BYD ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) รายใหญ่จากประเทศจีน ได้ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยการผลิตรถยนต์ออกจากสายพานการผลิตครบ 15 ล้านคันแล้ว โดยทางบริษัทได้ประกาศข่าวนี้ผ่านทาง Weibo ว่ารถคันที่ 15 ล้านคือรุ่น Denza N8L ซึ่งเป็นรถ SUV จากแบรนด์ระดับพรีเมียมในเครือ และยังถือเป็นรถรุ่นนี้คันที่ 15,000 อีกด้วย
BYD บรรลุหลักชัยครั้งสำคัญ ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ครบ 15 ล้านคันแล้ว ผลิตรถเพิ่ม 5 ล้านคันใน 13 เดือน
Denza N8L เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ขนาดใหญ่แบบ 6 ที่นั่ง ที่เน้นเจาะกลุ่มตลาดครอบครัว โดยชูจุดเด่นในเรื่องของความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการขับขี่ที่คล่องตัว รถรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 299,800 หยวน (หรือประมาณ 1,439,000 บาท) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรถรุ่นระดับบนของกลุ่ม BYD

ความสำเร็จในการผลิตรถครบ 15 ล้านคันนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ BYD เพิ่งฉลองยอดผลิตครบ 10 ล้านคันไปได้เพียง 13 เดือนเท่านั้น โดยข้อมูลจาก CnEVPost ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนของปีนี้ BYD มียอดขายรถยนต์รวมแล้วกว่า 4,182,038 คัน เติบโตขึ้น 11.30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
BYD ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 และเติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีน ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 900,000 คน โดยมีพนักงานเกือบ 110,000 คนที่ทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนา (R&D) บริษัทเริ่มต้นธุรกิจจากด้านแบตเตอรี่ ก่อนจะเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเป็นทางการในปี 2003 และผลิตรถยนต์พลังงานใหม่คันแรกในปี 2008 จนกระทั่งผลิตครบ 1 ล้านคันแรกในเดือนพฤษภาคม 2021

ด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดด BYD ได้ตัดสินใจหยุดผลิตและขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เพียงอย่างเดียวตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 เพื่อหันมาโฟกัสที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) และรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อย่างเต็มตัว นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายการผลิตไปยังต่างประเทศ โดยรถคันที่ 14 ล้านเพิ่งจะออกจากสายพานการผลิตที่โรงงานในประเทศบราซิลไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ที่มา cnevpost
