Sahakrit S
Mercedes-Benz เผยโฉมรถตู้ขนาดกลางที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ ที่มีการปรับดีไซน์ไฟหน้า, กันชนหน้า และกระจังหน้าใหม่หมด ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อสอดคล้องกับรุ่นอื่นๆใน Mercedes-Benz รุ่นปัจจุบัน
Mercedes-Benz เผยโฉม EQV, V-Class, Vito และ eVito ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่
Mercedes-Benz ได้อัปเดตตระกูลรถตู้ขนาดกลางทั้งหมด รวมถึงรุ่นรถตู้โดยสารและรถตู้เชิงพาณิชย์ ทั้งในรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาป และขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ทำให้มีความพรีเมียมมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งในรุ่น EQV, รถตู้โดยสาร V-Class, V-Class Marco Polo, Vito และ eVito การปรับโฉมใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น
โมเดลล่าสุดนี้ ใช้รูปทรงเดียวกับ V-Class เจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งเปิดตัวไปในปี 2014 และต่อมาในปี 2019 ได้รับการปรับโฉมครั้งแรก ด้วยการออกแบบกันชนหน้าใหม่ซึ่งมีกระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้นอย่างมาก ที่มีความทันสมัยมากขึ้น โดยกระจังหน้าแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป สังเกตได้ว่า V-Class และ EQV จะเน้นให้ดูมีความหรูหรามากยิ่งขึ้น ในขณะที่ Vito และ eVito เป็นรถตู้เชิงพาณิชย์ เน้นใช้งานเป็นหลัก ในรุ่นเริ่มต้น กันชนหน้าและกันชนท้ายจะไม่ได้พ่นสีมาให้
Mercedes-Benz V-Class และ EQV
มิติตัวรถโดยรวม คาดว่าจะมีขนาดเท่าเดิม ไฟหน้า, กันชนหน้า และกระจังหน้า ดีไซน์ใหม่หมด ล้อก็ดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น มีทั้งขนาด 17, 18 และ 19 นิ้ว สีตัวถังก็มาพร้อมสีใหม่ และยังมีอีกทางเลือกหนึ่งของ แพ็กเกจ AMG Line และ แพ็กเกจ Night สำหรับ V-Class และแพ็กเกจสำหรับ EQV ที่สามารถเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับตัวรถได้ ด้วยแถบไฟ LED รอบๆกระจังหน้าและไฟหน้า Multibeam LED ทั้งนี้การเพิ่มเอกลักษณ์ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยนั้นๆ
การตกแต่งภายในยังเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่งของความแตกต่างระหว่างรถตู้โดยสารและรถตู้เชิงพาณิชย์ ในรุ่น V-Class และ EQV เป็นที่นั่งแบบ Captain Seat แยกอิสระ 6 ที่นั่ง, หน้าจอแสดงผลแบบยาวแผงเดียว ขนาด 12.3 นิ้ว, ช่องแอร์ และไฟสร้างบรรยากาศ ทำให้แดชบอร์ดดูพรีเมียมพอๆกับ รุ่นท๊อปของ Mercedes-Benz เลยทีเดียว
และในรุ่น V-Class Marco Polo ภายในจะถูกตกแต่งแนวแคมป์ปิ้ง มีที่นอน, อ่างล้างจาน, ครัวเล็กๆไว้ทำอาหาร และโต๊ะกินข้าว
Mercedes-Benz Vito และ eVito
ทุกรุ่นย่อยจะได้รับระบบ infotainment MBUX ใหม่ โดยรถตู้เพื่อการพาณิชย์จะเน้นไปทางให้บริการบำรุงรักษา, ขนของ, กรณีฉุกเฉินรถอุบัติเหตุ และการช่วยเหลือรถเสีย
การตกแต่งภายใน จะได้เลย์เอาต์ที่เรียบง่าย ด้วยหน้าจอแผงหน้าปัด ขนาด 5.5 นิ้ว และหน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 10.25 นิ้ว ควบคู่ไปกับการออกแบบแดชบอร์ดที่เน้นการใช้งานจริง
ระบบความปลอดภัยยังได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ที่ดีขึ้น รวมถึงระบบช่วยรักษาให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (Active Lane Keeping Assist), ระบบควบคุมความเร็วแบบอัจฉริยะ (Intelligent Speed Assist) และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist Distronic) เป็นระบบมาตรฐานใน EQV และ V-Class และเป็นออปชันเสริมใน Vito และ eVito
ขุมพลัง
Mercedes-Benz ไม่ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องระบบส่งกำลัง ซึ่งน่าจะหมายความว่า EQV มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ที่ให้กำลัง 150 kW 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 362 นิวตันเมตร ในส่วนของความจุแบตเตอรี่มี 2 แบบ คือ 60 kWh สำหรับรุ่น EQV 250 และ 90 kWh สำหรับรุ่น EQV 300 ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 418 กม. และสำหรับรุ่นเครื่องยนต์สันดาป จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ 1.7 ลิตร, 2.0 ลิตร และ 2.2 ลิตร
แผนในอนาคตของ Mercedes-Benz
Mercedes-Benz ขายรถตู้ไฟฟ้าไปแล้วกว่า 40,000 คัน จนถึงปัจจุบัน และภายในปี 2030 ทาง Mercedes-Benz ต้องการให้เป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของยอดขายรถตู้ทั้งหมด และในปี 2026 มีอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่ คือการเปิดตัวแพลตฟอร์มรถตู้ไฟฟ้า (Van Electric Architecture : VAN.EA) ที่เป็นแบบแยกส่วนและสามารถปรับเปลี่ยนของแพลตฟอร์มได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของรถตู้ไฟฟ้าขนาดกลางและขนาดใหญ่ในรุ่นต่อไปของ Mercedes-Benz
ที่มา – CarScoops
