ใน , , , , , , ,

ประสบการณ์ทดสอบการขับขี่ XPENG G6 ที่จีน ทดสอบระบบ XNGP ดีจริงไหม? 

ประสบการณ์ทดสอบการขับขี่ XPENG G6 ที่จีน ทดสอบระบบ XNGP ดีจริงไหม?

ทีมงาน iMoD ได้รับเชิญร่วม XPENG Media International Tour ถึงเมืองกว่างโจว ประเทศจีน จากในคลิปนี้เป็นช่วงวันที่ได้ร่วมทดสอบการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของทาง XPENG ที่มีให้ลองทั้ง X9, G6 และ G9

ครั้งนี้ผมได้ทดสอบเพียง G6 และ G9 เนื่องจากเวลาไม่พอ สิ่งที่ผมตื่นเต้นมากที่สุดในการทดสอบครั้งนี้คือระบบ XPENG Navigation Guided Pilot (XNGP) หรือระบบขับขี่อัตโนมัติอัจริยะที่ทางแบรนด์ได้ชูว่าเป็นระบบที่สู้คู่แข่งสุดหินอย่าง Tesla ได้มาชมกันครับว่าจะดีขนาดไหน

Workshop ก่อนทดลองขับ XPENG G6

ก่อนเริ่มการทดสอบการขับขี่ ทาง XPENG ได้จัด Workshop ก่อนจะทำการ Test Drive พูดถึงการกฎระเบียบการ Test drive ความปลอดภัยระหว่างขับขี่ ร่วมถึงเรื่องออกแบบของ XPENG G6 ทั้งภายนอกและภายใน, ระบบ XOS 5.1.0 ใหม่, และ Xiao P (Ai Voice Assistant)

ครั้งนี้ทาง XPENG ได้นำรถยนต์ไฟฟ้ามาโชว์ถึง 4 คันอย่าง XPENG P7i ซีดาน, X9 รถ MPV ไฟฟ้า, G6 Compact-SUV และ G9 SUV

เริ่มทดลองขับ XPENG G6

เริ่มจากการทดสอบขับขี่ XPENG G6 ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ทดลองขับหลังจาก XPENG นำรถไปโชว์ในงาน Bangkok Motor Show 2024 เส้นทางเป็นการขับรอบเกาะของโรงแรม Xanadu ระยะทางไม่ไกลมาก ครั้งนี้ผมจะเน้นขับขี่โดยใช้ระบบ XNGP ให้ขับขี่อัตโนมัติดูว่าระบบที่จีนสามารถทำงานเต็มระบบจะใช้งานได้ดีแค่ไหน

จากที่ได้เข้าไปนั่งใน G6 ถือว่าห้องโดยสารสวยงามเรียบง่าย เบาะนุ่มใช้ได้ แต่จอหลังพวงมาลัยถือว่าเล็กไปซักเล็กน้อย ตัวพวงมาลัย 2 ก้านออกแบบมาชิ้นค่อนข้างใหญ่ทำให้จับตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกาไม่ได้ จอกลางขนาดพอดีใช้งานง่าย เพราะ XOS ใหม่สามารถใช้งาน Multi-tasking Window ได้ พร้อมสั่งการตั้งค่าด้วยเสียงผ่าน Xiao P ได้อย่างถึง 99% เกือบทุกระบบตัวรถ

ก่อนจะพูดถึงระบบ XNGP ผมขอเล่าถึงเรื่องของช่วงล่างของ G6 คันนี้ ถือว่ามีความนุ่มนวลเล็กน้อย ซับรอยต่อถนนระหว่างช่วงขับออกจากโรงแรมได้ดีเลยครับ แจ้งก่อนนะครับว่าการ Test drive ทั้งหมดครั้งนี้ผมใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ทั้ง 2 คัน ดังนั้นข้อมูลจะเล่าจากที่ได้ลองย่านความเร็วต่ำเท่านั้นครับ

พวงมาลัยในโหมด Comfort ถือว่าเบามาก ๆ ขับสบาย แต่ช่วงระยะฟรีของพวงมาลัยเยอะมาก ๆ ทำให้ตอนเลี้ยวจำเป็นต้องสาวพวงมาลัยเยอะกว่าจะมี Input ส่งไปให้ล้อเลี้ยว ส่วนเรื่องเบรคทั้ง G6 และ G9 ถือว่า Sensitive มาก กดนิดเดียวเบรคแรงจนหน้าทิ่มกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้มีแรงต้านเท้าเลยครับ

เรื่องทัศนวิสัยรอบคันของ G6 ถือว่าใช้ได้เลยครับ ยกเว้นกระจกหลังที่ชิ้นเล็กจนบังมุมหลังพอสมควร (ตามภาพ) ทำให้การมองกระจกหลังอาจจะเห็นได้ไม่ถนัดเท่าไหร่ การได้ Panoramic Glass Roof ชิ้นใหญ่มาข้อดีก็คือทำให้ห้องโดยสารมีความกว้าง และสว่างแต่หากนำมาใช้งานเมืองไทยก็จะเจอปัญหาความร้อนไม่ต่างจาก Tesla Model Y ครับ

