ทีมงาน iMoD ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ของแบรนด์ Chery ในงาน 2025 Chery Global Innovation Conference พร้อมสื่อทั่วโลกกว่า 10 ประเทศ ณ มณฑลอู๋หู ประเทศจีน บ้านเกิดของเครือ Chery มาชมกันครับว่าอนาคตของแบรนด์ในเครือ Chery จะมีเทคโนโลยีอะไรเด็ด ๆ และน่าสนใจบ้าง
สรุปงาน CHERY เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่: Solid-State วิ่งไกล 1,300 กม. | Robocar แท็กซี่ไร้คนขับ | มอเตอร์ Axial-Flux | ตู้ชาร์จ 1.2 MW และอีกมากมาย
Chery เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ในงาน 2025 Chery Global Innovation Conference แบ่งออกเป็น 5 หัวข้อ หลัก ๆ ดังนี้ :
- Mars Architecture: แพลตฟอร์ม และสถาปัตยกรรมใหม่!
- Kunpeng Power: เครื่องยนต์ไฮบริดใหม่!
- Lingxi Intelligent Cockpit: ระบบห้องโดยสารอัจฉริยะ
- Dazhuo Smart Driving: ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ
- Galaxy Ecosystem: ระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เชื่อมต่อทั้งหมด

1. Mars Architecture
แพลตฟอร์ม Mars ออกแบบให้รองรับรถยนต์ระบบไฮบริด (Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

-
- Mars T : สำหรับรถยนต์ไฮบริด (Hybrid) และ Range-Extender (EREV)
- Mars E : สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ระดับหรูหรา (Luxury)
- Mars D : สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สายลุยออฟโรด (Off-road)

ระบบขับเคลื่อน Powertrain
- ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า BEV มอเตอร์เดี่ยวสามารถให้พละกำลังสูงถึง 600 kW + แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร / แบบมอเตอร์คู่ไฮบริดกำลังสูง
ช่วงล่างและการขับขี่
- ระบบกันสะเทือนแบบไฮดรอลิกแบบแอคทีฟ (Active Hydraulic Suspension)
- ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า (Steer-by-Wire)
- ระบบเบรกไฟฟ้า (Electric Machine Braking)
- เทคโนโลยีการรวมโครงสร้างแชสซีเข้ากับระบบขับเคลื่อน (Chassis Integration Technology)
สถาปัตยกรรมแรงดันแบต
- สถาปัตยกรรมแรงดันสูง 1000V (BEV): ชาร์จจาก 10-80% ภายใน 8 นาที
- สถาปัตยกรรมแรงดันสูง 800V (REEV): ชาร์จจาก 20-80% ใน 12 นาที

สถาปัตยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (EE Architecture)
นี่คือระบบสมองกลและเครือข่ายภายในรถ:
- ประมวลผลสูง : พลังการประมวลผล AI สูงถึง 2200T
- แบนด์วิธสูง : รับส่งข้อมูลความเร็วสูง 2.5Gbps
- ปลอดภัยสูง : ได้มาตรฐานความปลอดภัยยานยนต์ระดับสูงสุด (ASIL D)
- อัปเดตต่อเนื่อง : รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่าน OTA (Over-the-Air)

แชสซี Flying-fish Super Chassis
เป็นเทคโนโลยีช่วงล่างและการควบคุมรถ:
- ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า (Steer-by-wire): ทำให้มีวงเลี้ยวแคบเพียง 9.98 เมตร
- ระบบช่วงล่างแบบแอคทีฟ (Active Suspension): ควบคุมการทรงตัวได้นิ่ง (สไลด์ใช้คำว่า “0” G)
- ระบบเบรกไฟฟ้า (Brake-by-wire): ระยะเบรกสั้นเพียง 32 เมตร
- ระบบควบคุมแชสซี (Chassis Domain Control): รองรับการหักหลบฉุกเฉินที่ความเร็ว 90 กม./ชม.
ระบบเบรกไฟฟ้า-กลไก (EMB Electro-Mechanical Braking)
นี่คือไฮไลท์สำคัญด้านความปลอดภัย:
- ไม่ต้องใช้น้ำมัน (No oil): ใช้ระบบเบรกแบบแห้ง ไม่ต้องบำรุงรักษา
- ตอบสนองเร็วกว่าเดิม 43%: ทำงานในระดับมิลลิวินาที (เสี้ยววินาที)
- เพิ่มประสิทธิภาพการหลบหลีกฉุกเฉิน:
- สามารหักหลบสิ่งกีดขวางที่ความเร็ว 120 กม./ชม.
- ระบบเดิม (EPS): ใช้เวลาตอบสนอง 800ms และใช้ระยะทาง 50 เมตร
- ระบบใหม่ (EMB): ลดเวลาตอบสนองลง 50% (เหลือ 400ms) และ ลดระยะทางที่ต้องใช้ลง 40% (เหลือ 30 เมตร)
- ระยะเบรกสั้นที่สุด: สไลด์อ้างว่าทำระยะเบรกได้ดีที่สุดในกลุ่มรถซีดาน (32.41 เมตร) และมีระบบเบรกสำรองที่ปลอดภัยกว่า (Redundant braking)

