ใน , , ,

Volkswagen โดนฟ้องปุ่มสัมผัสบนพวงมาลัยไวเกิน ร้องเรียนเพราะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

หลัง ๆ มาวงการยานยนต์เริ่มพยายามทำให้ให้รถยนต์มีความรู้สึกเหมือนสมาร์ทโฟนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยการยกเลิกการใช้ปุ่มกดแบบอนาล็อก แทนด้วยหน้าจอสัมผัส และปุ่มแบบ Capacitive touch แต่ผู้บริโภคกลับตอบรับในทิศทางตรงกันข้าม

Volkswagen โดนฟ้องปุ่มสัมผัสบนพวงมาลัยไวเกิน ร้องเรียนเพราะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

ล่าสุด Volkswagen ต้องเผชิญกับคดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม (Class Action Lawsuit) หลังมีการร้องเรียนต่อ NHTSA (National Highway Traffic Safety Administration) เกี่ยวกับปุ่มสัมผัสบนพวงมาลัย ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ รวมถึงอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต

Volkswagen ID.4 และ ID.5 เปิดตัวรุ่นปี 2024 ปรับปรุงใหม่ แรงขึ้น วิ่ง

ประเด็นหลักของการฟ้องร้อง

  • คดีเน้นมุ่งเป้าไปที่ปุ่มสัมผัสบนพวงมาลัยของรถตระกูล ID.4, ID.Buzz และรุ่นอื่นอย่าง Golf

  • แบรนด์โดนกล่าวหาว่าปุ่มมีความไวเกินไป ทำให้ผู้ขับเพียงแค่เผลอแตะเบา ๆ ก็ทำงานโดยไม่ตั้งใจได้

  • ปัญหานี้มีโอกาสเกิดขึ้นตอนหมุนพวงมาลัย ถ้าเทียบให้ภาพคือเหมือนเราเผลอ “พลาดกดโทรศัพท์” แต่ผลลัพธ์อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

หนึ่งในฟังก์ชันที่สามารถถูกเปิดใช้งานได้คือ Adaptive Cruise Control (ACC) การเปิดระบบนี้ทำให้การเร่งรถสามารถความเร็วเองได้โดยไม่ตั้งใจ จนทำให้ Volkswagen โดนกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิต

ข้อกังขาต่อระบบความปลอดภัยของ IQ.Drive

  • คำฟ้องยังตั้งข้อสังเกตว่าระบบเบรกไม่สามารถยกเลิก ACC ได้ในบางสถานการณ์

  • ระบบเบรกฉุกเฉิน (Emergency Braking) ไม่ทำงานในสถานการณ์ที่ควรทำ

  • ถุงลมนิรภัยบางครั้งไม่ทำงานเมื่อเกิดเหตุชน

ผู้ใช้จำนวนมากได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ NHTSA เกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ โดยเฉพาะในรุ่น ID.4

เสียงสะท้อนจากผู้ใช้และสื่อ

สื่อ InsideEVs เคยทดสอบการขับรถที่มีปุ่มแบบ Capacitive และระบุว่าเป็นฟังก์ชันที่ “น่าหงุดหงิดอย่างยิ่ง” ขณะขับ Volkswagen ID.4 เจ้าของรถบางคนถึงขั้นเปลี่ยนอะไหล่ใหม่เป็นปุ่มปกติจากรุ่นอื่นแทน

2021 Volkswagen ID.4 Review | PCMag

Volkswagen ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด

ผู้บริหารระดับสูงของ Volkswagen เองยังยอมรับว่าการใช้ปุ่มสัมผัสเป็น “ความผิดพลาด” โดย Andreas Mindt หัวหน้าฝ่ายออกแบบของแบรนด์ ระบุว่าจะนำปุ่มกดแบบปกติ (Physical Buttons) กลับมา หลังเสียงสะท้อนจากลูกค้าชี้ชัดว่าปุ่มสัมผัสไม่เหมาะกับการใช้งานจริง

Mindt ทิ้งท้ายว่า “นี่คือรถ ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ” ลูกค้าหลายคนยังต้องการปุ่มกดจริงที่ให้ความมั่นใจเมื่อกด พร้อมแรงตอบสนองที่ชัดเจน แตกต่างจากการแตะพลาดที่อาจทำให้รถทำงานผิดพลาดอย่างไม่ตั้งใจ

บทเรียนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์

การผสานเทคโนโลยีเข้ากับรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการนำไปใช้อย่างเหมาะสม และปลอดภัย ผู้ผลิตควรคิดให้รอบคอบก่อนเปลี่ยนรถยนต์ให้กลายเป็น “สมาร์ทโฟนติดล้อ” เพราะผู้ขับบางคนต้องการความสะดวกทันสมัย ขณะที่อีกหลายคนยังต้องการความมั่นใจจากปุ่มกดจริงที่คุ้นเคย

ที่มา : Insideevs

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.