
ที่มา notateslaapp