Nuttanon P.
Rivian ยังคงเดินหน้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้มีฉลาดมากขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น และขับสนุกยิ่งขึ้นด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่าน OTA เป็นประจำ ล่าสุด Rivian ได้เปิดตัวระบบช่วยขับขั้นสูง (ADAS) ใหม่ที่เรียกว่า Enhanced Highway Assist จะช่วยให้เจ้าของ R1S และ R1T รุ่น Gen 2 สามารถขับขี่บนทางหลวงได้แบบ “ไม่ต้องใช้มือเข้าควบคุม” เป็นระยะเวลานานได้มาชมรายละเอียดฟีเจอร์นี้กันครับ
Rivian เปิดตัวระบบขับขี่แบบไม่ต้องใช้มือจับพวงมาลัย พร้อมโหมด “Rally” ใหม่ และการอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด
ระบบนี้ Hands-free จะทำงานคล้ายกับ Tesla Autopilot โดยใช้กล้องอินฟราเรดที่ติดตั้งบริเวณกระจกมองหลังเพื่อตรวจจับว่าผู้ขับขี่ยังคงให้ความสนใจกับถนนอยู่หรือไม่ แทนที่จะต้องคอยบังคับให้จับพวงมาลัยเป็นระยะ ๆ
โดยในปีนี้ Rivian วางแผนจะขยายระบบ Hands-free ขับขี่แบบไม่ต้องใช้มือแต่ต้องมองถนน ให้ใช้งานได้ทางหลวงและถนนอื่น ๆ ในปีหน้าแบรนด์มีเป้าหมายที่จะเปิดตัวระบบ Eyes-off ขับขี่แบบไม่ต้องใช้มือควบคุมและไม่ต้องมองถนน ภายใต้เงื่อนไขที่ควบคุมได้
แพลตฟอร์มอัตโนมัติของ Rivian ถูกพัฒนาขึ้นเองทั้งหมด โดยใช้งานจากการกล้อง 11 ตัว และเรดาร์ 5 ตัว เพื่อให้มุมมองรอบคันแบบ 360 องศา แบรนด์อ้างว่ากล้องของ Rivian เป็นกล้องที่มีความละเอียดสูงสุดในอเมริกาเหนือ ขณะที่เรดาร์สามารถตรวจจับวัตถุที่อยู่ไกลออกไปได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Rivian ยังระบุว่าคอมพิวเตอร์ภายในรถของพวกเขาสามารถประมวลผลได้มากกว่า 200 ล้านล้านครั้ง/วินาที ถือว่าอาจเป็นคอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดที่ลูกค้าของพวกเขาเคยใช้มาแล้ว
เปิดตัวโหมดขับขี่ใหม่ “Rally” และอัปเกรดสมรรถนะ
ในการอัปเดตครั้งนี้ Rivian ได้เพิ่มโหมดขับขี่ใหม่ที่เรียกว่า “Rally Mode” สำหรับรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบมอเตอร์คู่สมรรถนะสูง เมื่อเปิดใช้งานโหมด Off-Road จะสามารถเลือก Rally Mode ได้ มันจะทำให้พวงมาลัยและคันเร่งตอบสนองไวขึ้น เหมาะสำหรับการขับบนพื้นผิวดิน, โคลน, น้ำแข็ง, หิมะ และถนนยางมะตอย
ภาพจาก Business Insider
นอกจากนี้ Rivian ยังได้เพิ่ม Performance Upgrade ที่สามารถซื้อภายหลังได้ โดยก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้ครับ
รายละเอียดการอัปเกรดสมรรถนะ (Performance Upgrade)
- สามารถใช้ได้กับรถมอเตอร์คู่รุ่น Gen 1 และ Gen 2 ที่ใช้แบตเตอรี่ Standard, Large หรือ Max
- ราคาสำหรับการอัปเกรดอยู่ที่ $5,000 (ประมาณ 180,000 บาท)
- เพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 665 แรงม้า แรงบิด 1,124 นิวตันเมตร
- ปลดล็อกโหมดขับขี่ใหม่ 3 โหมด: Sport, Rally และ Soft Sand
- สามารถอัปเกรดผ่านบัญชี Rivian หรือแอปมือถือ และจะติดตั้งผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ OTA ตัวรถ
ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ในการอัปเดตนี้
นอกจากโหมด Rally และ Enhanced Highway Assist แล้ว Rivian ยังเพิ่มฟีเจอร์อัจฉริยะอื่น ๆ เช่น
- การเปลี่ยนประเภทล้อ ในการตั้งค่ารถ เพื่อให้การคำนวณระยะทางวิ่งแม่นยำยิ่งขึ้น
- กระจกมองข้างปรับอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง คล้ายกับฟีเจอร์ในรถ Tesla
- ปิดฝาช่องชาร์จไฟจากระยะไกล ผ่านแอปมือถือ
- “Go Chime” – แจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานแล้วใน Gen 2 และจะเปิดให้ Gen 1 ในอนาคต
Rivian ยังคงมุ่งหน้าพัฒนาซอฟต์แวร์ให้รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และสนุกขึ้นต่อไปในอนาคต แต่น่าเสียดายที่บ้านเรายังไม่มีโอกาสได้สัมผัสรถยนต์ไฟฟ้า Rivian และแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Lucid เพราะทั้งสองแบรนด์ก็ถือว่ามีเทคโนโลยีที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าครับ
ที่มา : Electrek
