ล่าสุดสื่อของรัฐบาลจีนอย่าง CCTV และ Reuters รายงานว่า Zhejiang Hozon New Energy Automobile ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า NETA ได้ยื่นขอล้มละลายอย่างเป็นทางการมาดูรายละเอียด พร้อมกับอนาคตที่ไม่สดใสของ NETA ฝั่งไทยกันครับ
NETA จีนยื่นล้มละลายในจีนแล้ว อนาคต NETA ไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป?
โดยทาง Hozon ถูกเจ้าหนี้รายหนึ่งฟ้องร้องเรียกหนี้สินที่ยังไม่ชำระเป็นจำนวนถึง 5.3 ล้านหยวน (ประมาณ 26.6 ล้านบาท) โดยขณะนี้ Hozon มีหนี้สินรวมเกินกว่า 10,000 ล้านหยวน (ประมาณ 50,200 ล้านบาท)
สถานการณ์ในจีนเริ่มสั่นคลอน
สถานการณ์ในประเทศจีนของ NETA ถือว่าน่ากังวลเพราะหลายโชว์รูมในจีนได้ปิดตัวลง พร้อมกับพนักงานจำนวนหลายร้อยคนออกมาประท้วงบนท้องถนน เนื่องจากไม่ได้รับเงินเดือนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024
NETA Auto Thailand เผชิญปัญหาด้านบริการ
ส่วนฝั่งของ NETA Auto Thailand ของประเทศไทยต้องเผชิญปัญหาด้านการบริการมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการขาดแคลนอะไหล่ ส่งผลให้การเคลมประกันและการซ่อมรถยนต์ล่าช้า บางเคสต้องใช้เวลานานถึง 10 เดือน
สัญญาณการถอนตัวของดีลเลอร์
จำนวนโชว์รูมของ NETA ในไทยก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิม 60 แห่ง เหลือเพียง 40 แห่ง และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง เพราะปัญหาขาดทุน และสภาพคล่องทางการเงินที่ไม่เพียงพอ
NETA ไทยยืนยันจะอยู่ต่อไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
แม้จะเกิดกระแสลบจากจีน แต่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา Sun Baolong ผู้จัดการทั่วไปของ NETA Auto Thailand ได้ออกมาประกาศว่า NETA กำลังเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ และองค์กร พร้อมยืนยันว่า “ตราบใดที่ NETA ยังอยู่ในจีน NETA ก็จะยังอยู่ในประเทศไทย”
อนาคตของ NETA Auto ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป?
สรุปภาพรวมการยื่นล้มละลายในจีนครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญขึ้นมาดังนี้
-
Hozon บริษัทแม่ของ NETA ได้ยื่นล้มละลายในจีนอย่างเป็นทางการแล้ว
-
มีหนี้สินรวมเกินกว่า 10,000 ล้านหยวน (ประมาณ 50,200 ล้านบาท)
-
พนักงานในจีนหลายร้อยคนยังไม่ได้รับเงินเดือน
-
ในไทยประสบปัญหาอะไหล่ขาด การซ่อมล่าช้า บางรายรอนานถึง 10 เดือน
-
โชว์รูมในไทยลดลงจาก 60 เหลือ 40 แห่ง
-
แม้มีแผนปรับโครงสร้าง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าอนาคตของ NETA ในไทยจะเป็นอย่างไร
เราต้องจับตาดูการดำนเนินการของ NETA ในจีนอย่างใกล้ชิด เพราะหากไม่มีการฟื้นฟูโครงสร้างหนี้ที่ชัดเจน อาจกระทบถึงผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า NETA ในประเทศไทยโดยตรงได้ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ
ที่มา : Bangkok Post และ NETA Auto Thailand