รายงานจาก IEA คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะครองตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาจทะลุ 40% ของยอดขายทั่วโลกภายในปี 2030
รถ EV เตรียมครองตลาด 1 ใน 4 รถยนต์ที่ขายได้ในปี 2025 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
รายงาน Global EV Outlook 2025 ฉบับล่าสุดจาก International Energy Agency (IEA) เผยว่า ปี 2025 มีสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าขายทั่วโลกเกินกว่า 1 ใน 4 คัน หรือมากกว่า 25% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด และหากแนวโน้มยังคงเดินหน้าต่อ รถยนต์ไฟฟ้าอาจครองส่วนแบ่งตลาดเกิน 40% ภายในปี 2030
แม้จะเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจในภาคยานยนต์ แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 กลับสร้างสถิติใหม่ถึง 17 ล้านคัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 20% เป็นครั้งแรก และในไตรมาสแรกของปี 2025 ยอดขายได้พุ่งขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทุกตลาดใหญ่ทั่วโลกต่างทำสถิติสูงสุดในไตรมาสที่ 1
จีนยังคงเป็นผู้นำระดับโลก
จีนยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบทิ้งห่าง โดยในปี 2024 เกือบครึ่งหนึ่งของรถที่ขายในจีนเป็นรถไฟฟ้า หรือคิดเป็นยอดขายกว่า 11 ล้านคัน ซึ่งมากกว่ายอดขาย EV ทั่วโลกเมื่อ 2 ปีก่อนรวมกัน
นอกจากนี้ ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและละตินอเมริกาก็เริ่มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยสามารถทำยอดขาย EV เพิ่มขึ้นกว่า 60% ในปีที่ผ่านมา
สหรัฐฯ โตต่อเนื่อง แต่ยุโรปเริ่มชะลอตัว
ในตลาดสหรัฐอเมริกายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ปีต่อปี ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น มากกว่า 10% ของยอดขายรถใหม่ทั้งหมด
ขณะที่ฝั่งยุโรปกลับเริ่มชะลอตัวหลังจากที่รัฐบาลหลายประเทศลดการสนับสนุน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 20% เท่าเดิม
มุมมองจาก IEA
“จากข้อมูลของเราก็ชัดเจนแล้วว่าแม้จะมีความไม่แน่นอน แต่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั่วโลก”
— Fatih Birol, ผู้อำนวยการ IEA กล่าว
ราคาที่ลดลงคือปัจจัยหลัก
หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตคือราคาที่ถูกลง โดยในปี 2024 ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าถูกลงเพราะการแข่งขัน และต้นทุนแบตเตอรี่ที่ลดลง
- ในประเทศจีนรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 2 ใน 3 มีราคาถูกกว่ารถน้ำมันไปแล้ว แม้ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลก็ตาม
- แต่ในสหรัฐฯ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาสูงกว่ารถน้ำมันโดยเฉลี่ย ประมาณ 30% (คิดเป็นประมาณ 360,000 บาท)
- ขณะที่ในเยอรมนี รถยนต์ไฟฟ้าราคาสูงกว่าประมาณ 20% (ประมาณ 240,000 บาท)
รถ EV ได้เปรียบเรื่องค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้งาน
แม้ราคาน้ำมันจะลดลงถึง $40 ต่อบาร์เรล (ประมาณ 1,460 บาท) การชาร์จ และใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้ที่อยู่บ้านในยุโรปก็ยังมีต้นทุนต่ำกว่าการขับรถน้ำมันถึงครึ่งหนึ่ง
บทบาทของจีนในการส่งออกรถ EV
ประมาณ 20% ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมาเป็นรถนำเข้า โดยจีนที่ได้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 70% ของทั่วโลก และได้ส่งออกกว่า 1.25 ล้านคัน ในปี 2024 การส่งออกช่วยกดราคาลงสำหรับตลาดเกิดใหม่ได้มาก
รถบรรทุกไฟฟ้าก็กำลังมาแรง
นอกจากรถยนต์นั่งแล้ว รถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกก็เติบโตไม่น้อย โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 80% ในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันคิดเป็นเกือบ 2% ของตลาดรถบรรทุกทั้งหมด โดยส่วนใหญ่มาจาก จีน ซึ่งแม้ว่าราคาซื้อจะสูง แต่ต้นทุนการใช้งานของรถบรรทุกไฟฟ้าหนักบางรุ่นถูกกว่ารถดีเซลแล้วครับ
ที่มา : Electrek