ใน

อุตสาหกรรมยานยนต์จีนเปิด Roadmap 3.0 ปี 2040 ตั้งเป้ารถยนต์ EV ครองตลาด 80% และระบบขับขี่อัตโนมัติ L4

อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนกำลังวางแผนอนาคตที่ท้าทาย ด้วยการเปิดตัว Roadmap เทคโนโลยียานยนต์ประหยัดพลังงานและพลังงานใหม่ 3.0 หรือ Energy-Saving and New Energy Vehicle Technology Roadmap 3.0 โดยสมาคมวิศวกรยานยนต์แห่งประเทศจีน (CSAE) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา

อุตสาหกรรมยานยนต์จีนเปิด Roadmap 3.0 ปี 2040 ตั้งเป้ารถยนต์ EV ครองตลาด 80% และระบบขับขี่อัตโนมัติ L4

แผนงานเวอร์ชันล่าสุด 3.0 นี้ต่อยอดมาจากเวอร์ชัน 1.0 (ปี 2016) และ 2.0 (ปี 2020) โดยครั้งนี้จะเน้นย้ำมุมมองในระดับโลก โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของยานยนต์ประหยัดพลังงาน, การอัปเกรดของยานยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicles) และวิวัฒนาการของยานยนต์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อกัน (Intelligent Connected Vehicles)

Roamap นี้ได้สรุปวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนไปจนถึงปี 2040 โดยมีการตั้งเป้าหมายสำคัญหลายประการ ได้แก่

  • การปล่อยคาร์บอน: การปล่อยคาร์บอนทั้งหมดของอุตสาหกรรมยานยนต์คาดว่าจะถึงจุดสูงสุดภายในปี 2028 ซึ่งเร็วกว่าที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าไว้ และจะลดลงกว่า 60% จากจุดสูงสุดนั้นภายในปี 2040
  • ระบบจราจร: ระบบขนส่งที่ขับเคลื่อนโดยยานยนต์พลังงานใหม่อัจฉริยะที่เชื่อมต่อกัน จะมุ่งมั่นเพื่อ อุบัติเหตุเป็นศูนย์, ผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์ และมีประสิทธิภาพสูง
  • ส่วนแบ่งยานยนต์พลังงานใหม่: คาดว่าส่วนแบ่งการตลาดของยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จะทะลุ 80% ซึ่งจะช่วยเร่งให้อุตสาหกรรมเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ
  • โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ: จะมีการสร้างระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์อัจฉริยะแบบผสมผสาน “ยานพาหนะ-ถนน-คลาวด์” (vehicle-road-cloud integrated) ที่สมบูรณ์และแข็งแกร่ง เพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติระดับสูงในวงกว้าง
  • ศูนย์กลางนวัตกรรม: จีนตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับนวัตกรรมดั้งเดิมด้านเทคโนโลยียานยนต์ โดยมีความสามารถด้านนวัตกรรมเป็นผู้นำโลก
  • กลุ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่: เป้าหมายคือการสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและข้อมูล ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น ปลอดภัย คาร์บอนต่ำ และยั่งยืน
  • ความสามารถในการแข่งขันระดับโลก: แบรนด์จีนจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกอย่างมีนัยสำคัญ และผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญจะเข้าไปอยู่ในระบบอุตสาหกรรมโลก ทำให้จีนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์ของโลก

Zhang Jinhua ประธานของ CSAE เน้นย้ำว่า แม้ Roadmap 3.0 จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า, ความอัจฉริยะ และคาร์บอนต่ำ แต่ก็ให้ความสำคัญอย่างมากกับการผลิตอัจฉริยะ (intelligent manufacturing) ด้วย

“เวอร์ชันก่อนหน้านี้มุ่งเน้นที่เทคโนโลยีผลิตภัณฑ์มากกว่า แต่ในปีนี้ ทั้งเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีการผลิตถือเป็นพลังขับเคลื่อน” เขากล่าว

China NEV retail at 490,000 in Aug 1-18, up 27% from same period last month - CnEVPost

เป้าหมายสำคัญทางเทคโนโลยี

Roadmap 3.0 ได้ชี้แจงเป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยืนยันว่า เครื่องยนต์สันดาปจะยังคงเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับยานพาหนะต่อไป

  • การเปลี่ยนเป็นไฮบริด: ภายในปี 2035 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้น้ำมันทั้งหมด จะถูกเปลี่ยนเป็นระบบไฮบริด (Hybrid)
  • ส่วนแบ่งเครื่องยนต์สันดาป: ภายในปี 2040 คาดว่ายานยนต์ที่ยังมีเครื่องยนต์สันดาป (เช่น HEV, PHEV, EREV) จะยังคงมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลใหม่
  • ยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ครองตลาด: NEV ถูกกำหนดให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์กระแสหลักในตลาดยานยนต์ภายใน 5-15 ปีข้างหน้า
  • ส่วนแบ่งรถยนต์ไฟฟ้า (BEV): ภายในปี 2040 ส่วนแบ่งของยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจะสูงถึง 85% โดยในจำนวนนี้จะเป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs) ถึง 80%
  • การขยายตัวของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์: การใช้งานยานยนต์พลังงานใหม่เพื่อการพาณิชย์ จะขยายตัวจากการใช้งานในเมืองและระยะทางสั้น ๆ ในปัจจุบัน ไปสู่เส้นทางระยะกลางและระยะไกล
  • ยานยนต์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อกัน: จะเข้าสู่ช่องทางด่วนของการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ภายในปี 2040 ยานยนต์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อกันระดับ 4 (L4) จะถูกใช้งานอย่างแพร่หลายเต็มรูปแบบ และยานยนต์ระดับ 5 (L5) จะเริ่มเข้าสู่ตลาด
  • การผลิตอัจฉริยะ: Roadmap นี้ได้นำเสนอระบบการให้เกรดและวิธีการสำหรับการพัฒนาการผลิตยานยนต์อัจฉริยะ ภายในปี 2040 จะมีการผสานรวมการวิจัยและพัฒนา (R&D), การผลิต, การจัดหา, การขาย และการบริการ เข้าด้วยกันตลอดทุกขั้นตอน
  • แบตเตอรี่โซลิดสเตต (Solid-state): คาดว่าจะมีการเริ่มใช้งานแบตเตอรี่โซลิดสเตตในวงจำกัดภายในปี 2030 และคาดว่าจะมีการส่งเสริมการใช้งานทั่วโลกในวงกว้างภายในปี 2035 ซึ่ง ณ เวลานั้น ประสิทธิภาพโดยรวม, ต้นทุน และการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อม จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

เห็นได้ว่า Road 3.0 นี้คือแผนงานที่ชัดเจนของจีนในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำยานยนต์โลกอย่างเต็มตัว โดยตั้งเป้าหมายหลักไว้ที่การผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ครองตลาด 80% ภายในปี 2040 พร้อมกับการทำให้เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติระดับ L4 ใช้งานได้จริงอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ

ที่มา carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.