ทดสอบขับขี่ Honda CR-V e:HEV รุ่นปรับโฉมใหม่! ขับดีเข้าโค้งมั่นใจ ไฮบริดแรงทันใจ ออปชันครบ ได้ Blind Spot พร้อมเพิ่มรุ่น RS 2WD และ HuNT
Honda ได้เปิดตัว New Honda CR-V e:HEV รุ่นปรับโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ครั้งนี้ทำการตัดเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบออก ปรับให้เป็นระบบไฮบริด (e:HEV) ทั้งหมดทุกรุ่นย่อย จัดเต็มออปชัน ราคาเริ่มต้นดีขึ้นที่ 1.39 ล้านบาท ทริปนี้ทีมงาน iMoD ได้รับเชิญให้มาร่วมทดสอบที่จังหวัดน่าน เส้นทางจากตัวเมืองน่านขึ้นไปยังจุดกางเต้นท์บ้านห่วยหมี และปลายทางสะปันกลางนา ทางถนนในเมือง คดเคี้ยว และเส้นทางขรุขระ ระยะทางประมาณ 110 กม.


จุดที่เพิ่มเติมใหม่ สำหรับ CR-V e:HEV ปรับโฉม
- รุ่นเริ่มต้น CR-V รุ่น e:HEV ราคาเข้าถึงง่ายขึ้น 1.399 ล้านบาท
- เพิ่ม 2 รุ่นย่อยใหม่ CR-V รุ่น e:HEV HuNT และรุ่น e:HEV RS 2WD
- โลโก้ H Mark ไม่มีขอบสีฟ้า
- รุ่น RS ตกแต่งสเกิร์ตรอบคันสี Gloss Black พร้อมมือจับประตู Piano Black เพิ่มความสปอร์ต และคงความเป็น RS (รุ่นเดิมสีเดียวกับตัวถัง)



- เพิ่มระบบ Blind Spot Information (BSI) ทุกรุ่นย่อย New!
- เพิ่มระบบ Cross Traffic Monitor (CTM) ทุกรุ่นย่อย New!

- รุ่น E ได้ล้อ 18″ สีดำ Berlina Black มาแทนสีเงินแบบเดิม
- ภายในรุ่น E ขอบตกแต่งเป็น Sliver Hairline (แทนลายไม้)
- ภายในรุ่น RS ขอบตกแต่งเป็น Dark Hairline (แทนสีเงิน)
- ภายในรุ่น RS ปั๊มโลโก้ RS ที่เบาะคู่หน้า

- เพิ่มระบบเบาะเป่าลม Ventilated Seat ปรับได้ 3 ระดับ New!
- จอหลังพวงมาลัย 10.2 นิ้วทุกรุ่นย่อย
- เพิ่มโหมดการขับขี่ Individual
- Google Built-in ทุกรุ่นย่อย
- เชื่อต่อ Honda Connect เป็น Digital Key ได้ทุกรุ่นย่อย
CR-V e:HEV รุ่น HuNT เท่ห์พร้อมเดินทาง
นำรุ่น e:HEV ES มาตกแต่งเพิ่มสไตล์พร้อมเดินทาง เอาใจสายครอบครัว และต้องการขนของออกเดินทาง
- กระจังหน้าตกแต่งสี Glossy Copper
- ขอบไฟตัดหมอกสี Glossy Copper
- เพิ่มบันไดข้างรถ
- เพิ่ม Roof Rack สีดำ
- เพิ่มแผงใต้กันชนหน้า
- คิ้วตกแต่งซุ้มล้อหน้า-หลัง สีดำ