ทดลองระบบขับขี่อัตโนมัติ XNGP ของ G6

ก่อนเดินทางด้วยระบบ XNGP จำเป็นต้องตั้งค่ากำหนดเส้นทางให้เรียบร้อย ทำให้รถเตรียมความพร้อมในเส้นทางและนำทางไปอย่างอัจฉริยะ หลังจากที่ขับออกไปแล้วต้องการเปิดระบบเพียงตบก้านเกียร์หลังพวงมาลัยลง 2 ครั้ง เพื่อเริ่มทำงาน หากระบบ XNGP ทำงานได้ในพื้นที่นั้น ๆ จะขึ้นว่า NGP driving assistance in progress พร้อมแสดงเส้นสีฟ้าหน้ารถในจอ Surrounding Reality (SR) ระบบจะเริ่มวิ่งที่ความเร็ว 60 กม./ชม. พร้อมตรวจจับป้ายความเร็วในเมือง

หากต้องการเปลี่ยนเลนเพียงตบไฟเลี้ยว ตัวรถจะตรวจจับมุมอับหากไม่มีอุปสรรค์รถก็จะเลี้ยวเปลี่ยนเลนให้อัตโนมัติ พร้อมตรวจจับรถด้านหน้าและทำการเว้นระยะให้อัตโนมัติซึ่งในเมือง NGP จะปรับระดับเองไม่ได้ รถจะพยายามเข้าใกล้รถคันหน้ามากที่สุด แต่สามารถเบรคแปรผันตามความเร็วรถคันหน้าได้อย่างนุ่มนวล อันนี้ผมชื่นชมมาก ๆ

สิ่งที่เซอร์ไพรสที่สุดในระบบ XNGP คือระหว่างที่ตบไฟเลี้ยวขวาเพื่อฉีกแซงรถคันซ้ายมือแต่ดันมีจักยานปั่นอยู่ด้านหน้า ตัวรถชะลอความเร็ว รอจนกว่ารถซ้ายจะแซงจนว่าง และได้ทำการขับคร่อมเลนเพื่อแซงจักรยาน และใช้เลนขวาต่อได้อย่างอัจฉริยะ เพราะปกติแบรนด์อื่น ๆ ที่ได้ลองรถจะเปลี่ยนไปอีกเลนเลยเท่านั้น ถือว่าอันนี้ทำมาได้ดีเลยทีเดียวครับ (ตาม 2 ภาพด้านล่าง)

หากขับไปเจอแยกไฟแดงรถก็ทำการจอดให้อัตโนมัติพร้อมมีการนับถอยหลังไฟแดงให้ด้วยแสดงผ่านจอกลาง พอไฟเขียวตัวรถก็ขับออกตัวได้อย่างนุ่มนวล หากรถขับไปในเส้นทางที่เป็นถนนส่วนตัวรถก็จะแจ้งเตือนว่าอีกกี่เมตรเราจะต้องควบคุมตัวเองครับ

จุดสังเกตระบบ XNGP ที่อาจจะทำงานแปลก ๆ

บางช่วงรถทำการเลี้ยวเปลี่ยนเลนให้เองทั้งซ้ายและขวา เนื่องจากอาจจะเป็นการอ่านลูกศรบนถนนที่ทาสีบิดเบี้ยวทำให้รถเลี้ยวตามลูกศร (อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจครับว่าเกิดอะไรขึ้น) ในบางจุด NGP จะไม่สามารถใช้งานได้ระยะสั่น ๆ เปิดได้เพียงระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) เท่านั้น

สรุปการทดสอบขับขี่ XPENG G6 และระบบ XNGP

ผมถือว่า XNGP ทำงานได้ดีเหนือที่ผมคาดหมายไว้ เรียกได้ว่าทำงานได้ดีเทียบกับคู่แข่งสุดหินอย่างระบบ FSD ของ Tesla ได้สมน้ำสมเนื้อ อย่างไรก็ตามหากได้ลองออกถนนใหญ่หรือในสภาพถนนรถติดกว่านี้ได้จะเห็นความสามารถจริงของระบบมากกว่านี้ เนื่องจาก XPENG ได้เขียนโปรแกรม XPlanning ให้รถทำงานขับอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมของถนนประเทศนั้น ๆ ด้วย

สำหรับ XPENG G6 คันนี้ถือว่าเป็น SUV ไฟฟ้าที่ขับขี่ได้คล่องตัวกระจายน้ำหนัก 50:50 ช่วงหน้าและหลังสั้นกะในเมืองได้ง่ายจอดง่าย อาจจะติดเรื่องของน้ำหนักพวงมาลัยและเรื่องการเบรคครับ

หากใครอยากชมสรุปการทดลองขี่ XPENG G9 กับ G6 แบบเต็ม ๆ รับชมได้แล้วผ่านคลิปวิดีโอด้านบนเลยครับ

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.