ใน

4 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น พร้อมลงทุนผลิตรถยนต์และรถกระบะไฟฟ้าในไทย มูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท เพื่อตอกย้ำศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สำคัญ

นายกรัฐมนตรีปลื้มปริ่มในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เมื่อค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น 4 ราย พร้อมขยายการลงทุนสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทย ภายในระยะเวลา 5 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท

4 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น พร้อมลงทุนผลิตรถยนต์และรถกระบะไฟฟ้าในไทย มูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท เพื่อตอกย้ำศักยภาพไทยในฐานะผู้ผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สำคัญ

25 ธันวาคม 2566 กรุงเทพฯ – นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีวิสัยทัศน์และนโยบายให้ความสำคัญกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย-ญี่ปุ่น รวมทั้ง ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องสันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการขยายการลงทุนในไทย และขับเคลื่อนให้ไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหลักในภูมิภาคอาเซียน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้หารือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น 7 ราย ครั้งเดินทางร่วมการประชุม ASEAN-Japan ระหว่างวันที่ 14-18 ธันวาคม 2566 โดยจากการหารืออย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ระหว่างนายกฯ และบริษัทยานยนต์นี้ ทำให้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Thailand Board of Investment – BOI) ได้ข้อสรุปว่าภายในระยะเวลา 5 ปี จะมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น 4 รายที่พร้อมขยายการลงทุนสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ได้แก่

  • Toyota (โตโยต้า) ลงทุน 5 หมื่นล้านบาท
  • Honda (ฮอนด้า) ลงทุน 5 หมื่นล้านบาท
  • Isuzu (อีซูซุ) ลงทุน 3 หมื่นล้านบาท
  • Mitsubishi (มิตซูบิชิ) ลงทุน 2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ บางบริษัทให้ความเห็นว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตรถกระบะไฟฟ้าในช่วง 2–3 ปีข้างหน้า

โดยกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นทั้ง 7 ราย ยืนยันใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาค พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลไทยที่จะสนับสนุนค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ลดการปล่อยคาร์บอน ใช้พลังงาน EV และไฮโดรเจน

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นยังได้นำเสนอโมเดลของการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Swapping) สำหรับรถเชิงพาณิชย์ ซึ่งไทยพร้อมส่งเสริมสภาพแวดล้อมการลงทุนให้กับผู้ลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น โดยจะดำเนินการออกมาตรการยกเว้นวีซ่าให้นักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจระยะสั้น

ประเทศไทยพร้อมเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาคอาเซียน

นายกรัฐมนตรีย้ำว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยให้เป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาคอาเซียน ไทยจึงพร้อมสนับสนุน และร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ต้องการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของทั้งสองประเทศ ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้สู่ความสำเร็จ และประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

การประกาศการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ทั้ง 4 ราย ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยจะส่งผลให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาคอาเซียน และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับทั้งสองประเทศ

ที่มา : รัฐบาลไทย

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S