ใน

ไฮไลท์บูธ BMW, MINI และ BMW Motorrad ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42

ไฮไลท์บูธ BMW, MINI และ BMW Motorrad ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42

BMW iX xDrive45 M Sport ใหม่

ราคา 5,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

BMW เปิดตัว BMW iX xDrive45 M Sport รุ่นใหม่ มาพร้อมดีไซน์ที่ได้รับการพัฒนาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งกระจังหน้าไตคู่ออกแบบใหม่ ขอบกระจังหน้าพร้อมไฟ BMW Iconic Glow และชุดแต่ง M Sport ที่เสริมความสปอร์ตตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงชุดสะท้อนแสงแนวตั้งด้านท้าย ตัวรถยังมีสีใหม่ให้เลือกเพิ่มอีก 5 สี ได้แก่ Arctic Race metallic, Dune Grey metallic, Carbon Black metallic, Space Silver metallic และ Alpine White solid ภายในตกแต่งแบบหรูหราด้วย Design Suite Castanea หรือ Design Suite Amido

ห้องโดยสารโดดเด่นด้วยพวงมาลัยหนังแบบ M วัสดุตกแต่ง M Dark Silver และเพดานสี Anthracite พร้อมแอนิเมชันใหม่บน BMW Curved Display และระบบ Welcome Light Carpet รองรับ BMW Digital Key Plus สามารถปลดล็อกรถอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เดินเข้าใกล้ รวมถึงแชร์สิทธิ์การใช้งานรถให้ผู้อื่นได้สูงสุด 17 คน

สมรรถนะถูกยกระดับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 300 กิโลวัตต์ / 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที แบตเตอรี่ความจุ 100.4 kWh รองรับระยะทางสูงสุดตาม WLTP ที่ 602 กม.

บนท้องถนน ระบบ Integral Active Steering ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความนิ่งเมื่อใช้ความเร็วสูง รวมถึงระบบ Adaptive 2-axle air suspension ที่ปรับระดับความสูงของรถได้ตามโหมดการขับขี่ พร้อมล้อ M ขนาด 21 นิ้ว ระบบ Driving Assistant Plus และ Parking Assistant Plus พร้อมอัปเกรดฟังก์ชันผ่าน ConnectedDrive ได้ รวมถึงชุด BMW Tyre Repair Kit Plus สำหรับแก้ปัญหายางรั่วแบบฉุกเฉิน

BMW iX1 eDrive20L M Sport ใหม่

ราคา 2,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)

BMW iX1 eDrive20L M Sport ได้รับการพัฒนาให้ยาวขึ้นเป็น 4,616 มม. ฐานล้อยาว 2,800 มม. ใหญ่กว่ารุ่น X1 มาตรฐาน ทั้งยังโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงปิดแบบสามมิติ ไฟหน้า Adaptive LED และชุดแต่ง M Sport พร้อมล้อ 19 นิ้ว Double-spoke Bicolour

ด้วยฐานล้อที่เพิ่มขึ้น ห้องโดยสารผู้โดยสารตอนหลังจึงกว้างขึ้นทั้งพื้นที่ขาและเข่า เบาะหลังบุด้วยโฟมนุ่มขึ้น และยังพับได้แบบ 40:20:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 1,600 ลิตร ระบบ Comfort Access 2.0 และ BMW Digital Key Plus รองรับปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เดินเข้าใกล้ พร้อมหลังคากระจก Panorama Glass Roof ขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม

ระบบขับเคลื่อนใช้ BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 ให้กำลัง 150 กิโลวัตต์ / 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ระยะทางวิ่งสูงสุด WLTP 402–433 กม. แบตเตอรี่ 66.5 kWh รองรับ DC 130 kW (ชาร์จ 10–80% ใน 32 นาที) และ AC 11 kW (เต็ม 0–100% ใน 6 ชม. 45 นาที)

มีให้เลือก 3 สี: Carbon Black Metallic, Mineral White Metallic และ Brooklyn Grey Metallic ห้องโดยสารใช้วัสดุ Veganza สี Castanea

MINI Cooper SE Classic ใหม่

ราคาพิเศษช่วงเปิดตัว 1,555,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ MSI Standard)

MINI Aceman SE Classic ใหม่

ราคาพิเศษช่วงเปิดตัว 1,755,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ MSI Standard)

ทั้งสองรุ่นได้รับการตกแต่งใหม่ตามสไตล์คลาสสิกของ MINI ด้วยรายละเอียดสีดำ Piano Black รอบคัน ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ (17 นิ้ว สำหรับ Cooper SE, 18 นิ้ว สำหรับ Aceman SE) และองค์ประกอบสปอร์ตแบบดั้งเดิมของแบรนด์

