หลังจากที่ Toyota ได้ประกาศแผนการผลิตรถยนต์และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้สนับสนุนเงินช่วยเหลือประมาณ 853 ดอลลาร์สหรัฐฯ (120,000 ล้านเยน) เพื่อขยายการผลิตแบตเตอรี่ เพิ่มผลผลิตในประเทศมากขึ้น รวมถึงลดการพึ่งพาการจัดหาและการผลิตจากจีน
Toyota ได้รับเงินสนับสนุน 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากรัฐบาลญี่ปุ่น สำหรับการพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใหม่
Toyota เผยว่าจะนำเงินสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นไปพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน EV เจเนอเรชั่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีลิเธียมเหล็กฟอสเฟตแบบสองขั้ว ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งระยะทางไกลขึ้น 20% และลดต้นทุนจากแบตเตอรี่ลิเธียมรุ่นปัจจุบันที่ใช้ในรถยนต์รุ่น bZ4X ประมาณ 40%
ผู้ผลิต Toyota มีแผนการนำแบตเตอรี่เจเนอเรชั่นใหม่เข้าสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ประมาณปี 2026 หรือ 2027 โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่นี้จะทำระยะทางได้ประมาณ 965 กิโลเมตร (600 ไมล์) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
นอกจากนี้ Toyota จะนำเงินสนับสนุนส่วนหนึ่งไปใช้เพื่อการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่แบบ All-Solid-State ที่คาดว่าจะเพิ่มระยะทางจากแบตเตอรี่ลิเธียมไออนเจอเนอเรชั่นใหม่ประมาณ 20% จึงทำให้ระยะทางอยู่ที่ประมาณ 1,158 กม. (720 ไมล์)
ก่อนหน้านี้เราคงจะได้เห็นแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota กันไปแล้ว โดยบริษัทมุ่งเน้นผลิตแบตเตอรี่เจเนอรชั่นใหม่ที่ทำระยะทางได้ไกลขึ้น ระยะทางสูงสุดที่คาดไว้คือ 1,448 กม. (900 ไมล์) มีแผนส่งมอบหลังปี 2028 รวมถึงบริษัทต้องการลดต้นทุนการผลิต โดยหันมาใช้เทคโนโลยี Giga Casting และปรับปรุงแอโรไดนามิกให้ดีขึ้น
Toyota วางแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า BEV ใหม่ 10 รุ่น ภายในปี 2026 ซึ่งจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นใหม่ในโรงงานผลิตรถที่รัฐเคนตั๊กกี้ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป และลงทุน 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโรงงานแบตเตอรี่ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา รวมถึงลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดและรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนด้วยในอนาคต