ประโยชน์ของ Flying-fish Chassis
Chery ได้ทำการรวมเทคโนโลยี “4-in-1” ประกอบไปด้วย:
- มอเตอร์ที่ดุมล้อ (Axial-Flux Motor)
- ระบบเบรกไฟฟ้า (EMB – Electro-Mechanical Braking)
- ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า (Steer-by-wire)
- ระบบช่วงล่างอัจฉริยะ (Intelligent Suspension)
แบรนด์ต้องการมอบประการณ์การขับขี่ที่หรูหราด้วย 4 คุณสมบัติหลักดังนี้:
- ฉลาดขึ้น (Smarter)
- ปลอดภัยขึ้น (Safer)
- ควบคุมดีขึ้น (Better Control)
- กว้างขวางขึ้น (More Space)
โดยมีตัวอย่างการใช้งานดังนี้:
- ระบบช่วยขับขี่ความเร็วสูง (High-speed Navigation): ทำงานร่วมกับระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
- การกลับรถที่คล่องตัว (Agile U-turn): สามารถกลับรถในที่แคบได้ดีขึ้น
- การจอดรถที่ยืดหยุ่น (Flexible Parking): สไลด์ระบุว่า “มีที่ว่างเผื่อ 1 เมตรก็จอดได้”
- พื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวาง (Super Large Space): ด้วยเทคโนโลยีอย่าง มอเตอร์ที่ล้อ ช่วยประหยัดพื้นที่ ทำให้รถมีพื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้นถึง 150 ลิตร

แพลตฟอร์มสำหรับสายลุย “Ark” (Chery’s Ark Cross-Domain Platform)
แพลตฟอร์มสำหรับรถออฟโรดที่สามารถในการ “ลุยน้ำ” ได้จริง
- ดีไซน์ซีลกันน้ำ (Watertight Seal): ตัวรถถูกซีลให้กันน้ำเข้า
- ทรงตัวใต้น้ำ (Underwater Stability):
- ลุยน้ำลึกได้ 800 – 1,400 มม. (0.8 – 1.4 เมตร)
- ขับเคลื่อนในน้ำได้ด้วยความเร็ว 7 กม./ชม.
แบรนด์ได้โชว์คลิปความสำเร็จอย่าง CHERY Jetour Zonghing G700 วิ่งข้ามแม่น้ำแยงซีเกียงได้สำเร็จอ่านต่อได้ ที่นี่


2. Kunpeng Power เครื่องยนต์ และระบบไฮบริด
กลยุทธ์เทคโนโลยีไฮบริด (Hybrid Technology)
ไฮไลท์สำคัญของชุดนี้ โดย Chery ประกาศว่าเทคโนโลยีไฮบริดของตนกำลังจะ “ก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งของโลก”
- เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 5:
- มี ประสิทธิภาพเชิงความร้อน (Thermal Efficiency) สูงถึง 46.5% ซึ่งถือว่าสูงมากในอุตสาหกรรม
- ประสิทธิภาพการส่งกำลัง (เกียร์) 93%
- ประสิทธิภาพมอเตอร์ไฟฟ้า >98%
- สโลแกนคือ “ทุ่มเท 100% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ 0.01%”
- การแบ่งประเภทเทคโนโลยีขับเคลื่อนใหม่: บริษัทได้แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบขับเคลื่อนออกเป็น 3 หมวดหมู่หลัก:
- ประหยัดพลังงาน: เน้นการใช้งานทั่วไปที่ประหยัดพลังงาน
- สมรรถนะสูง: เน้นความแรงและสปอร์ต
- สายลุยออฟโรด: สำหรับการขับขี่ในสภาพถนนที่สมบุกสมบัน
- และแบ่งตามประเภทพลังงาน:
- CDM: คือระบบไฮบริด (Hybrid)
- CEM: คือระบบไฟฟ้า (EV)
- ตามด้วย S หมายถึง Sport (สมรรถนะสูง)
- ตามด้วย O หมายถึง Off-road (สายลุย)
- ตัวอย่างเช่นในสไลด์:
- CDM-S (ไฮบริดสมรรถนะสูง): Arrizo T11, Exceed ET
- CDM-O (ไฮบริดสายลุย): JAECOO J7, JAECOO J8
- CEM-O (EV สายลุย): JAECOO G900

