ใน ,

BMW Group ประเทศไทย เตรียมยกทัพนำสุดยอดยนตรกรรมรุ่นล่าสุดสู่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย

BMW Group ประเทศไทย เตรียมยกทัพสุดยอดยนตรกรรมรุ่นล่าสุด พร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษจาก BMW, MINI และ BMW Motorrad ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 หรือ Motor Expo 2023 โดยงานในปีนี้จะจัดขึ้น ณ อาคาร IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566

BMW Group ประเทศไทย เตรียมยกทัพนำสุดยอดยนตรกรรมรุ่นล่าสุดสู่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย

กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เดินหน้าก้าวสู่อีกระดับของโลกแห่งยนตรกรรมและการขับเคลื่อน เผยโฉมทัพรถยนต์และมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่น พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 โดยงานในปีนี้จะจัดขึ้น ณ อาคาร IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม พ.ศ.2566 ภายใต้แนวคิด “ยานยนต์ : ความหมายที่มากกว่า” โดยผู้ร่วมงานจะได้ยลโฉมรถยนต์และมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นจากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด พร้อมตื่นตาไปกับยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่เตรียมมาเผยโฉมในงานนี้โดยเฉพาะ 

บีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red นำทัพสุดยอดยนตรกรรมร่วมงานปีนี้ โดยรถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ในตระกูล XM ซึ่งผลิตมาในจำนวนจำกัดและยังถือเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M ที่มาพร้อมสมรรถนะสูงสุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากนี้แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 740d M Sport ที่ออกแบบมาเพื่อมอบทางเลือกใหม่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ไดนามิคแบบซีดานอย่างแท้จริงตามแบบฉบับในซีรีส์ 7 ส่วนแฟน ๆ ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ตเตรียมพบประสบการณ์ใหม่ที่เร้าใจแบบคูเป้จากรถยนต์ในซีรีส์ 4 กับบีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupe M Sport ทั้งสามรุ่นพร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และรับจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สำหรับแฟน ๆ มินิเตรียมสัมผัส มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Final Edition ที่จะมาส่งท้ายรถยนต์ในรูปแบบแฮทช์ 5 ประตูเจ้าของคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่มาในสีล่าสุดไม่เหมือนใคร และมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Mayfield Edition ซึ่งถักทอแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามและเงียบสงบของทุ่งลาเวนเดอร์ในย่านเมย์ฟิลด์ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งรถสองรุ่นพิเศษนี้ผลิตมาในจำนวนจำกัด โดยมินิ คลับแมน Final Edition มีจำหน่ายเพียง 50 คัน และมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ Mayfield Edition มีจำหน่ายเพียง 12 คันในประเทศไทยเท่านั้น

ฝั่งบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เตรียมส่งมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นสู่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure มาในสี Racing Blue Metallic ใหม่ ที่จะมาเติมความสมบูรณ์แบบให้กับสุดยอดมอเตอร์ไซค์แบบเอ็นดูโร่และพร้อมพาเหล่านักบิดไปค้นหาความเป็นไปได้ในทุกเส้นทาง

ข้อเสนอสุดพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40

ลูกค้าที่เลือกซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมีกำหนดส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และเลือกทำสัญญาทางการเงินกับบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย จะได้รับข้อเสนอพิเศษ ดังนี้*

รุ่น ข้อเสนอ
BMW 220i Gran Coupe M Sport
  • ดาวน์เริ่มต้น 0%
  • ฟรี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) สูงสุด 2 ปี สำหรับสัญญาฯ เช่าซื้ออัตราดอกเบี้ยคงที่ สัญญาฯ เช่าซื้อแบบมีบอลลูน และสัญญาฯ เช่าทางการเงิน
  • ฟรี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) สูงสุด 3 ปี สำหรับสัญญาฯ Freedom Choice
BMW X3 xDrive20d M Sport
BMW X3 xDrive30e M Sport
BMW X4 xDrive20d M Sport
BMW X5 xDrive30d M Sport (รุ่นก่อนปรับโฉม)
BMW X5 xDrive45e M Sport (รุ่นก่อนปรับโฉม)
BMW X6 xDrive40i M Sport (รุ่นก่อนปรับโฉม)
BMW 630i GT M Sport
BMW 750e xDrive M Sport
  • ดาวน์เริ่มต้น 0%
  • ฟรี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 1 ปี สำหรับสัญญาฯ เช่าซื้ออัตราดอกเบี้ยคงที่ สัญญาฯ เช่าซื้อแบบมีบอลลูน และสัญญาฯ เช่าทางการเงิน
  • รี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 2 ปี สำหรับสัญญาฯ Freedom Choice
BMW 320d M Sport
BMW 330e M Sport
BMW 320Li M Sport
BMW 330Li M Sport
BMW M340i xDrive
BMW X1 sDrive18i
BMW X1 sDrive20i xLine
BMW X1 sDrive20i M Sport
BMW X1 xDrive30e M Sport
BMW X7 xDrive40d M Sport
  • ดาวน์เริ่มต้น 0%
  • ฟรี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 1 ปี สำหรับสัญญาฯ เช่าซื้ออัตราดอกเบี้ยคงที่
  • ฟรี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 2 ปี สัญญาฯ เช่าซื้อแบบมีบอลลูน สัญญาฯ เช่าทางการเงิน และสัญญาฯ Freedom Choice
BMW 520d M Sport
BMW 530e Elite
BMW 530e Luxury
BMW 530e M Sport
  • ดาวน์เริ่มต้น 0%
  • ฟรี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 1 ปี สำหรับสัญญาฯ เช่าซื้ออัตราดอกเบี้ยคงที่ สัญญาฯ เช่าซื้อแบบมีบอลลูน และสัญญาฯ เช่าทางการเงิน
  • ฟรี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 2 ปี สำหรับสัญญาฯ Freedom Choice
BMW i5 xDrive M60
BMW i5 eDrive40 M Sport
  • ฟรี Wallbox
BMW i4 eDrive35 M Sport
BMW i4 M50
BMW iX xDrive40 Sport
BMW iX xDrive50 Sport
BMW iX3 M Sport
BMW i7 xDrive60 M Sport
BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso
  • ดาวน์เริ่มต้น 25% พร้อมดอกเบี้ย 0%
  • ฟรี Wallbox
  • ฟรี ข้อเสนอ BMW Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) สูงสุด 1 ปี