ประสบการณ์การขับขี่ CR-V รุ่น e:HEV RS 4WD (จากร้านอาหาร VARAR – สะปันกลางนา)
ในทริปครั้งนี้ Honda ได้นำ CR-V มาให้สื่อได้ขับทั้งหมด 4 คัน 3 รุ่น ได้แก่
- Honda CR-V รุ่น e:HEV HuNT
- Honda CR-V รุ่น e:HEV RS
- Honda CR-V รุ่น e:HEV RS 4WD (2 คัน)
เราได้รุ่น e:HEV RS 4WD คันสีขาว พอกระโดดขึ้นมาบนรถก็ใช้เวลาในการปรับเบาะ พวงมาลัย ท่านั่ง กระจกมองข้าง เชื่อมต่อ Apple CarPlay ไร้สายกับ iPhone 17 ได้อย่างรวดเร็ว เพราะปุ่มกด Physical ครบจบทุกฟังชัน เริ่มต้นด้วยการถอยระบบกล้องรอบคัน 360 (MVCS) กล้องอาจจะยังไม่ชัดเท่าไหร่สำหรับยุคนี้ แต่ยังพอใช้งานได้ไม่มีปัญหา หน้าจอกลาง 12.3 นิ้วอาจจะทำให้ภาพรอบคันไม่ได้ใหญ่มาก (สำหรับจอ 15 นิ้วในรถ Honda ตระกูลไฮบริดอนาคตก็เตรียมตัวได้เลยครับ คาดว่าจะเหมือนใน Honda e:N1)


ถนนหลังออกจากร้าน VARAR เป็นถนนลูกรัง คอนกรีต พร้อมกับขับขึ้นดอยไปด้วย ผมลองโหมด Normal ก่อน อัตราเร่งจังหวะขึ้นดอยถือว่าไวตามสั่งตั้งแต่รอบต่ำขับไปแบบเนียน ๆ แม้จะกดแป้นคันเร่งเพียง 40% แบบไม่ Kickdown ระบบ Parallel ทำงานเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังไปยังล้อ

- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 2.0 ลิตร
- มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (มอเตอร์ขับเคลื่อน + มอเตอร์ Generator) ติดตั้งไว้ชุดเกียร์ e-CVT
- พละกำลังสูงสุด 207 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร (ตั้งแต่ 0-2,000 รอบ/นาที)
สำหรับช่วงล่างในเส้นขรุขระมีหิน และหลุมบ่อถือว่าทำได้นุ่มนวล คันนี้ช่วงล่างหน้าได้ MacPherson Strut ที่ต้องยอมรับว่าเซ็ตมาดี เส้นถนนปกติที่คดเคี้ยวจังหวะยัดโค้งคันนี้ให้ฟีลนุ่มแน่น อาการ Body Roll หรือการโยนน้อยใช้ได้ คันนี้ได้ระบบ Real Time AWD แบบอัตโนมัติ จังหวะเติมคันเร่งช่วง Cornering รวมถึงการกดคันเร่งช่วงเนินสูงทางขรุขระทำได้มั่นใจ

พวงมาลัยตามมือพอใช้ได้ แต่ยังแอบมีระยะฟรีเล็กน้อย หลังพวงมาลัยมี Paddle Shift +/- ให้ได้ใช้งาน สำหรับระบบ Regenerative Braking ปรับได้ 4 ระดับ ทำงานชัวคราว หากปรับสุดจะเป็นการหน่วงด้วยมอเตอร์พร้อมปั่นไฟฟ้ากลับไปยังแบตเตอรี่ขนาด 1.1 kWh แม้จะระดับ 4 แต่ถือว่ารีเจนไม่ได้ดึงแรงเหมือนฝั่งไฮบริดแบรนด์จีน และเกาหลี ทำให้ขับขี่ได้ง่ายกะเรื่องของเบรกเองได้ง่าย ถ้าหากต้องการใช้ตลอดให้ตบเกียร์ไปที่ B จะตั้งค่าได้เองผ่าน Paddle Shift ครับ จะขึ้นว่า BM พร้อมลูกศรชึ้ลง

