Nuttanon P.
ด้วยงาน Dakar Rally 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 -19 มกราคม 2024 ทาง Audi ได้วางแผนที่จะขยายรุ่นย่อยให้กับไลน์ RS Q e-tron ที่ได้เริ่มพัฒนาและเปิดตัวไปในช่วงปี 2022 และเป็นช่วงที่ทาง 2 นักแข่งอย่าง Mattias Ekström และ Emil Bergkvist จบที่อันดับที่ 9 ด้วยรถ Audi RS Q e-tron และนี่คือการมาของ Audi Q8 e-tron Edition Dakar 2024 เรามาทำความรู้จักตัวรถไปพร้อมกันครับ
Audi Q8 e-Tron Edition Dakar ไฟฟ้า SUV สปอร์ตรุ่นวิบากลุยได้ทุกสถานการณ์
‘Edition Dakar’ ใช้พื้นฐานมาจากรุ่น Q8 e-tron 55 quattro เป็นรถ SUV ไฟฟ้า 100% ขนาดใหญ่ที่สุดในรุ่นของ Audi มีแบตเตอรี่ความจุ 106kWh มาพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้พลังกำลัง 402 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 664 นิวตันเมตร
แม้ว่าจะมีตัวเลขแรงม้าและแรงบิดที่ไม่ได้เยอะ แต่ก็จะถูกนำมาใช้ในรุ่น Q8 e-tron Edition Dakar แต่ทาง Audi แจ้งว่าตัวเลขระยะที่วิ่งได้อยู่ที่ 450 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรได้ภายใน 5.9 วินาที ซึ่งตัวเลขประมาณนี้ถือว่ายอมรับได้
สิ่งที่ Edition Dakar แตกต่างจากรุ่นปกติที่เห็นได้ชัดมากที่สุดคือล้อแก้มสูง 18 นิ้ว General Grabber AT3 all-terrain มาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลม ด้วยขนาดล้อที่ใหญ่ทำให้ตัวรถมี Ground Clearance ที่สูงขึ้นกว่ารุ่นปกติอย่าง Q8 e-tron ถึง 65 มิลลิเมตร และมีความกว้างของตัวรถเพิ่มขึ้นอีก 57 มิลลิเมตร
Rack ที่หลังคาให้มาเป็น Standard สำหรับ Edition Dakar ที่สามารถรับน้ำหนักสูงสุดได้ 40 กิโลกรัม ภายในจะได้การตกแต่แบบ S line ที่ให้ความสปอร์ต
จอกลางจะได้ภาพพื้นหลังเป็นรูปทรายและยังสามารถบอกรายละเอียดระยะการหมุนของล้อ แต่สมัยนี้ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ให้มาในรถ SUV ไฟฟ้าส่วนใหญ่แล้ว Edition Dakar ไม่ได้มีโรลบาร์หรือสเปคพิเศษแบบ Motorsport มาให้แต่อย่างใด
เป็นที่น่าเสียดายเพราะจะมีเพียงสีพื้นฐานให้เลือกเท่านั้นสำหรับ Edition Dakar ทาง Audi กล่าวว่าจะมีให้เลือกเพียงสีดำ ขาว และสีเทา ไม่ว่าจะเลือกสีอะไรตัวรถจะตัดด้วยสีดำในพาร์ทของขอบซุ่มล้อและชิ้นส่วนช่วงล่างซึ่งอาจจะทำให้ดูรถดูน่าเบื่อเล็กน้อย
คาดว่ารุ่นนี้จะผลิตออกมา 1,000 คัน โดย Edition Dakar ราคาจะอยู่ประมาณ 120,000 ยูโร (ประมาณ 4,500,000 บาทไทย) หากต้องการที่จะจ่ายเพิ่มก็จะได้ Body paint เวอร์ชั่นแบบตามภาพที่เห็น รวมถึงได้กราฟฟิกแบบ RS Q e-tron โดยจะผลิตรุ่นพิเศษแค่เพียง 99 คันเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 130,000 ยูโร (ประมาณ 4,890,000 บาทไทย) ณ ตอนนี้ทาง Audi ยังทำการตลาดรุ่นนี้เพียงแค่สเปคพ่วงมาลัยซ้ายเท่านั้นก่อน
สำหรับหลายคนอาจจะคิดว่า Edition Dakar เป็นรุ่นที่ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับการใช้งานแบบ Off-road ขนาดนั้น แต่ทาง Audi ก็ได้พิสูจน์ให้ได้เห็นแล้วว่ารถรุ่นนี้สามารถสร้างรอยยิ้มได้แม้จะขับท่ามกลางทะเลทราย
ที่มา: topgear