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bmw.co.th/th/topics/offers-and-services/special-offers/bmw-nov-2023-offer.html เฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Thailand หรือติดต่อ BMW Contact Centre 1397

ข้อเสนอสุดพิเศษจากมินิ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40

แฟน ๆ มินิ ที่เลือกซื้อรถยนต์มินิภายในงาน หรือภายใน 1 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2566 และมีกำหนดส่งมอบรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และเลือกทำสัญญาทางการเงินกับบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย จะได้รับข้อเสนอพิเศษ ดังนี้* 

รุ่น ข้อเสนอ
MINI Cooper SE
  • ผ่อนเริ่มต้นเพียงวันละ 380 บาท
  • ดอกเบี้ย 0%
  • ฟรี ระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในบ้าน MINI Wall Charger
  • ฟรี ข้อเสนอ MINI Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 1 ปี*

หรือ

  • ไม่ต้องดาวน์
  • ดอกเบี้ย 0%
  • ฟรี ระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในบ้าน MINI Wall Charger
  • ฟรี ข้อเสนอ MINI Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) 1 ปี*
MINI Countryman
  • ดอกเบี้ย 0%
  • ผ่อนเริ่มต้น เดือนละ 12,500 บาท
  • รับข้อเสนอพิเศษค่าบำรุงรักษา MSI นานสูงสุด 10 ปี*
  • ฟรี ข้อเสนอ MINI Protect (ประกันภัยชั้นหนึ่ง) สูงสุด 3 ปี*
  • ฟรี Staycation Gift Voucher 1 คืน สำหรับโรงแรมในกรุงเทพ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mini.co.th/en_TH/home.html เฟซบุ๊กแฟนเพจ MINI Thailand หรือติดต่อ MINI Contact Centre 1397

ข้อเสนอสุดพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับแฟน ๆ มอเตอร์ไซค์ ดังนี้*

รุ่น ข้อเสนอ
BMW F 900 R
  • ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 5 ปี
BMW F 900 XR
  • ดอกเบี้ย 1% นานสูงสุด 5 ปี
  • ฟรี กระเป๋าติดข้างมอเตอร์ไซค์ 2 ใบ
BMW F 850 GS
  • ฟรี กล่องติดท้ายมอเตอร์ไซค์
BMW C 400 GT
BMW R nineT Pure
BMW S 1000 RR
  • ประกันภัยชั้นหนึ่ง สูงสุด 1 ปี
BMW R 18
BMW R 18 Classic
BMW R 18 B
BMW R 18 Transcontinental
  • ประกันภัยชั้นหนึ่ง สูงสุด 1 ปี
  • ส่วนลดสูงสุด 160,000 บาท
BMW R 1250 GS Adventure
  • ฟรี กล่องติดข้างมอเตอร์ไซค์ 2 ใบ
BMW R 1250 GS
  • ฟรี กล่องติดข้างมอเตอร์ไซค์ 2 ใบ และแครชบาร์
  • ประกันภัยชั้นหนึ่ง สูงสุด 1 ปี
  • แพ็คเกจบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive (BMSI) สูงสุด 3 ปี

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th เฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Motorrad Thailand หรือติดต่อ
ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ไฮไลท์ยนตรกรรมใหม่จาก บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40

