รถ Tesla Model Y L รุ่น 6 ที่นั่งที่เพิ่งเปิดตัวในจีน ไม่ได้มาพร้อมแค่เบาะที่นั่งพิเศษและพื้นที่ที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ นั่นคือ คำสั่งเสียง “Hey, Tesla” ซึ่งเป็นคำปลุกผู้ช่วย AI ในรถ
Tesla Model Y L เพิ่มคำสั่งเสียง “Hey, Tesla” และการควบคุมเฉพาะที่นั่ง
ผู้ช่วย AI ตัวนี้ทำงานคล้ายกับ Grok ที่เปิดตัวไปแล้วในอัปเดต 2025.26 แต่เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ จุดเด่นที่น่าสนใจคือ ระบบสามารถ ระบุได้ว่าใครเป็นผู้สั่งงาน ทำให้สามารถตอบสนองได้อย่างแม่นยำและยังสามารถสนทนาต่อเนื่องได้
ฟีเจอร์หลักของระบบใหม่นี้คือ การรับรู้ตำแหน่งผู้พูด คำสั่ง “Hey, Tesla” สามารถใช้ได้จากทุกที่นั่งในรถ Model Y L ทั้ง 6 ที่นั่ง และระบบสามารถตั้งค่าให้ตอบสนองเฉพาะเสียงจากที่นั่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเท่านั้น
เห็นได้ว่า นี่คือฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับรถครอบครัวมาก เพราะช่วยให้เด็กๆ ที่นั่งเบาะหลังไม่สามารถขัดจังหวะการนำทางของคนขับได้ และผู้โดยสารก็จะไม่สั่งงานโดยไม่ได้ตั้งใจขณะคุยกัน
ฟีเจอร์นี้ให้การควบคุมที่แม่นยำกับคนขับ เหมือนเป็นฟังก์ชันควบคุมโดยผู้ปกครอง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ สั่งงานผู้ช่วย AI โดยไม่ได้รับอนุญาต
ฟีเจอร์ใหม่ที่อาจตามมา
เมื่อระบบรู้ว่าใครเป็นคนสั่งงาน Tesla สามารถพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมได้อีกมากมาย เช่น
- Kids Mode เฉพาะที่นั่ง: Grok มี Kids Mode อยู่แล้ว ซึ่งในอนาคต Tesla อาจจะให้ผู้ใช้ตั้งค่าให้ที่นั่งบางที่ใช้โหมดนี้โดยอัตโนมัติ
- การสนทนาสำหรับหลายผู้ใช้: ผู้ช่วย AI จะสามารถจดจำได้ว่าผู้โดยสารคนไหนพูดอะไร และสามารถสนทนาต่อเนื่องกับผู้ใช้งานแต่ละคนได้อย่างถูกต้อง
คาดว่าใช้ไมโครโฟนหลายตัว
แม้ Tesla จะยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร แต่คาดว่าน่าจะใช้ ชุดไมโครโฟนจำนวนมากภายในห้องโดยสาร โดยการวิเคราะห์ความต่างของเวลาและระดับเสียงที่ไปถึงไมโครโฟนแต่ละตัว ทำให้ระบบสามารถระบุตำแหน่งของผู้โดยสารได้อย่างแม่นยำ ทางเทคนิคที่เรียกว่า Beamforming และไม่ตอบสนองต่อคำสั่งจากที่นั่งที่ไม่ได้รับอนุญาต
ฟังก์ชันนี้ เพิ่มเมนูควบคุมใหม่
เพื่อจัดการฟังก์ชันใหม่นี้ Tesla ได้เพิ่มเมนู Voice Recognition หรือการจดจำเสียงเข้ามาในส่วนควบคุมของรถ ทำให้ผู้ใช้จัดการได้ดังนี้
- เลือกว่าจะให้ที่นั่งไหนสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้บ้าง
- เลือกว่าจะให้ระบบฟังคำสั่งต่อเนื่องหลังจากที่สั่งงานครั้งแรกหรือไม่
ฟีเจอร์ใหม่นี้แตกต่างจากระบบเดิมที่ต้องกดปุ่มบนพวงมาลัยเพื่อสั่งงาน ทำให้ผู้ช่วย AI จะทำงานคล้ายกับลำโพงอัจฉริยะในบ้านที่พร้อมรับคำสั่งตลอดเวลา
ฟีเจอร์นี้เป็น ลิขสิทธิ์เฉพาะสำหรับรถ Model Y L ในตลาดจีน และใช้ Tesla Smart Assistant ที่ออกแบบมาเพื่อจีนโดยเฉพาะ แต่คาดว่าฟีเจอร์นี้จะถูกนำไปใช้ในตลาดอื่น ๆ ในอนาคต เนื่องจาก Elon Musk เคยกล่าวไว้ว่า Grok จะรองรับคำสั่งเสียงแบบนี้แน่นอน
แต่สิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไปคือ รถรุ่นไหนบ้างที่จะสามารถรองรับได้ หากต้องใช้ไมโครโฟนเพิ่มเติม ก็อาจจะจำกัดอยู่เฉพาะรถรุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น
ที่มา notateslaapp