หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ Mercedes-Benz CLA ไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถึงเวลาของ CLA รุ่นไฮบริดแล้ว แม้ว่าปัจจุบันแนวทางของ Mercedes-EQ ที่ใช้ชื่อรุ่นแปลก ๆ และดีไซน์ทรงไข่ที่หลายคนอาจจะยังไม่ถูกใจ ตอนนี้ Mercedes-Benz ได้ยืนยันแล้วว่าทางแบรนด์กำลังปรับแนวทางกลับไปสู่รูปแบบดั้งเดิมมากขึ้น
Mercedes-Benz CLA Hybrid 2026 รถต้นแบบ เคลมเป็นระบบ 48V ที่ทรงพลังที่สุด
Mercedes-Benz ได้ประกาศเปิดตัวรถยนต์ใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางการออกแบบที่ผสมผสานทั้งเครื่องยนต์สันดาปและพลังงานไฟฟ้าในรถยนต์รุ่นเดียวกัน เช่นเดียวกับที่เห็นใน G-Class อย่าง G550 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขณะที่ G580 เป็นรุ่นไฟฟ้า 100% แนวทางนี้ได้ขยายมาสู่ CLA รุ่นใหม่ด้วย
ไฮบริดที่ไม่ธรรมดา
CLA ไฮบริดเป็นระบบไบริดแบบ 48 โวลต์ แตกต่างจากระบบไฮบริดทั่วไปที่มีหน้าที่เพียงแค่ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ (รหัส M252) ที่ทำงานด้วยรอบเครื่อง Miller cycle เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อเพลิง พร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.3 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 27 แรงม้า ที่ถูกติดตั้งไว้ในเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่แบบ 8 สปีด รวมแล้วให้กำลังสูงสุดประมาณ 188 แรงม้า
จุดที่ทำให้ CLA ไฮบริดแตกต่างจากไฮบริดทั่วไปคือ ระบบสามารถดึงพลังงานจากการเบรกกลับคืนสู่แบตเตอรี่ได้มากถึง 25 kW ถือว่ามากกว่าไฮบริดปกติ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแป้นเบรกอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ ช่วยให้การใช้พลังงานจากระบบเบรกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะใช้เบรกแบบปกติเพียงเมื่อต้องการกำลังเบรกสูง ๆ เท่านั้น
การขับขี่ CLA ไฮบริด
สำหรับการทดสอบ CLA ไฮบริดเวอร์ชันต้นแบบในสภาพอากาศหนาวจัดบนภูเขาในสวีเดน บนถนนที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง CLA ไฮบริดสามารถควบคุมตัวเองได้ดี แม้ใช้ยาง Winter แบบไม่มีหมุดยางกันหลื่น และหากเต็มพวงมาลัยแรง ๆ รถก็สามารถดริฟต์ได้อย่างสนุกสนาน
สิ่งที่โดดเด่นคือ ช่วงที่การขับลงเขา เครื่องยนต์เบนซินแทบไม่ได้ทำงานเลย รถสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และเมื่อต้องการเร่งความเร็ว มอเตอร์ไฟฟ้าก็สามารถให้กำลังได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องยนต์ แต่เมื่อกดคันเร่งแรงขึ้น เครื่องยนต์จะเริ่มทำงานโดยไม่เกิดแรงสั่นสะเทือนมากนัก เป็นผลจากการที่มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นตัวช่วยสตาร์ตเครื่องยนต์ไปด้วย
เสียงของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร นั้นถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือการเปลี่ยนผ่านระหว่างพลังงานไฟฟ้าและเครื่องยนต์ที่ทำได้อย่างราบรื่น เช่นเดียวกับระบบเบรกแบบใหม่ที่ให้ความรู้สึกมั่นคง หนักแน่นโดยไม่มีอาการแปลก ๆ ต้องถือว่าเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าระบบเบรกของรุ่น EQ
ในช่วงทดลองขับบนลานน้ำแข็ง CLA ไฮบริดสามารถทำดริฟต์บนหิมะได้ตลอดทั้งวัน ทำให้การขับขี่สนุกสนาน ตอบสนองได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่เท่ารุ่นไฟฟ้าล้วนที่ให้แรงบิดแบบทันที
Mercedes-Benz สามารถนำศักยภาพของระบบไฮบริด 48 โวลต์มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดใน CLA ไฮบริด ทำให้การขับขี่ที่ราบรื่นและทรงพลัง เห็นได้ชัดว่าทางเบนซ์ต้องการให้รถไฮบริดนี้เป็นมากกว่าระบบช่วยประหยัดเชื้อเพลิงแบบเดิม ๆ นั่นเองครับ
ที่มา : Car And Driver