Telsa เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อช่วยให้เจ้าของรถสามารถประหยัดแบตเตอรี่และลดการสูญเสียพลังงานขณะจอด หรือที่เรียกว่า Phantom Drain ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ใช้งานบางส่วนเคยพบมา
Tesla เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Low Power Mode ช่วยประหยัดแบตเตอรี่และลดการสูญเสียพลังงานขณะจอดรถ
แม้ว่ารถ Tesla จะเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในตลาด แต่ขณะจอดรถ รถก็ยังคงใช้พลังงานแบตเตอรี่เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Sentry Mode, Summon Standby , และฟีเจอร์อื่น ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
การเตรียมพร้อมใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้รถใช้พลังงานอยู่ตลอดเวลา และหากรถจอดอยู่ที่สนามบินหรือลานจอดรถเป็นเวลาหลายวัน เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่อาจลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยเหตุนี้ Tesla จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Low Power Mode หรือโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งจะปิดการใช้งานฟังก์ชันบางอย่างโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันแบตเตอรี่ลดลงและการสูญเสียพลังงานขณะจอด
ในบันทึกการเปิดตัวฟีเจอร์นี้ Tesla ระบุว่า
เมื่อเปิดใช้งาน Low Power Mode รถของคุณจะประหยัดพลังงานโดยปิดการใช้งานฟีเจอร์ต่อไปนี้โดยอัตโนมัติ:
- Sentry Mode (โหมดเฝ้าระวัง)
- Summon Standby (โหมดเตรียมพร้อมเรียกใช้งาน)
- Outlets (ปลั๊กไฟ)
- Keep Accessory Power On (เปิดไฟเลี้ยงอุปกรณ์เสริมค้างไว้)
- Keep Climate On and Camp Mode (คงสภาพอากาศในห้องโดยสารและโหมดแคมป์)
- Scheduled Preconditioning (ตั้งเวลาเตรียมความพร้อม)
- Cabin Overheat Protection (ระบบป้องกันความร้อนสูงในห้องโดยสาร)
ข้อควรทราบ
- ขณะชาร์จแบตเตอรี่เมื่อเปิด Low Power Mode ไว้ Sentry Mode และไฟเลี้ยงอุปกรณ์เสริมยังคงใช้งานได้
- Keep Climate On และ Camp Mode จะสามารถใช้ได้เฉพาะเมื่อชาร์จด้วย Supercharging เท่านั้น
ขณะอยู่ใน Low Power Mode รถยังคงใช้พลังงานสำหรับฟังก์ชันสแตนด์บาย, การทำงานของหน้าจอ และการใช้งานแอป Tesla นอกจากนี้ ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น พลังงานแบตเตอรี่อาจลดลงเร็วกว่าปกติ
ดูเหมือนว่าฟีเจอร์นี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหาที่เจ้าของรถ Cybertruck รายหนึ่งเคยเจอในอดีต รถของเขาใช้พลังงานอย่างต่อเนื่องแม้จะจอดอยู่ที่สนามบินในขณะที่เจ้าของไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น รถได้ใช้พลังงานค่อนข้างมาก เพื่อรักษาระบบสแตนด์บาย เมื่อเจ้าของรถกลับมาจึงเกิดความกังวลว่าแบตเตอรี่จะไม่พอใช้งาน
หลังจากเรื่องนี้ถึงหูของซีอีโอ Elon Musk ก็ดูเหมือนว่าฟีเจอร์นี้อาจเป็นผลลัพธ์จากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่ง หากต้องการรักษาพลังงานแบตเตอรี่รถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
คาดว่าฟีเจอร์ใหม่นี้จะมาพร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ V2025.32 ซึ่งตอนนี้พนักงานกำลังทดสอบอยู่