สำหรับโหมด Individual ที่เพิ่มมาใหม่ จะสามารถปรับเรื่องของอัตราเร่ง, น้ำหนักพวงมาลัย, เสียงเครื่องยนต์ (จำลองผ่านลำโพงในโหมด Sport เร้าใจ) และเกจสี แต่ไม่มีการปรับเรื่องของเบรกแยกได้ครับ
- อัตราเร่ง : Comfort / Normal / Sport
- น้ำหนักพวงมาลัย : Normal / Sport
- เสียงเครื่องยนต์ : Normal / Sport
- เกจแสดงหลังพวงมาลัย : Normal / Sport
อัตราเร่งโหมด Sport เร่งได้ทันใจอย่างเห็นได้ชัด พวงมาลัยโหมด Sport จะหนักขึ้นกำลังดีขับขี่ย่านความเร็วได้มั่นใจ
ช่วงการทดสอบที่เราได้ขับจะอยู่เวลาประมาณ 10.30 – 13.00 น. รถทดสอบติดฟิล์มรอบคัน เราเปิดม่านไว้เพื่อติดกล้องตลอดทริป แต่แอร์ใน CR-V ถือว่าเย็นใช้ได้เปิดเพียงพัดลมระดับ 3 แอร์ 25 °C ก็ทั่วถีงทั้งหน้า และหลังแม้ว่าช่องแอร์หลังจะมีช่องที่เล็กก็ตาม ระบบเบาะเป่าลม Ventilated Seat ใหม่ ปรับได้ 3 ระดับ ผมลองปรับแรงสุดยังถือเป่าเบามาก เบาะลมสามารถปรับตามระบบแอร์ Auto ได้



การนั่งโดยสารเบาะแถวหลัง
ได้ลองเบาะแถว 2 หลังเบาะผู้ขับ ผมสูง 167 ซม. พี่เคนช่อง GEARUP สูง 183 ซม. พื้นที่ขา เหลือ 3 กำปั้น กับอีก 2 นิ้ว เบาะหลังปรับเอนได้มากกว่า 10 ระดับ ถือว่าสบายครับ แยก 60:40 เบาะจะดีไซน์โอบเล็กน้อยช่วยล็อกตัวระหว่างเข้าโค้งพอได้ ที่วางแขนจะติดไปกับฝั่ง 60 แต่สามารถปรับชันได้วางแขนสบาย ไฟอ่านหนังสือจะอยู่ต้องกลาง อุโมงล้อถือว่าไม่สูงทำให้สามารถขยับเท้าได้ต่อเนื่องพร้อมมีพรมช่วย คันนี้ช่วงล่าง Multi-link จังหวะรีบาวนด์เก็บตัวไว ถือว่ากระชับเลยครับ

แม้ว่าทริปนี้เราไม่ได้เน้นการขับขี่แบบประหยัดที่ Honda เคลมว่าสามารถทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองได้ 19.3 กม./ลิตร ในรุ่น e:HEV RS และ 18.6 กม./ลิตร ในรุ่น e:HEV RS 4WD ในทริปนี้เราถึงปลายทางสะปันกลางนาทำตัวเลขไว้ที่ 10.1 กม./ลิตร (ทั้งเร่งแซง และเร่งขึ้นเขา บรรทุก 3 คน พร้อมกระเป๋าเดินทาง และกล้อง)
สรุป
ไม่แปลกใจว่าทำไม Honda CR-V เป็นหนึ่งในตัวเลือกรถครอบครัวของหลายคน ครั้งนี้ปรับโฉมให้สปอร์ตขึ้น ออปชันครบ ราคาเข้าถึงง่ายขึ้นพร้อมระบบไฮบริดทั้งหมด แรง ประหยัด ขนของได้สบาย นั่งสบาย ขับขี่ได้ดีมั่นใจ น่าเสียดายที่รุ่นปรับโฉมครั้งนี้ไม่มีการปรับเรื่องของหน้าตาให้ดูแตกต่าง หรือดูแล้วรู้ว่าเป็นรุ่นปรับโฉมแบบทันที

ราคา Honda CR-V e:HEV รุ่นปรับโฉม
ปรับไลน์อัปเป็นระบบฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่
- Honda CR-V รุ่น e:HEV E ราคา 1,399,000 บาท
- Honda CR-V รุ่น e:HEV ES ราคา 1,549,000 บาท
- Honda CR-V รุ่น e:HEV HuNT ราคา 1,599,000 บาท (New!)
- Honda CR-V รุ่น e:HEV RS (2WD) ราคา 1,659,000 บาท (New!)
- Honda CR-V รุ่น e:HEV RS 4WD ราคา 1,729,000 บาท
สีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่
- สีใหม่! สีเทาเออร์เบิน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD)
- สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
- สีขาวแพลทินัม (มุก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
- สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีดำคริสตัล (มุก)


สำหรับคลิปลองขับ Honda CR-V e:HEV ในทริปครั้งนี้ ติดตามชมได้ใน Youtube iMoD Official เร็ว ๆ นี้