ขุมพลังสายสมรรถนะสูง (CDM/CEM-S)
สไลด์นี้เป็นการ “สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม” โดยเปิดตัวเทคโนโลยีสำหรับสายสปอร์ต (S-Series):
- เครื่องยนต์รุ่นที่ 7 (2.0TGDI):
- กำลังสูงสุด: 210 kW (อุตสาหกรรมทั่วไป 200-205 kW)
- แรงบิดสูงสุด: 430 N·m (อุตสาหกรรมทั่วไป 390-395 Nm)
- ประสิทธิภาพเชิงความร้อน: 45.95% (อุตสาหกรรมทั่วไป 42-44.5%)
- เกียร์ไฮบริดรุ่นที่ 7 (DHT280):
- กำลังมอเตอร์ (รวม): 260 kW (ที่ 400V) และ 300 kW (ที่ 800V)
- ความเร็วรอบสูงสุด: 24,000 rpm (สูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมที่ 21,000 rpm)
การเปรียบเทียบสมรรถนะกับ Supercar
ในระหว่างการนำเสนอมีการเปรียบเทียบสมรรถนะกับแบรนด์ Supercar อย่าง Lamborghini
- Lamborghini (รุ่นที่ใช้เครื่อง V10 5.2 ลิตร) มีกำลัง 470 kW และแรงบิด 560 Nm
- Chery CDM-S มีกำลังถึง 510 kW และแรงบิดมหาศาลถึง 750 Nm
(นี่เป็นการเปรียบเทียบกำลังและแรงบิดแบบรวมจากระบบไฮบริดทั้งหมด ไม่ใช่แค่จากเครื่องยนต์)

ขุมพลังสายลุยออฟโรด (CDM/CEM-O)
สำหรับสายออฟโรด (O-Series) จะใช้เครื่องยนต์ 2.0 TGDI ที่เน้นความทนทานและความสามารถในการลุย:
- การลุยน้ำ :
- มาตรฐานกันน้ำ IP68
- สามารถลุยน้ำลึกได้สูงสุด 900 มม.
- การไต่ทางชัน :
- รองรับการไต่ทางชันด้านหน้า (Front tilt) 100%
- รองรับการเอียงด้านข้าง (Side tilt) 70%
- การจัดการความร้อน :
- ทนทานต่อสภาพอากาศสุดขั้วตั้งแต่ -50°C ถึง 115°C
นวัตกรรมเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
- เครื่องยนต์ Kunpeng Tiandong :
- นี่คือเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่ถูกนำเสนอว่ามี ประสิทธิภาพเชิงความร้อน (Thermal Efficiency) สูงที่สุดในโลก ที่ 48.15% (มีใบรับรองยืนยัน)
- มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Axial Flux (มอเตอร์แพนเค้ก):
- มอเตอร์ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ที่ “เล็กกว่า เบากว่า ทรงพลังกว่า”
- มีความหนาเพียง 90 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 10.5 กก.
- มีประสิทธิภาพการส่งกำลังสูงถึง 99%
- มีความหนาแน่นของกำลัง (Power Density) สูงมากที่ 18.4 kW/kg

เปิดตัวแบตเตอรี่ “Rhino Battery”
นี่คือแบรนด์แบตเตอรี่ใหม่ที่พัฒนาขึ้นเอง ใช้สโลแกนว่า “พลังแข็งแกร่ง, ปลอดภัย, ใช้งานทนทาน”
- แนวคิดหลัก: ได้แรงบันดาลใจจาก “แรด” (Rhino) ที่สื่อถึงความทนทานและปลอดภัย
- สโลแกน: เสริมด้วยเกราะที่แข็งแกร่งให้กับทุกเซลล์แบตเตอรี่

