ใน ,

Faraday Future เริ่มเปิดพรีออเดอร์รุ่น FF 91 2.0 Futurist Alliance ด้วยราคา 10.6 ล้านบาท (ราคาเปิดตัวในต่างประเทศ)

จากความฝันสู่ความเป็นจริงกับแบรนด์ Faraday Future กับการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่รวมความเป็นที่สุด ทั้งประสิทธิภาพและความสะดวกสบายแบบเหนือระดับเข้าไว้ด้วยกันกับ FF 91 2.0 Futurist Alliance ด้วยราคา 10.6 ล้านบาท

Faraday Future เริ่มเปิดพรีออเดอร์รุ่น FF 91 2.0 Futurist Alliance ด้วยราคา 10.6 ล้านบาท (ราคาเปิดตัวในต่างประเทศ)

Faraday Future เป็นบริษัทสตาร์ทอัปผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าลูกครึ่งจีน-สหรัฐฯ จากแคลิฟอร์เนีย เปิดตัวซีดานหรูรุ่นแรก Faraday Future FF 91 (ออกเสียงว่า เอฟ-เอฟ-ไนน์-วัน) ในงาน Consumer Electronics Show 2017 (CES 2017)

Faraday Future FF 91 จะนับเป็นรถต้นแบบรุ่นแรกของบริษัทฟาราเดย์ ฟิวเจอร์ โดยการที่ตัวเลขรหัสรถแยกออกเสียงเป็น “ ไนน์-วัน ” ไม่ใช่ “ ไนน์ตี้วัน ” เนื่องจากพวกเขาต้องการใช้ตัวเลข “ 9 ” เพื่อสื่อถึงสถานะของรถที่เป็นรุ่นท็อปสุดของบริษัท (ยกตัวอย่างเช่นเลข 9 ใน Genesis G90 ของแบรนด์ Genesis/Hyundai หรือ Volvo S90 ของ Volvo) ดังนั้นหมายเลข “ 1 ” หมายถึงรถรุ่นแรกของพวกเขาในตลาด Segment นี้นั่นเอง

เราให้คำนิยามกับ Faraday Future FF 91 ว่า “ พละกำลังระดับ Hypercar ความสะดวกสบายแบบ Luxury Sedan แต่การใช้งานแบบ SUV ”

ดีไซน์ภายนอก

  • มิติตัวรถ 5,250 x 2,283 x 1,611 มม.
  • ระยะฐานล้อ 3,200 มม.
  • ขนาดล้อ 22 นิ้วแบบ Aero Wheels
  • ไฟหน้า ไฟท้าย แบบ LED เมทริกซ์
  • ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำ cd 0.25

ขุมพลัง

  • มอเตอร์ 3 ตัว
  • มีพละกำลัง 1,050 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 1,977 นิวตันเมตร
  • แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 142 kWh
  • สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 613 กม. ตามมาตรฐาน EPA
  • รองรับการชาร์จ AC 15.3 kW
  • รองรับการชาร์จ DC 500 A
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 2.27 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

ดีไซน์ภายใน

  • แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ ADAS/AD – Nvidia Orin X
  • แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ IoV – Qualcomm 8155p x 2
  • การสื่อสาร Super AP 5G x 3 (รองรับสูงสุด 3 เครือข่าย)
  • หน้าจอด้านหลังขนาด 27 นิ้ว
  • หน้าจอผู้โดยสารด้านหน้า 17 นิ้ว
  • พื้นที่วางขา (Legroom) ของผู้โดยสารแถวหลังกว้าง 48.9 นิ้ว
  • พื้นที่เก็บสัมภาระ 376 ลิตร
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลัง Zero Gravity Seat ปรับเอียงแบบนอนได้สูงสุด 60 องศา

Faraday Future ประกาศเปิดตัวสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีรุ่นต่อไปที่ได้รับการอัปเกรดอย่างสมบูรณ์ “ 6×4 aiHyper Technology 2.0 ” ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ซึ่ง 6×4 หมายถึงการผสานรวมกันทั้งในแนวตั้งและแนวนอนของแพลตฟอร์มเทคโนโลยี โดยแบ่งเป็น 6 แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ FF ได้แก่

  • FF OpenApp
  • FF aiOS 2
  • FF aiHW 2.0
  • FF Mechanical
  • FF Cloud
  • FF AI

และระบบเทคโนโลยี 4 ระบบ ได้แก่

  • Magic All-In-One
  • Hyper Multi-Vectoring
  • FF aiDriving
  • 3rd aiSpace

ระบบ Magic All-In-One

  • Zero Gravity Rear Seats – ดื่มด่ำกับความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้ และการพักผ่อนที่หรูหราด้วยเบาะหลัง Zero Gravity ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก NASA ของ FF 91 2.0 ปรับเอียงแบบนอนได้สูงสุด 60 องศา

  • Gateway Doors – ประตูดีไซน์ออกแบบมาเพื่อต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งความบันเทิงดิจิทัล เมื่อมาถึงจุดปลายทาง

  • Conversational Lighting System – ระบบแสงสว่างสำหรับการสนทนา อยู่บริเวณชายบันไดของตัวรถ แสงสว่างดีไซน์เป็น LED รูปคริสตัลแบบ 3 มิติ รวมถึงไฟหน้า ไฟท้ายด้วย ที่สามารถตั้งโปรแกรมได้แต่ละดวง และสามารถสร้างแอนิเมชันที่ไม่เหมือนใคร เพื่อดึงดูดและสื่อสารกับคนรอบข้างได้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการจำลองการลงจอดของ UFO

  • Superior Safety – ความปลอดภัยที่เหนือกว่า ถือเป็นการปฏิวัติวงการยานยนต์ที่ติดตั้งแพลตฟอร์ม VPA ที่เราได้จดสิทธิบัตรให้ตัวถังรถมีความแข็งแรงสูงมาก เพื่อประกอบกับการออกแบบความปลอดภัยของวิศวกรขั้นสูง และช่วยให้มั่นใจได้ว่าความปลอดภัยยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของการออกแบบทั่วๆไป

ระบบ Hyper Multi-Vectoring

  • พละกำลังระดับ Hypercar – FF 91 2.0 เป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้วยระบบส่งกำลัง 3 มอเตอร์ ที่ให้พละกำลัง 1,050 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 2.27 วินาที ถือเป็นระบบส่งกำลังที่ทรงพลังที่สุดในโลก

  • ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง – FF 91 2.0 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 142 kWh ที่สามารถวิ่งได้ระยะทาง 613 กม. ตามมาตรฐาน EPA ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ไร้ข้อกังวลในเรื่องระยะทาง ระหว่าง Los Angeles และ Silicon Valley หรือระหว่าง New York City และ Washington DC ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว

  • โหมดการขับเคลื่อนที่ปรับให้เหมาะกับทุกอารมณ์ของผู้ขับ – FF 91 2.0 มีโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันหลายแบบ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

  • โครงสร้างของตัวถังรถ – โครงสร้างของตัวถังรถผลิตขึ้นมาเป็นชุด โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมทั้งหมด พร้อมการดูดซับแรงกระแทกที่ดี และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้และการระเบิดที่เกิดจากการชน ดังนั้นจึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันนึงที่มีความปลอดภัยสูงสุด

ระบบ FF aiDriving

  • เซ็นเซอร์ระบบช่วยการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) กว่า 30 ตัว รวมถึง LiDAR, Radar, Ultrasonics และกล้องความละเอียดสูง

  • ชิปเซตสำหรับการขับขี่อัตโนมัติ – FF 91 2.0 ติดตั้งพร้อมชิปประมวลผลที่ทรงพลังมากที่สุด ทำงานบน NVIDIA DRIVE Orin X โดยจะใช้โครงข่ายเชิงลึกที่หลากหลายและซับซ้อนจำนวนมาก ทำงานพร้อมกัน เพื่อการใช้งานด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบาย

  • การที่ทำแผนที่ขึ้นมาเองโดยส่วนตัว – โมดูลการทำแผนที่สามารถปรับเปลี่ยนได้สูง ไม่ได้เพียงแต่ทำงานได้อย่างราบรื่นบนถนนสาธารณะเท่านั้น แต่ยังให้อิสระแก่ผู้ใช้ในการสร้างแผนที่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ และนี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวที่สุด ที่ OEM สามารถมอบให้กับผู้ใช้ได้

  • ฟีเจอร์ ADAS ที่แข็งแกร่ง – มีฟังก์ชันการเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC), ระบบควบคุมให้รถอยู่ในเลน (LCC), ระบบการจอดรถอัจฉริยะ, ระบบเรียกรถอัจฉริยะ และคุณสมบัติที่มีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย

ระบบ 3rd aiSpace

  • การสื่อสาร Super AP 5G x 3 – ให้การเชื่อมต่อที่ไม่มีใครเทียบได้ด้วย การเชื่อมต่อ 5G สูงสุด 3 เครือข่าย ที่ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับการชมสื่อบันเทิงหลายรายการ สามารถแชร์อินเทอร์เน็ตแบบ ฮอตสปอตมือถือเพื่อเชื่อมต่อ ระหว่างอุปกรณ์ได้หลายเครื่องพร้อมกัน

  • ระบบความบันเทิงภายในรถ – ถือเป็นการปฏิวัติวงการ ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่และประสบการณ์ของผู้โดยสารได้ ด้วยหน้าจอรวมกันทั้งหมด 100 นิ้ว จากจอแสดงผลทั้งหมด 11 จอ รวมถึงจอแสดงผลด้านหลังแบบ Ultra-wide ขนาด 27 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 2K  เพื่อมอบความบันเทิงให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่ง

  • การประชุมวิดีโอออนไลน์ – เพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้ของการประชุมออนไลน์ ด้วยกล้องมุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และหน้าจอมีความละเอียด 2K ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน สามารถสนทนากับเพื่อนหรือครอบครัว หรือจัดการประชุมทางธุรกิจที่สำคัญ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส

  • FF Generative AI – รวมความสามารถพื้นฐานของ FF เช่น แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ชั้นนำของอุตสาหกรรม, ระบบปฏิบัติการขั้นสูง, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วเป็นพิเศษ และความสามารถของ AI ในการประมวลผลจอแสดงผลหลายจอ

สุดท้ายนี้มาดูราคาของ Faraday FF 91 ทั้ง 3 รุ่นย่อยกัน

  • Faraday FF 91 2.0 Futurist Alliance ราคา 309,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10.6 ล้านบาท)
  • Faraday FF 91 2.0 Futurist ราคา 249,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8.6 ล้านบาท)
  • Faraday FF 91 2.0 ยังไม่มีข้อมูลราคา

ในความพิเศษ บริษัทยังรับประกันราคาขายต่อ โดยระบุว่าจะรับประกันราคา แลกเปลี่ยน (Trade-in) 60% หลังจาก 3 ปีแรก ซึ่งมีราคาเพียง 41,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 1.43 ล้านบาท) แต่บางทีเจ้าของควรคิดให้ดีก่อนที่จะแลกเปลี่ยน เพราะว่ารถจะมีมูลค่าสะสมที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้

ที่มา – Electrek และ Faraday Future

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S