Tesla ได้เริ่มปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ที่เปิดใช้งานเรดาห์ในห้องโดยสาร (Cabin Radar) ใน Model Y รุ่นล่าสุดแล้ว และเพิ่มการรองรับฟีเจอร์ First-row cabin sensing ตรวจจับผู้โดยสารที่เบาะหน้า ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ระบบสามารถระบุขนาดของผู้โดยสารได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
Tesla เตรียมขยายการรองรับการตรวจจับผู้โดยสารด้วย Cabin Radar ไปยังรถยนต์รุ่นอื่น ๆ
Tesla เผยว่า ไม่ใช่แค่ Model Y รุ่นใหม่เท่านั้นที่ได้รับอัปเดตนี้ รถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่ผลิตในช่วงหลังก็มี Cabin Radar ที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน ซึ่งจะได้รับการอัปเดตในอนาคต
ระบบตรวจจับเด็กในรถยนต์ (Child Presence Detection)
การตรวจจับผู้โดยสารที่เบาะหน้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอัปเดตนี้ เนื่องจาก Tesla ยังวางแผนเพิ่มการรองรับการตรวจจับผู้โดยสารที่เบาะหลัง เพื่อช่วยป้องกันเหตุการณ์ที่มีเด็กถูกทิ้งไว้ในรถโดยไม่ตั้งใจ
Tesla ได้โพสต์ข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม X โดยอ้างอิงข้อมูลจาก NHTSA (National Highway Traffic Safety Administration) ว่าในสหรัฐอเมริกามีเด็กเสียชีวิตจาก โรคลมแดด (Heatstroke) ในรถยนต์เฉลี่ยปีละ 37 ราย
ซึ่ง Cabin Radar ของ Tesla จะช่วยลดจำนวนเหตุการณ์เหล่านี้ โดยการตรวจจับเด็กที่ถูกทิ้งไว้ในรถ และแจ้งเตือนเจ้าของรถ หรือเปิดระบบปรับอากาศ (HVAC) อัตโนมัติ
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของ Cabin Radar
Cabin Radar ใหม่นี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยหลายอย่างที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปกป้องผู้โดยสารที่อาจถูกลืมไว้ในรถ ได้แก่
- ตรวจจับและระบุขนาดของผู้โดยสาร ระบบจะสามารถคำนวณขนาดของผู้โดยสารเพื่อตัดสินใจว่าจะเปิดใช้งานถุงลมนิรภัยแบบใดให้เหมาะสม ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากถุงลมสำหรับเด็กหรือคนตัวเล็ก
- แยกแยะระหว่างผู้ใหญ่ เด็ก และทารก ระบบสามารถปรับการตั้งค่าความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ตามขนาดของผู้โดยสาร
- ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ หากพบว่ามีเด็กหรือทารกถูกทิ้งไว้ ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังแอป Tesla ที่เจ้าของรถ และเปิดระบบปรับอากาศ (HVAC) อัตโนมัติ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในรถ
- โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติ หากพบว่ามีเด็กถูกทิ้งไว้ในรถและมีความเสี่ยงสูง Tesla จะโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยอัตโนมัติและส่งพิกัดของรถ (สำหรับรถ Tesla ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันยังไม่สามารถโทรแจ้ง 911 ได้โดยตรง ยกเว้นในกรณีที่มีโทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อกับรถผ่าน Bluetooth ซึ่ง Tesla อาจพัฒนาให้รองรับฟีเจอร์นี้ในอนาคต)
รุ่นรถที่รองรับ Cabin Radar
แม้ว่า Tesla จะเปิดใช้งาน Cabin Radar ในรถ Model Y รุ่นปี 2022 หรือใหม่กว่า แต่บริษัทได้ยืนยันผ่าน X ว่า Model 3 รุ่นใหม่และ Cybertruck ก็มีเซ็นเซอร์ Cabin Radar ด้วยเช่นกัน
จากการตรวจสอบหมายเลขชิ้นส่วน พบว่า Cabin Radar ของ Model Y ปี 2024 ขึ้นไป, Model 3 ปี 2024 ขึ้นไป และ Cybertruck มีชิ้นส่วนเดียวกัน ดังนั้นรถเหล่านี้น่าจะได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ Cabin Radar ใหม่ล่าสุดทั้งหมด
สำหรับ Model Y ปี 2022 และ 2023 แม้ว่าจะใช้หมายเลขชิ้นส่วนที่แตกต่างกัน แต่รถเหล่านี้ก็ได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ตรวจจับผู้โดยสารที่เบาะหน้าแล้ว ในซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 2025.2.6 ซึ่งยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าจะได้รับอัปเดตสำหรับเบาะหลังหรือไม่
Model S และ Model X ก็มี Cabin Radar ติดตั้งอยู่เช่นกัน แต่มีหมายเลขชิ้นส่วนที่แตกต่างจาก Model 3 และ Model Y ปี 2024 ดังนั้นยังไม่แน่ชัดว่าจะได้รับฟีเจอร์เดียวกันหรือไม่
อนาคตของระบบ Cabin Radar ใน Tesla
คาดว่า Tesla จะปล่อยฟีเจอร์ตรวจจับผู้โดยสารที่เบาะหลังให้กับรถที่มี Cabin Radar รุ่นใหม่ภายในปีนี้ โดย Model Y รุ่นใหม่จะได้รับอัปเดตในไตรมาสที่ 3 ของปี 2025 ส่วนรถรุ่นอื่น ๆ อาจจะต้องรอหลังจากนี้อีกสักระยะ เนื่องจากต้องมีการปรับแต่งเซ็นเซอร์ให้เหมาะกับขนาดและพื้นที่ของแต่ละรุ่น
Tesla อาจเพิ่มการรองรับให้กับ Model S และ Model X รุ่นปรับปรุงใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารและลดอุบัติเหตุจากการลืมเด็กไว้ในรถได้อย่างมาก
Tesla กำลังมุ่งหน้าไปสู่การพัฒนาฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากขึ้น และเรดาห์ในห้องโดยสารหรือ Cabin Radar นี้ก็จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ทุกคน
ที่มา notateslaapp