แบตเตอรี่นี้ถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยเป็นพิเศษด้วย:
- วัสดุเคลือบ : ใช้สารเคลือบที่ทนความร้อนได้สูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม
- โครงสร้างป้องกัน : มีโครงสร้างป้องกัน 3 ชั้น ที่ทนทานต่อการเจาะทะลุได้ดีกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมหลายเท่า
- การออกแบบเซลล์ : มีค่าเผื่อด้านความปลอดภัย (Safety Margin) สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป
- การทดสอบสุดขั้ว (Extreme Scenario Testing):
- ผ่านการทดสอบการบีบอัดที่รุนแรง (ลดการเสียรูปจากการถูกบีบอัด 50%)
- ผ่านการทดสอบการกันน้ำ 100% และยังสามารถคายประจุไฟได้อย่างปลอดภัย

แบตเตอรี่ Rhino Battery แข็งแกร่ง ปลอดภัย ทนทาน
นี่คือแบรนด์แบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นเอง โดยเน้นความปลอดภัยเป็นพิเศษ:
- Rhino Armor แข็งแกร่ง
- ใช้วัสดุเคลือบกั้น (Separator) และโครงสร้างป้องกัน ที่ทนความร้อนและทนต่อการเจาะทะลุได้สูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมหลายเท่า
- การทดสอบสุดขั้ว (Extreme Scenario Testing):
- ผ่านการทดสอบการบีบอัดที่รุนแรง (เสียรูปน้อยลง 50%)
- ผ่านการทดสอบ กันน้ำ 100% (แช่น้ำ) และยังสามารถคายประจุไฟได้อย่างปลอดภัย

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Rhino Battery (สำหรับรถทุกประเภท)
Chery ได้เปิดตัวแบตเตอรี่หลายซีรีส์ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน โดยทุกซีรีส์มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม:
- ซีรีส์กำลังสูง (High Power Series):
- ชาร์จเร็ว: 20C (มาตรฐานอุตฯ: 10C)
- อายุการใช้งาน: 15,000 รอบ (มาตรฐานอุตฯ: 12,000 รอบ)
- ซีรีส์ยืดอายุ (Long Life Series – สำหรับ Range Extender):
- ชาร์จเร็ว: 20C (มาตรฐานอุตฯ: 15C)
- อายุการใช้งาน: 5,000+ รอบ (มาตรฐานอุตฯ: 4,000 รอบ)
- ซีรีส์ประสิทธิภาพสูง (High Performance – ซิลิคอน):
- ความหนาแน่นพลังงาน: 200 Wh/kg (มาตรฐานอุตฯ: 195 Wh/kg)
- ชาร์จเร็วสูงสุด: 6C (มาตรฐานอุตฯ: 1.8C)
- ซีรีส์ประสิทธิภาพสูง (High Performance – Ternary):
- ความหนาแน่นพลังงาน: 310 Wh/kg (มาตรฐานอุตฯ: 285 Wh/kg)
- ชาร์จเร็วสูงสุด: 4C (มาตรฐานอุตฯ: 3C)

แบตเตอรี่โซลิดสเตต (Solid-State Battery)
ประกาศความสำเร็จในการพัฒนา “ตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรมแบตเตอรี่โซลิดสเตต” ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาวัสดุ (อิเล็กโทรไลต์ของแข็ง), การออกแบบเซลล์ (ตั้งเป้าความจุ 400+ Wh/kg), การรวมเป็นระบบในรถยนต์ จนถึงการทดสอบในรถจริง ทาง Chery พัฒนาเองทั้งหมด

3. ระบบห้องโดยสารอัจฉริยะ “Lingxi Intelligent Cockpit”
เปิดตัวระบบห้องโดยสารอัจฉริยะ “Lingxi Intelligent Cockpit” หลากหลายความอัจริยะและความสะดวกสบายในการใช้ยานยนต์ยุคใหม่
ระบบ AI อัจฉริยะ “Carmind-Agent”
ระบบผู้ช่วย AI อัจฉริยะรุ่นใหม่ ที่มีชื่อว่า (เสี่ยวฉี หรือ “Little Qi”)
- แนวคิด: พัฒนาจาก AI เข้าใจทั้งคำพูด และอารมณ์ของผู้โดยสารได้
- ระบบเน้นการทำงานดังนี้:
- Trustworthy: น่าเชื่อถือและไว้ใจได้
- Growing Together: เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้
- Heart-to-Heart: สื่อสารรู้ใจ สามารถคาดเดาอารมณ์และสถานการณ์ได้