จุดเด่นสำคัญคือ MINI Interaction Unit หน้าจอ OLED ทรงกลม พร้อม MINI Experience Modes ซึ่งปรับสี แสง และเสียงตามอารมณ์การขับขี่ รวมถึงไฟหน้าและไฟท้ายที่เปลี่ยนลวดลายได้ 3 แบบ

ด้านความปลอดภัยมี Driving Assistant ครบชุด ทั้ง Blind Spot, Lane Change Warning และ Collision Warning พร้อมระบบ Parking Assistant และ Digital Key Plus ใช้สมาร์ทโฟนแทนกุญแจรถได้

ขุมพลังไฟฟ้า 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร MINI Cooper SE Classic ทำอัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที ระยะทางสูงสุด WLTP 400 กม. ส่วน Aceman SE วิ่งได้สูงสุด 405 กม. ความเร็วสูงสุดทั้งสองรุ่น 170 กม./ชม. ชาร์จ DC สูงสุด 95 kW และ AC 11 kW

สีตัวรถ Cooper SE: Nanuq White, Melting Silver, Chili Red, Blazing Blue
สีตัวรถ Aceman SE: Nanuq White, Melting Silver, Rebel Red, Blazing Blue

MINI John Cooper Works Aero Pack

ราคา 3,399,000 บาท (MSI Standard)
ราคาชุดแต่ง 200,000 บาท (ไม่รวม VAT)

MINI John Cooper Works Convertible Aero Pack

ราคา 3,599,000 บาท (MSI Standard)
ราคาชุดแต่ง 131,000 บาท (ไม่รวม VAT)

MINI JCW ยังคงโดดเด่นด้วยสมรรถนะและดีไซน์เฉพาะตัว พร้อมชุดแต่ง JCW Aero Pack ที่เพิ่มความสปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ล้อ JCW Rallye สี Frozen Midnight Grey วิงเล็ท กระจังหน้าพร้อม Tow Strap และฝาครอบกระจกมองข้าง JCW โทนดำ-แดง รุ่น 3 ประตูติดตั้งสปอยเลอร์ JCW และ Diffuser ดีไซน์พิเศษ

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 231 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. รุ่น 3 ประตู: 6.1 วินาที รุ่นเปิดประทุน: 6.4 วินาที พร้อมช่วงล่าง Adaptive, Driving Assistant Plus, กล้อง 360 องศา ระบบเสียง Harman Kardon และเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมโปรแกรมนวด

สีตัวรถ JCW: Chili Red
สีรุ่นเปิดประทุน: Sunny Side Yellow

MINI Aceman SE High Trim Aspen White Collection

ราคา 1,999,000 บาท (รวมภาษีและ MSI Standard)
ราคาชุดแต่ง 88,000 บาท (ไม่รวม VAT)

รุ่นพิเศษนี้มาพร้อมตัวถังสี Aspen White พร้อมรายละเอียดการตกแต่งแบบเฉพาะรุ่น เพิ่มเอกลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมชุดอุปกรณ์ที่อัปเกรดเหนือรุ่นปกติในไลน์ Aceman SE

BMW R 1300 RT ใหม่ เปิดตัวสองรุ่นย่อย Impulse และ Option 719 Camargue

ราคาอย่างเป็นทางการ

  • BMW R 1300 RT Impulse ราคา 1,439,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

  • BMW R 1300 RT Option 719 Camargue ราคา 1,569,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

BMW R 1300 RT ใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ทางไกลในสไตล์ทัวริ่งแท้จริง ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เพรียวลมกว่า และการควบคุมที่คล่องตัวขึ้นจากการออกแบบตัวถังใหม่ทั้งหมด เฟรมหลักผลิตจากเหล็กกล้า มีความกะทัดรัดและแข็งแรงกว่าเดิม เมื่อจับคู่กับระบบขับเคลื่อนที่ถูกย่อขนาดลง ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของรถสมดุลขึ้น ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความมั่นคงขณะขับขี่

ดีไซน์และฟังก์ชันเพื่อการเดินทางไกล

R 1300 RT ใหม่ มาพร้อมแผงบังลมแบบปรับองศาได้ เลือกได้ระหว่างรับลมเย็นหรือกางเพื่อเบนลมและละอองฝน ส่วนแผงบังเครื่องยนต์ด้านข้างออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นบริเวณเท้าและข้อเท้าของผู้ขับขี่