  • BMW XM Label Red
    ราคาจำหน่าย: 17,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red รถยนต์เรือธงที่รวบรวมเอาที่สุดแห่งขุมพลัง ความพิเศษ และความหรูหรา เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและทรงพลังแบบไม่เหมือนใคร ที่ผลิตมาในจำนวนจำกัดทั่วโลกเพียง 500 คันเท่านั้น พร้อมก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างนิยามใหม่ให้กับการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าจากระบบปลั๊กอินไฮบริดสมรรถนะสูง สมกับที่เป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M รุ่นทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา บีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red ยังได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบสมรรถนะที่โดดเด่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เหนือขอบเขตเดิม ๆ พิเศษด้วยการระบุเลขรหัส ‘1 of 500’ บนป้ายบริเวณด้านล่างของจอ Control Display บ่งบอกถึงความเป็นรถ ‘ลิมิเต็ด เอดิชัน’ อย่างแท้จริง

ดีไซน์ภายนอก

  • มิติตัวรถ 5,110 x 2,005 x 1,755 มม.
  • ระยะฐานล้อ 3,105 มม.
  • น้ำหนักรถสุทธิ 2,795 กก.
  • ล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke ตกแต่งด้วยสีแดง
  • ล้อหน้าขนาด 10J x 22 นิ้ว
  • ยางหน้าขนาด 275/40 R22
  • ล้อหลังขนาด 11J x 22 นิ้ว
  • ยางหลังขนาด 315/35 R22
  • ปริมาตรในการบรรจุของ 527 – 1,820 ลิตร

สัดส่วนที่ดุดันของรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ Sports Activity Vehicle (SAV) แบบมีพลวัตร ผสมผสานกับการออกแบบภายนอกที่โดดเด่น ลายเส้นที่ชัดเจน รวมถึงรูปลักษณ์ส่วนหน้าที่มีมาเฉพาะในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูใน Luxury Class การผสมผสานที่ลงตัวยิ่งขึ้นไปอีกขั้น คือการออกแบบที่เน้นย้ำคุณลักษณะเฉพาะของบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red ในฐานะรถยนต์ที่มุ่งเน้นการตอบสนองที่สุดแห่งสมรรถนะ ไฮไลท์ที่โดดเด่นคือสีตัวถังภายนอกสีดำ BMW Individual Frozen Carbon Black Metallic กระจังหน้าทรงไตคู่ตามแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยู M พร้อมขอบสองชั้นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่ด้านหน้ามาในรูปทรงแนวนอนอันโดดเด่น ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงจากบีเอ็มดับเบิลยู M ขอบด้านนอกของกระจังหน้าทรงไตคู่แต่ละข้างยังตกแต่งด้วยสีแดง Toronto Red metallic ในขณะที่ขอบด้านในมากับไฟ Iconic Glow รูปทรงโค้งมนเป็นวงแหวนไฟที่ให้แสงอย่างคมชัดและต่อเนื่อง แถบเน้นสีมันวาวตัดกับพื้นผิวสีแบบด้านซึ่งส่องแสงระยิบระยับทำให้ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red มีลักษณะที่น่าดึงดูดใจเป็นพิเศษ 

ขุมพลัง

บีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo อันล้ำสมัย และระบบขับเคลื่อน M HYBRID ซึ่งให้กําลังรวมสูงสุด 550 กิโลวัตต์/748 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร เครื่องยนต์สันดาปยังให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 430 กิโลวัตต์/585 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 750 รอบต่อนาที ที่ 1,800 – 5,400 รอบต่อนาที ส่วนระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์สูงสุดที่ 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 280 นิวตันเมตร นอกเหนือจากการจ่ายกำลังไฟฟ้าในระหว่างการเร่งความเร็วแล้ว มอเตอร์ไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์สันดาป โดยบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีระยะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 96 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive ช่วยถ่ายทอดกำลังที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าไปที่ล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และตรงตามความต้องการใช้งานตลอดเวลา ระบบเฟืองท้าย M Sport ยังช่วยเสริมสมรรถนะของรถด้วยการกระจายกำลังขับเคลื่อนระหว่างล้อหลัง ช่วยให้ตัวรถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเสริมเสถียรภาพการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน ช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension Professional มอบการควบคุมแบบสปอร์ตโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional มอบความปลอดภัยและมั่นใจสูงสุดในทุกการเดินทาง ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go ที่ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเร็วของรถในระดับที่ต้องการและคงระยะห่างจากรถคันหน้าให้สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย ไม่เพียงเท่านี้ เพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังช่วยให้การจอดรถและการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ดีไซน์ภายใน

ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red ตกแต่งอย่างลงตัวด้วยเบาะหนังสีดำ Black ตัดกับสีแดง Fiona Red BMW Individual Merino โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยส่วนประกอบแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น ตราสัญลักษณ์ ‘XM’ สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ตรงใต้หน้าจอ Control Display และแถบตกแต่งภายในคาร์บอนไฟเบอร์แบบซาติน ประดับด้วยด้ายเน้นสีแดงและน้ำเงิน พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M มีส่วนประกอบตกแต่งในสีดำโครเมียม พร้อมด้วยปุ่ม M และแป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนซึ่งมีสัญลักษณ์บวกและลบเป็นสีแดง และอีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษเฉพาะของบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red ได้แก่ ตราสัญลักษณ์ที่ระบุโหมดการขับขี่แบบ Boost Mode บนแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้าย ส่วนห้องโดยสารด้านท้ายแบบ M Lounge สุดพิเศษ ยังมอบความรู้สึกที่กว้างขวางให้กับผู้โดยสาร พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงและการออกแบบที่หรูหรา

การรังสรรค์ภายในของบีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red ยังพิเศษเหนือใครด้วยผ้าบุหลังคาอันเปรียบเสมือนประติมากรรม 3 มิติ ลวดลายแบบปริซึมมีกรอบล้อม พร้อมด้วยหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงที่ให้แสงสว่างสร้างบรรยากาศที่งดงาม ลงตัวในทุกอารมณ์และเหมาะสมกับทุกเส้นทาง แผงหน้าปัดที่ตกแต่งด้วยเครื่องหนังสร้างความสะดุดตาและเพิ่มความหรูหราให้กับภายใน เพิ่มความสมบูรณ์ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond surround พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยอีกมากมายที่มอบทั้งความสะดวกสบายและความอุ่นใจในทุกการเดินทาง

ระบบความปลอดภัย

บีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red ยังยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยการติดตั้งระบบ Teleservices ตัวยึดคาร์ซีทสำหรับเด็ก ISOFIX ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) เซ็นเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบ Active Protection และระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง เพื่อมอบความอุ่นใจตลอดการเดินทางและทุกจุดหมายปลายทาง

  • BMW 740d M Sport
    ราคาจำหน่าย: 6,719,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู 740d M Sport สานต่อตำนานความเหนือชั้นของบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมเหนือระดับและความหรูหราล้ำสมัย พร้อมส่งต่อสุนทรียภาพในการขับขี่ และความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกลที่ไม่มีใครเทียบชั้น ความปราดเปรียวอย่างเหนือชั้นของรถยนต์ซีดานรุ่นนี้ สะท้อนผ่านเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงของเครื่องยนต์สันดาปแบบใหม่ ที่ผสานเทคโนโลยี 48V mild hybrid รุ่นล่าสุด พร้อมจะมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ในบรรยากาศที่สะดวกสบายควบคู่ไปกับการสัมผัสประสบการณ์ดิจิทัล ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษในห้องโดยสาร ถือเป็นอีกขั้นของการตีความการเดินทางอย่างมีระดับ

ดีไซน์ภายนอก

  • มิติตัวรถ 5,391 x 1,950 x 1,544 มม.
  • ระยะฐานล้อ 3,215 มม.
  • น้ำหนักรถสุทธิ 2,205 กก.
  • ล้ออัลลอย M aerodynanic ขนาด 20 นิ้ว แบบสลับสี
  • ล้อหน้าขนาด 9J x 20 นิ้ว
  • ยางหน้าขนาด 255/45 R20
  • ล้อหลังขนาด 10.5J x 20 นิ้ว
  • ยางหลังขนาด 285/40 R20
  • ปริมาตรในการบรรจุของ 540 ลิตร

กระจังหน้าไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมไฟ Iconic Glow เสริมรูปลักษณ์ด้านหน้าของรถยนต์น้องใหม่คันนี้ให้ดูทรงพลังและโดดเด่นเหนือชั้น ขณะที่แถบไฟรูปตัว ‘L’ ที่ยังคงมาในรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจก ส่งให้ไฟท้ายดูเตะตายิ่งขึ้น เพิ่มความเนี้ยบตลอดข้างลำตัวไปจนถึงสปอยเลอร์ด้านท้ายด้วยกรอบดำวาวสะดุดตาจากชุดแต่ง M high-gloss Shadow Line ที่เข้ากันอย่างลงตัวกับคาลิปเปอร์สีน้ำเงินเข้มเมทัลลิคของระบบเบรก M Sport

ขุมพลัง

บีเอ็มดับเบิลยู 740d M Sport โดดเด่นด้วยขุมพลังทรงสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบแถวเรียงความจุ 3.0 ลิตร บนเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานควบคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic โดยเครื่องยนต์ดีเซลประสานพลังเข้ากับเทคโนโลยี 48V mild hybrid ให้กำลังสูงสุด 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังรวมสูงสุดถึง 220 กิโลวัตต์/299 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 670 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 6 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้า ได้ยกระดับประสิทธิภาพและการทำงานของระบบขับเคลื่อนในบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ดีไซน์ภายใน