ฮาร์ดแวร์และหน้าจอ
ชิปประมวลผล: ใช้ชิปอัจฉริยะสำหรับห้องโดยสารรุ่นใหม่ล่าสุด (Next-gen Cockpit Chip) “หน้าจอ Horizon Screen (天际屏) ขนาด 46.3 นิ้ว”
- ความละเอียดสูงสุด 8K
- เทคโนโลยี miniLED
- รองรับ 3D HMI (Human-Machine Interface)
ระบบเสียง “Boya Melody” (柏牙之音)
นี่คือการเปิดตัวแบรนด์เครื่องเสียงระดับพรีเมียมของตัวเอง:
ถ้าตะวันตกมี Burmester ตะวันออกมี Boya Melody (เทียบชั้นกับแบรนด์เครื่องเสียงไฮเอนด์อย่าง Burmester)

เทคโนโลยีเด่น ๆ :
- ระบบเสียง “Audio Vivid AI Panoramic Sound” (เสียงรอบทิศทางด้วย AI)
- ลำโพงเบสที่ประตูแบบลดแรงสั่นสะเทือน
- ใช้ฮาร์ดแวร์พรีเมียมระดับ “ทองจริงเงินจริง”

ฟีเจอร์พิเศษ “Private Call”
การโทรแบบส่วนตัว: นำเสนอเทคโนโลยี “หนึ่งเดียวในอุตสาหกรรม” ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถคุยโทรศัพท์แบบส่วนตัวได้
- วิธีการ: ใช้ระบบ “AI ปรับแต่งเสียงอัจฉริยะ” ร่วมกับการ “ตัดเสียงไมโครโฟน” เพื่อสร้างโซนเสียงส่วนตัว (คาดว่าทำให้ผู้โดยสารคนอื่นในรถไม่ได้ยินเสียงสนทนา)

4. ระบบการขับขี่อัจฉริยะ” (Smart Driving)
ข้อมูลชุดนี้ได้นำเสนอวิสัยทัศน์และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน AI ไปจนถึงการใช้งานจริง ดังนี้ครับ:
ระบบช่วยขับขี่ “Falcon 700”
นี่คือระบบช่วยเหลือการขับขี่รุ่นใหม่ “มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยกว่ามนุษย์ขับ”
- ปลอดภัยกว่า: ลดการเบรกผิดพลาด (Phantom Braking) ได้ดีกว่ามนุษย์ 42%
- มีประสิทธิภาพกว่า: เพิ่มอัตราการเปลี่ยนเลนได้สำเร็จเพิ่มถึง 50% และประสิทธิภาพการขับผ่านสี่แยก ดีขึ้น 67%
- นุ่มนวลกว่า: ลดการเบรกกะทันหัน 90%
- อิสระกว่า: สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแผนที่นำทางความละเอียดสูง

ระบบจอดรถอัจฉริยะ และ Valet Parking
- ประสบการณ์การจอดรถชั้นนำระดับโลก (World-Leading Parking Experience):
- เร็วขึ้น 20%: ใช้เวลาจอดรถน้อยลง
- สำเร็จ 99%: มีอัตราความสำเร็จในการจอดสูง
- ไม่ต้องพึ่งเส้นจอด: สามารถจอดรถได้แม้ในที่ไม่มีเส้นแบ่งช่องจอด

Valet Parking – ระบบจอดรถอัตโนมัติ
นี่คือฟีเจอร์ที่รถสามารถขับไปจอดเอง และขับกลับมารับเจ้าของได้ ชมคลิปสั้นจากเราได้ ที่นี่
*ฟีเจอร์นี้เตรียมเปิดตัวใน “ซาอุดีอาระเบีย และ ประเทศไทย” เป็น 2 ประเทศแรกของโลก คาดว่าจะนำมาใช้สำหรับ Tiggo 8 CSH เตรียมเปิดราคาไทยเร็ว ๆ นี้