ตำแหน่งแฮนด์ ที่วางเท้า และเบาะนั่ง ถูกปรับใหม่ให้สอดรับกับสรีระมากขึ้น โดยขยับตำแหน่งผู้ขับให้ใกล้ด้านหน้ารถกว่าในรุ่นก่อน เพื่อให้การควบคุมส่วนหน้าตอบสนองรวดเร็วขึ้น ทั้งยังคงความนุ่มนวลเหมาะสำหรับการเดินทางไกลในวันสบายๆ

พื้นที่จัดเก็บสัมภาระ

ในรุ่นมาตรฐาน มีเคสด้านข้างขนาด 27 ลิตร จำนวน 2 ใบ สามารถขยายความจุได้สูงสุด 33 นิ้ว พร้อมท็อปเคสให้เลือกขนาด 39 และ 54 ลิตร
รุ่น Option 719 Camargue เพิ่มท็อปเคสขนาดใหญ่พร้อมพนักพิงและระบบทำความร้อนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ช่วงล่าง Dynamic Chassis Adaption (DCA)

BMW ติดตั้งระบบ DCA ซึ่งปรับความแข็งของสปริงและระบบกันสะเทือนได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมตั้งระดับตัวรถได้ 2 โหมด

  • โหมดมาตรฐาน: ตั้งแผงคอให้ขนานถนน เพื่อความนุ่มนวลและมั่นคง

  • โหมดสูงขึ้น: ยกตัวรถด้านท้ายให้สูงกว่า พร้อมสปริงและโช้กที่แข็งขึ้น เพื่อการตอบสนองที่แม่นยำและคล่องแคล่วกว่าเดิม

ระบบไฟและเทคโนโลยีความปลอดภัย

ด้านหน้าติดตั้งไฟหน้า LED พร้อมแพ็จเกจ Headlight Pro เป็นมาตรฐานในไทย สามารถปรับองศาของลำแสงให้ก้มหรือเชิดตามการเอียงของตัวรถ ทำให้รักษาระยะส่องสว่างสูงสุดทุกสถานการณ์

ระบบช่วยขับขี่มาครบครัน ทั้ง

  • Dynamic Cruise Control (DCC) พร้อมฟังก์ชันช่วยเบรก

  • Active Cruise Control (ACC) ควบคุมระยะห่างจากรถคันหน้า

  • Front Collision Warning (FCW)

  • Side View Assist (SVA) ใช้เรดาร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหน้าและหลัง

หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับระบบนำทาง การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของตัวรถ

เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ใหม่ 1,300 ซีซี ที่ทรงพลังที่สุดของ BMW

R 1300 RT ใหม่ ใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 1,300 ซีซี ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ที่แรงที่สุดจากสายการผลิต BMW

  • กำลังสูงสุด: 107 กิโลวัตต์ / 145 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที

  • แรงบิดสูงสุด: 149 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที

ทำงานร่วมกับเกียร์ 6 สปีดและคลัตช์เปียกที่มีระบบป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบ Shift Assistant Pro เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องบีบคลัตช์
รุ่น Option 719 Camargue เสริมด้วยระบบ Automatic Shift Assistant (ASA) ทำงานคลัตช์และเกียร์แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ (Riding Modes Pro)

ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่

  • Rain

  • Road

  • Eco (ใช้ BMW ShiftCam เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อระยะทางสูงสุด)

  • Dynamic

  • Dynamic Pro (ทำงานร่วมกับช่วงล่าง DCA เพื่อความคล่องตัวสูงสุด)

ระบบเสียงและความบันเทิง

R 1300 RT ติดตั้งชุดเครื่องเสียง Audio System พร้อมลำโพงในตัว รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของผู้ขับขี่
รุ่น Option 719 Camargue อัปเกรดเป็น Audio Pro ให้คุณภาพเสียงดีขึ้น ควบคุมเบส–เทรเบิลแยกกันได้ บันทึกโปรไฟล์เสียง และมีฟังก์ชัน Dynamic Volume Control ปรับระดับเสียงอัตโนมัติ

สีตัวรถและอุปกรณ์เฉพาะรุ่น

  • Impulse: สี Racing Blue metallic พร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว

  • Option 719 Camargue: สี Blue Ridge Mountain metallic พร้อมชุดแต่ง Option 719 Shadow Milled Parts, ไฟหน้า LED พิเศษ, ท็อปเคสขนาดใหญ่ และระบบ ASA

BMW R 1300 RT ใหม่ พร้อมให้ผู้ขับขี่สายทัวริ่งในไทยสัมผัสประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียมทั้ง 2 รุ่นย่อยแล้ววันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์จาก BMW Group Thailand

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.