การตกแต่งภายในและอุปกรณ์ต่างๆ สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างการส่งต่อประสบการณ์ขับขี่อันปราดเปรียวให้แก่คนขับและความสะดวกสบายในการเดินทางสำหรับผู้โดยสารด้านหลังในบรรยากาศแห่งความสุข สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง หลังคากระจก Panorama ชุดตกแต่งภายใน BMW Individual การตกแต่งดีไซน์ M Sport และ Carbon Fibre ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M คอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black รวมทั้งระบบความบันเทิงภายในรถสุดล้ำสมัยเพื่อสุทรียภาพที่เหนือชั้น แถบ BMW Interaction Bar ที่พัฒนาให้ผู้ขับและรถยนต์ทำงานอย่างสอดประสานกันได้ดียิ่งขึ้น ผสานฟังก์ชันการควบคุม ชุดไฟส่องสว่างสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร และยังสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ บีเอ็มดับเบิลยู 740d M Sport ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งที่กว้างขวางยิ่งขึ้นเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด ครบครันด้วยฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับและผู้โดยสารตอนหลัง รวมไปถึงระบบระบายอากาศสำหรับเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าและตอนท้าย และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน เพื่อเพิ่มการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสาร

          

ระบบจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง BMW Theatre Screen มาพร้อม Amazon Fire TV มอบประสบการณ์ความบันเทิงสุดล้ำสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ประกอบด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 31.3 นิ้ว ความคมชัด 8K พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins รีโมทควบคุมแบบสัมผัสติดตั้งอยู่ที่แผงควบคุมบริเวณแผงประตู (BMW Touch Command) ม่านบังแสงด้านหลังแบบปิดโดยอัตโนมัติเมื่อระบบจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังทำงาน พร้อมเปลี่ยนห้องโดยสารด้านหลังของบีเอ็มดับเบิลยู 740d M Sport ให้เป็นเลานจ์โรงภาพยนตร์ส่วนตัวเคลื่อนที่

ระบบความปลอดภัย

บีเอ็มดับเบิลยู 740d M Sport ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) เซ็นเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน และตัวยึดคาร์ซีทสำหรับเด็ก ISOFIX นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus และระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Plus เพื่อมอบความอุ่นใจตลอดการเดินทางและทุกจุดหมายปลายทาง ขณะที่ระบบ Augmented View ที่ผสานการแสดงภาพจากกล้องหน้าเข้ากับระบบนำทาง เพื่อแสดงภาพบนจอหลังพวงมาลัย เสริมระบบนำทางให้มีความแม่นยำและล้ำสมัยยิ่งขึ้น

สีตัวถังภายนอกและภายใน

บีเอ็มดับเบิลยู 740d M Sport ใหม่ มาให้เลือกใน 4 สี 4 สไตล์ ได้แก่ สีขาว Mineral white Metallic, สีดำ Black Sapphire Metallic (ทั้งสองสีมาพร้อมกับเบาะหนัง BMW Individual Merino สี Mocha) สีเทา Dravit Grey Metallic และสีเทา Oxide Grey Metallic (ทั้งสองสีมาพร้อมเบาะหนัง BMW Individual Merino สีดำ)

  • BMW 420i Coupé M Sport
    ราคาจำหน่าย: 3,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม BSI Standard) 

บีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupé M Sport รุ่นใหม่ เสริมความเหนือชั้นยิ่งกว่าให้กับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 4 สไตล์คูเป้ ในประเทศไทย ผสานสุนทรียภาพแห่งการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับความสุดพิเศษกว่าใคร ด้วยตัวเลือกและแพ็คเกจที่แฟนบีเอ็มดับเบิลยูสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

ดีไซน์ภายนอก

  • มิติตัวรถ 4,768 x 1,852 x 1,383 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,851 มม.
  • น้ำหนักรถสุทธิ 1,600 กก.
  • ล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี
  • ล้อหน้าขนาด 7.5J x 18 นิ้ว
  • ยางหน้าขนาด 225/45 R18
  • ล้อหลังขนาด 8.5J x 18 นิ้ว
  • ยางหลังขนาด 255/40 R18
  • ปริมาตรในการบรรจุของ 440 ลิตร

สร้างสรรค์ขึ้นตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยูซีรีย์ 4 บีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupé M Sport ยังคงส่งมอบรูปลักษณ์ภายนอกดีไซน์ทรงสปอร์ต 2 ประตูในแบบที่คุ้นเคย และสไตล์การออกแบบที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู โดยด้านหน้าสะกดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ที่ยาวลงมาถึงขอบกันชนหน้า ช่องดักอากาศมาในสไตล์โครงตาข่ายและกระจังหน้าล้อมด้วยกรอบทรง 3 มิติ ฝากระโปรงรูปทรงลูกศรเสริมความโดดเด่นให้กับกระจังหน้าทรงไตคู่ ขณะที่ช่องดักอากาศทรงแนวตั้งสำหรับม่านอากาศตรงขอบนอกของกันชน ช่วยเน้นย้ำรูปทรงตัวรถให้ดูใหญ่ขึ้น 

   

บีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupé M Sport รุ่นใหม่ เพิ่มความเหนือชั้นด้วยการดีไซน์ด้านข้างที่เฉียบคมและปราดเปรียว ระยะระหว่างล้อหน้าและส่วนหน้าสุดของรถที่สั้น โครงสร้างเสาที่เพรียวบาง สอดรับกับความยาวของประตูพร้อมหน้าต่างไร้ขอบ และแนวหลังคาทรงคูเป้ยิ่งสะท้อนถึงความหรูหราสง่างาม มอบความรู้สึกโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics และภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา ขณะที่ไฟท้ายแบบ LED สุดล้ำ ในรูปทรงตัว L เสริมความทรงพลังให้กับรถได้อย่างลงตัว

     

ขุมพลัง

บีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupé M Sport รุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง บนเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo รุ่นใหม่ล่าสุด ทรงสมรรถนะด้วยพละกำลังสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 7.5 วินาที สมรรถนะความเร็วสูงจาก บีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupé M Sport รุ่นใหม่ ติดตั้งชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ให้การเปลี่ยนเกียร์ฉับไวยิ่งขึ้น ด้วยระบบแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ขณะที่ฟังก์ชั่น Sprint ช่วยปรับค่าเครื่องยนต์และอัตราการเปลี่ยนเกียร์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการควบคุมทั้งในระหว่างเร่งความเร็วระดับกลางไปจนถึงความเร็วสูง ทั้งยังมาพร้อมล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ขนาด 18 นิ้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี 

ดีไซน์ภายใน

การออกแบบภายในที่เรียบหรู ด้วยวัสดุคุณภาพสูง และคำนึงถึงผู้ขับขี่ สื่อถึงงานดีไซน์ที่โดดเด่นเพื่อสร้างบรรยากาศสุดพิเศษพร้อมไปกับการเน้นสมรรถนะการใช้งานของรถรุ่นใหม่นี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังมาพร้อมกับเบาะหนังดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ M และการตกแต่งภายในด้วยอลูมิเนียมลาย ‘Mesheffect’ ที่เพิ่มความโฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น ชุดแต่ง BMW Live Cockpit Plus พร้อมมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการควบคุมความบันเทิงระหว่างการเดินทางและตัวเลือกด้านการสื่อสาร ที่นั่งผู้โดยสารตอนหลังมาพร้อมหมอนรองศีรษะในตัวซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสารสองที่นั่ง 

ระบบความปลอดภัย

บีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupé M Sport รุ่นใหม่ มอบความปราดเปรียวในการขับขี่ ควบคุมรถได้อย่างเต็มที่ด้วยระบบช่วยการขับขี่ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go ยกระดับความปลอดภัยสูงสุดให้แก่คนขับและผู้โดยสารในทุกการเดินทาง 

  • MINI Cooper S Clubman Final Edition
    ราคาจำหน่าย: 3,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม MSI Standard) 

มินิ ฉลองการต้อนรับอย่างอบอุ่นของแฟน ๆ ชาวไทยที่มีต่อซีรีส์คลับแมน ด้วยการเปิดตัวมินิรุ่นล่าสุด มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Final Edition ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเต็ดรุ่นสุดท้ายของเอดิชันนี้ โดยผลิตออกมาเพียง 1,969 คันทั่วโลก ตามเลขปีที่ มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน รุ่นดั้งเดิมได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก สำหรับในประเทศไทย มินิได้ส่งมอบรุ่นพิเศษนี้ให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของในจำนวนจำกัดเพียง 50 คันเท่านั้น

มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Final Edition ยังคงสืบทอดคอนเซ็ปต์ shooting-brake แบบคลาสสิคตามสไตล์ของมินิ พร้อมฝากระโปรงท้ายแบบบานพับสองข้างอันเป็นเอกลักษณ์ ให้พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวางที่มีความจุสูงสุดถึง 1,250 ลิตร ภายนอกตกแต่งด้วยสีทองแดง Shimmer Copper บริเวณรอบกระจังหน้าที่สะท้อนให้เห็นถึงดีไซน์อันโดดเด่นเสมอมาของมินิ ตราสัญลักษณ์ Final Edition บนฝากระโปรงท้ายและปีก side scuttle ด้านข้าง เสริมด้วยลายกราฟฟิกบนล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว ตกแต่งลวดลายแบบสองสีด้วยสารเคลือบเงาแบบใสให้ดูคล้ายทองแดง 

ภายในตัวรถยังคงคุมโทนด้วยการใช้สีทองแดงตกแต่งลวดลายตัวอักษรเงางาม ‘Final Edition’ บริเวณขอบประตูและตรงตำแหน่งด้านล่างของพวงมาลัยหุ้มหนังแบบสปอร์ต และเลขรหัส ‘1 of 1969’ บนป้ายซึ่งอยู่ตรงขอบประตูฝั่งผู้โดยสารและแผ่นยางปูพื้น ขณะที่ส่วนอื่น ๆ ภายในห้องผู้โดยสารตกแต่งด้วยสไตล์ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับเบาะหนัง MINI Yours Leather Lounge in 60 Years สี Dark Maroon และหลังคากระจกแบบพาโนรามา ในส่วนของความบันเทิง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถสนุกสนานไปกับระบบเสียงสุดสมจริงของ Harman Kardon พร้อมแพ็คเกจระบบนำทาง Connected Navigation ที่รองรับ Apple CarPlay ส่งมอบการเชื่อมต่อและเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในระหว่างการเดินทาง 

