ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน CATL กำลังเจรจาเพื่อเข้าซื้อหุ้นใน NIO Power บริษัทย่อยของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง NIO ที่รับผิดชอบด้านเครือข่ายสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swap Station) ตามรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดที่อ้างโดย Reuters
CATL เตรียมเข้าซื้อสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ NIO ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำ
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ CATL ได้ประกาศในเดือนมีนาคมว่าอาจลงทุนสูงถึง 2.5 พันล้านหยวน (ประมาณ 12,455 ล้านบาท) ใน NIO Power
แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทั้ง CATL และ NIO เกี่ยวกับการเจรจาซื้อหุ้นควบคุม แต่ NIO ได้ออกแถลงการณ์ว่าแบรนด์กำลังทำงานร่วมกับนักลงทุนหลายราย รวมถึง CATL เพื่อสร้างสถานีเปลี่ยนแบตร่วมกัน ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ทั้งในด้านเงินทุนและธุรกิจ โดยมีเป้าหมายในการสร้าง “เครือข่ายเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
เหตุผลเชิงกลยุทธ์ของดีลนี้
แม้ไม่มีการยืนยันแน่ชัด แต่ความเป็นไปได้ของดีลนี้ถือว่ามีเหตุผลรองรับจากทั้งสองฝ่าย:
NIO เติบโตด้านรายได้อย่างมาก โดยในปี 2024 มีรายได้ถึง 65.73 พันล้านหยวน (ประมาณ 327.4 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 18.2% จากปีก่อนหน้า แต่ยังเผชิญกับแรงกดดันทางการเงินอย่างมาก โดยขาดทุนสุทธิ 22.66 พันล้านหยวน (ประมาณ 112.9 พันล้านบาท) ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 21.15 พันล้านหยวน (ประมาณ 105.4 พันล้านบาท) ในปี 2023 และมียอดขาดทุนสะสมในช่วงปี 2020-2024 สูงถึง 74.55 พันล้านหยวน (ประมาณ 371 พันล้านบาท)
เครือข่ายเปลี่ยนแบตของ Nio
ปัจจุบัน NIO มีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่กว่า 3,200 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน โดยแต่ละสถานีสามารถเปลี่ยนแบตให้รถได้อย่างรวดเร็ว สถานีมีต้นทุนการก่อสร้างอยู่ที่ 1.5-3 ล้านหยวน (ประมาณ 74.7-149.5 ล้านบาท) ต่อแห่ง ยังไม่รวมต้นทุนบำรุงรักษา ค่าเช่าสถานที่ และแบตเตอรี่
การขายหุ้นควบคุมใน NIO Power จะช่วยให้ NIO ได้รับเงินทุนจำนวนมาก ลดภาระด้านต้นทุนระยะยาว และอาจช่วยให้แบรนด์เริ่มได้กำไรภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 ตามแผนที่ตั้งไว้
เป้าหมายของ CATL และการขยาย EVOGO
CATL เองก็มีแผนขยายบริการเปลี่ยนแบตเช่นกัน โดยได้จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อว่า EVOGO ตั้งแต่ปี 2021 เพื่อสร้าง “Chocolate Battery Swap Ecosystem” ถือเป็นมาตรฐานสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ CATL เอง
Robin Zeng ประธานบริษัท CATL ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีสถานีเปลี่ยนแบตถึง 1,000 แห่งภายในสิ้นปี 2025, ขยายเป็น 10,000 แห่งในระยะกลาง, และ 30,000-40,000 แห่งภายในปี 2030 พร้อมคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแบตจะกลายเป็นหนึ่งในวิธีชาร์จหลัก ควบคู่กับการชาร์จบ้านและสถานีสาธารณะ
การเข้าควบคุมเครือข่ายสถานีของ NIO ที่มีอยู่แล้วกว่า 3,200 แห่ง จะช่วยให้ CATL กลายเป็นผู้นำในตลาดการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์นั่งได้ทันที โดยไม่ต้องรอสร้างเครือข่ายของตนเอง
ความร่วมมือเดิมระหว่าง CATL และ NIO
ทั้ง 2 แบรนด์ได้มีความร่วมมือกันอยู่แล้ว เช่น รถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์อย่าง Firefly ของ NIO จะใช้มาตรฐานแบตเตอรี่ “Chocolate” ของ CATL และใช้งานร่วมกับเครือข่ายของ NIO ที่มีอยู่
รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของ Firefly (แบรนด์ลูกของ NIO)
แม้ว่าการเจรจายังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่แรงกดดันทางการเงินของ NIO และแผนขยายตลาดของ CATL ทำให้รายงานนี้มีน้ำหนัก ความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของทั้ง 2 อาจเปลี่ยนโฉมหน้าโครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็เป็นได้ครับ
ที่มา : Carnewschiena