เป้าหมายสูงสุด: Robocar และการเดินรถ L4
เปิดตัวแนวคิดรถยนต์ไร้คนขับ Chery Robocar สำหรับ “การใช้งานสองรูปแบบ” (Dual-Use) คือทั้งแบบส่วนตัว (Passenger) และเชิงพาณิชย์ (Commercial)
นำเสนอว่าระบบ L2 ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (E2E data-driven) สามารถทำงานได้ 100,000+ ชั่วโมง โดยไม่มีการแทรกแซงจากมนุษย์ (0 Disengagements) ทาง Chery ตั้งเป้า “เปิดตัวการให้บริการเดินรถอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (L4) ทั่วโลก พร้อมกันในปี 2026” (Global debut of L4 synchronous operations in 2026)

เทคโนโลยีการชาร์จ “Xunlong” และระบบนิเวศ V2G
เปิดตัวเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงและระบบนิเวศพลังงาน:
- Xunlong Charging (ชาร์จเร็วระดับวินาที):
- กำลังไฟ 1.2MW ที่ทำให้ ชาร์จเพียง 5 นาที วิ่งได้ไกล 500 กิโลเมตร

- ระบบนิเวศพลังงานอัจฉริยะ V2G (V2G Intelligent Energy Ecosystem):
- ไม่ใช่แค่การ “รับ” ไฟ แต่รวมถึงการ “จ่าย” ไฟคืนระบบด้วย
- นำเสนอเทคโนโลยี Vehicle-to-Grid (V2G) ที่ตัวรถสามารถ “ขายไฟคืน” เข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้าได้
- รวมถึงระบบ AI ช่วยจัดสรรพลังงาน และสถานีสลับแบตเตอรี่ (Swapping Station)

5. Galaxy Ecosystem: ระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เชื่อมต่อทั้งหมด
คอนเซ็ปต์พื้นที่ใช้สอย “Chery Bar”
นำเสนอแนวคิดของพื้นที่ภายในรถยนต์แห่งอนาคต พื้นที่อเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามใจ”
- พื้นที่ปฏิสัมพันธ์ (Spatial Interaction): เบาะนั่งที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย
- ห้องโดยสารอัจฉริยะ (Intelligent Cockpit): หน้าจอยักษ์ขนาด 877.5 นิ้ว
- พลังงานสีเขียว (Green Energy): หลังคาโซลาร์เซลล์ขนาด 5.5 ตารางเมตร
หุ่นยนต์ (Robotics)
- หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (APOEA Robot):
- ประกาศว่าเป็น “หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่กำหนดนิยามด้วยซอฟต์แวร์ตัวแรกของโลก”
- เป็นผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้, สื่อสาร และทำงานร่วมกับมนุษย์ได้
- หุ่นยนต์อุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Embodied Intelligent Industrial Robots):
- แสดงภาพโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่ใช้หุ่นยนต์ในการผลิต เช่น ระบบปั๊มขึ้นรูปความเร็วสูง 6600T อัตโนมัติ, ระบบติดกาวอัตโนมัติ 100%, และระบบตรวจสอบคุณภาพด้วย AI (AI Visual Inspection) 100%

รถบินได้ (eVTOL)
ปิดท้ายด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไปสู่ท้องฟ้า:
- แพลตฟอร์มหลิงอวิ๋น (Lingyun Platform):
- เป็นการ “สร้างระบบนิเวศใหม่สำหรับการสัญจรแห่งอนาคต”
- เปิดตัวเทคโนโลยี “รถยนต์บินได้” หรือ eVTOL (Electric Vertical Take-off and Landing)
- นำเสนอเครื่องบินหลายรุ่น เช่น VTOL 608 ที่มีความเร็ว 200 กม./ชม., พิสัยการบิน 600+ กม. และรับน้ำหนักสูงสุดได้ 2400 กก.

ความคืบหน้าของเทคโนโลยีแห่งอนาคต
- รถบินได้ (eVTOL): ประกาศความสำเร็จในการ “ทดสอบการบินครั้งแรกของเครื่องต้นแบบ Lingyun 312 (凌霄312)”
- หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์: แสดงให้เห็นภาพการนำหุ่นยนต์ไปใช้งานจริงในหลากหลายอาชีพ เช่น ผู้ช่วยฝ่ายขาย, พนักงานบริการในศูนย์ 4S, พนักงานต้อนรับในพิพิธภัณฑ์, หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่สรรพากร (Tax Officer)