 

มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Final Edition ให้พละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า พร้อมถ่ายทอดอารมณ์ของความสนุก ความปราดเปรียว ความมีสไตล์ และความสะดวกสบายตามแบบฉบับของ Clubman ที่แฟน ๆ ชื่นชอบ ทั้งยังมาพร้อมสีขาว Nanuq White สีดำ Enigmatic Black และสีเงิน Melting Silver ให้แฟนคลับมินิชาวไทยได้จับจองเป็นเจ้าของแล้ววันนี้

  • MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition
    ราคาจำหน่าย: 2,969,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม MSI Standard) 

มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ Mayfield Edition รุ่นพิเศษนี้ ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติสหราชอาณาจักรอันเป็นประเทศต้นกำเนิดของ MINI ไปพร้อมกับการตอบรับเทรนด์เรื่องการรักโลก ความสงบ และความสมดุล ด้วยแรงบัลดาลใจจากทุ่งดอกลาเวนเดอร์ MINI Mayfield ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน นำมาสู่ดีไซน์อันโดดเด่นด้วยโทนสี Digital Lavender สุดพิเศษ ตั้งแต่ลายเส้นตั้งตรงและทแยงในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิ คูเปอร์ ตัวอักษร Mayfield สีม่วงแวววาว ลวดลายภาพดอกลาเวนเดอร์บริเวณประตูท้าย ประกบด้วยไฟท้ายลายธง Union Jack อันเป็นเอกลักษณ์ของ MINI เป็นต้น 

  

มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ Mayfield Edition ยังสะกดทุกสายตาด้วยหลังคาสีฟ้ามัลติโทน สะท้อนถึงเฉดสีอันหรูหราที่ได้จากการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสี Soul Blue สี Pearly Aqua และสี Jet Black การพ่นสีแต่ละชั้นใช้เทคนิค wet-on-wet ทำให้รถแต่ละคันมีเฉดสีที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร สีหลังคาภายนอกตัดกับสี Piano Black ตรงขอบประตูด้านนอกและล้อรถลวดลาย Tentacle Spoke ขนาด 17 นิ้วอย่างลงตัว ขณะที่การออกแบบภายในยังคงความรู้สึกหรูหราด้วยเบาะหนังเทียม Carbon Black พร้อมตัวอักษร ‘Mayfield’ ที่โดดเด่นสะดุดตา ครบครันด้วยความบันเทิงและการเชื่อมต่อจากระบบเสียงของ Harman Kardon และแพ็คเกจระบบนำทาง Connected Navigation ที่รองรับ Apple CarPlay ภายในยังให้กลิ่นอายทุ่งลาเวนเดอร์ด้วยน้ำหอมกลิ่น Relaxing Twilight ที่มาพร้อมกับรุ่น Mayfield Edition

นอกจากนี้ มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ Mayfield Edition ยังสืบทอดเอกลักษณ์ของรถยนต์แฮทช์ 3 ประตูแบบดั้งเดิม พร้อมเติมเต็มความสนุกในการขับขี่และความแม่นยำในการควบคุมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ให้พละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,600 รอบต่อนาที ส่งตรงสู่ประเทศไทยในจำนวนจำกัดเพียง 12 คันเท่านั้น ได้แก่ สีดำ Midnight Black และสีขาว Nanuq White พร้อมให้แฟน ๆ มินิชาวไทยได้เฉลิมฉลองไปพร้อมกับความงามของธรรมชาติที่ตัดกันอย่างลงตัวกับพลังบวกของมนุษยชาติ ซึ่งหาได้ที่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ Mayfield และ MINI Cooper S Hatch Mayfield Edition รุ่นพิเศษนี้เท่านั้น

  • BMW R 1250 GS Adventure (Racing Blue Metallic)
    ราคาจำหน่าย: 1,215,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure มอเตอร์ไซค์ทรงพลังเพื่อการขับขี่ระยะไกล มาในรูปโฉมใหม่แบบสีดำตัดฟ้า Racing Blue Metallic สุดสะดุดตา ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์สองลูกสูบสี่จังหวะที่หล่อเย็นด้วยอากาศ/ของเหลว ขนาด 1,254 ซีซี เติมเต็มด้วยระบบควบคุมแกนลูกเบี้ยวแบบแปรผันด้วยเทคโนโลยี BMW ShiftCam ส่งกำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ / 136 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ปลดล็อคอีกขั้นของขุมพลังแห่งการเดินทาง ส่วนระบบหัวฉีดคู่และระบบไอเสียใหม่ผ่านการรับรองมารฐานยูโร 5 ที่เน้นการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure มาพร้อมกับโหมดการขับขี่มาตรฐาน 3 แบบ ได้แก่ ‘Eco’, ‘Rain’ และ ‘Road’ สามารถปรับได้ตามความรสนิยมของผู้ขับขี่ ขณะที่ ‘Riding Modes Pro’ นำเสนอโหมดการขับขี่เพิ่มเติม ได้แก่ ‘Dynamic’, ‘Dynamic Pro’, ’Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ รองรับสภาพการขับขี่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมยกสมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยสู่ขั้นสูงสุดด้วยระบบช่วงล่างที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า (Dynamic ESA) ระบบ Hill Start Control Pro ที่ทำให้ผู้ขับขี่ออกตัวในทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ ขณะที่ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) และ ABS Pro ให้การเข้าโค้งอย่างราบรื่น ส่วนระบบ Dynamic Brake Control (DBC) ใหม่ล่าสุดช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อต้องเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยการตัดกำลังของเครื่องยนต์ ทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ผ่อนคลาย และมั่นใจได้ในความปลอดภัยบนทุกเส้นทางผจญภัยที่รออยู่ข้างหน้า       

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ยังมาพร้อมกับระบบการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของรถผ่านจอแสดงผลสี TFT ขนาด 6.5 นิ้ว และระบบ BMW Motorrad Multi-Controller ให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงทุกฟังก์ชันของรถ ตลอดจนการเชื่อมต่อต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และยังมีช่องเสียบ USB 2 แบบสำหรับใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ยังคงสืบทอดเอกลักษณ์ความปราดเปรียวและทรงพลังของ GS ด้วยไฟหน้าแบบ LED ที่ส่องสว่างแม้ในช่วงกลางวัน สร้างความโดดเด่นสะดุดตา และยังปรับเปลี่ยนกลมกลืนไปกับทางโค้งตามตำแหน่งความลาดเอียงของตัวรถ

โปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ราคาใหม่ มีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์เงินเฟ้อโลกที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จึงได้ประกาศปรับราคาแพ็คเกจบำรุงรักษา BMW Service Inclusive (BSI) Standard โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป ซึ่งส่งผลต่อการปรับราคาของรถยนต์ในบางรุ่น ดังต่อไปนี้

รุ่นรถยนต์ ราคาใหม่พร้อมโปรแกรม BSI Standard (บาท) บริการภายใต้โปรแกรม
BSI Standard
BMW Series 2

  • BMW 220i Gran Coupé M Sport
  • BMW M240i xDrive
 

2,319,000
4,389,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW Series 3

  • BMW 320Li M Sport (MY 2023)
  • BMW 330Li M Sport (MY 2023)
  • BMW 320d M Sport (MY 2023)
  • BMW 330e M Sport (MY 2023)
  • BMW M340i xDrive (MY 2023)
 

2,799,000
3,119,000
2,779,000
3,019,000
4,219,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW Series 4

  • BMW 430i Coupé M Sport
  • BMW 430i Convertible M Sport
 

4,239,000
4,649,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW Series 7

  • BMW 750e xDrive M Sport
  • BMW M760e xDrive
 

7,039,000
7,399,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW X1

  • BMW X1 sDrive20i xLine
  • BMW X1 sDrive20i M Sport
 

2,519,000
2,619,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW X3

  • BMW X3 xDrive20d M Sport
  • BMW X3 xDrive30e M Sport
 

3,779,000
3,879,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW X4

  • BMW X4 xDrive20d M Sport
 

4,179,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW X5

  • BMW X5 xDrive30d M Sport ใหม่
  • BMW X5 xDrive50e M Sport ใหม่
 

5,139,000
5,439,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW X6

  • BMW X6 xDrive40i M Sport ใหม่
 

5,939,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW X7

  • BMW X7 xDrive40d M Sport
 

6,639,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW Z

  • BMW Z4 sDrive30i M Sport
  • BMW Z4 M40i
 

4,239,000
5,239,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW M

  • BMW M2
  • BMW M2 with M Race Track
  • BMW M3 Competition M xDrive Touring
  • BMW X4 M Competition
  • BMW XM
  • BMW XM 50e
  • BMW XM 50e (Shadow Line)
 

6,529,000
7,029,000
10,429,000

8,829,000
14,949,000
6,799,000
6,999,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม.
  • การรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี
BMW i

  • BMW i4 eDrive35 M Sport
  • BMW i4 M50
  • BMW iX xDrive40 Sport
  • BMW iX xDrive50 Sport
  • BMW i7 xDrive60 M Sport
 

3,929,000
5,289,000
5,349,000
6,349,000
8,149,000

  • บริการบำรุงดูแลรักษา 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • การรับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • การรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า 8 ปี หรือ 160,000 กม.
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 5 ปี

 

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S