ใน

ยอดจองถล่มทลาย! BYD HAN DM 2023 มียอดจองกว่า 13,000 คัน ภายใน 72 ชั่วโมง ในประเทศจีน

BYD HAN DM เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นปี 2023 เป็นรถยนต์ซีดานระดับพรีเมียมจากทางค่าย BYD ทำให้มียอดจองกว่า 13,000 คัน ภายใน 72 ชั่วโมง ในประเทศจีน

ยอดจองถล่มทลาย! BYD HAN DM 2023 มียอดจองกว่า 13,000 คัน ภายใน 72 ชั่วโมง ในประเทศจีน

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา BYD รายงานว่า มียอดจองทั้งสิ้น 13,695 คัน สำหรับ BYD HAN DM รุ่นปลั๊กอินไฮบริด เวอร์ชันปี 2023 ภายใน 72 ชั่วโมง และในวันแรกมียอดจองกว่า 8,051 คัน รุ่นดังกล่าวได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีให้เลือก 2 ตัวเลือก คือ DM-i และ DM-p โดยมีการปรับราคาลง 42,000 หยวน (ประมาณ 2.05 แสนบาท) เมื่อเทียบกับรุ่นท็อปเวอร์ชันปี 2022 สำหรับราคารุ่นปี 2023 ราคาอยู่ประมาณ 241,000 หยวน (ประมาณ 1.18 ล้านบาท)

เมื่อเดือนมีนาคม ได้มีการเปิดตัว BYD HAN EV ไป ต่อมาได้เปิดตัวเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งเป็นตัวเลือกเพิ่มให้กับลูกค้า คำว่า DM ในเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ย่อมาจากว่า Dual Motor ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบส่งกำลังของ BYD โดยมี 2 รุ่นย่อยในเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด คือ DM-i สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า และ DM-p สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ในรุ่นย่อย DM-i ปี 2023 มีชื่อเรียกว่า Champion Edition และ DM-p มีชื่อเรียกว่า Ares (God of War) Edition

ดีไซน์ภาพรวม

เมื่อเทียบกับรุ่นปี 2022 สไตล์ภายนอกและภายใน ไม่ได้มีเปลี่ยนแปลงมากนัก มีเพียงแค่เพิ่มสีตัวถังใหม่ ชื่อว่า “ Glacier Blue ” เท่านั้น โดยมิติตัวรถยังคงเท่าเดิม คือ 4,975 x 1,910 x 1,495 มม. ระยะฐานล้อ 2,920 มม. และรุ่นย่อย DM-p ยังได้รับเทคโนโลยีระบบกันสะเทือนใหม่ล่าสุด DiSus-C อีกด้วย

BYD HAN DM-i Champion Edition

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 197 แรงม้า ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลัง 139 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.9 วินาที และมาพร้อมแบตเตอรี่ 2 ความจุ คือ แบตเตอรี่ LFP ความจุ 18.3 kWh สำหรับวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 121 กม. ตามมาตรฐาน NEDC และแบตเตอรี่ LFP ความจุ 30.7 kWh สำหรับวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 200 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ทั้งนี้ถ้าน้ำมันเต็มถังและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สามารถวิ่งได้ระยะทางรวม 1,260 กม.

  • แบตเตอรี่ LFP ความจุ 18.3 kWh มีราคาอยู่ระหว่าง 189,800-219,800 หยวน (ประมาณ 9.29 แสนบาท – 1.08 ล้านบาท)
  • แบตเตอรี่ LFP ความจุ 30.7 kWh มีราคาอยู่ระหว่าง 239,800-249,800 หยวน (ประมาณ 1.17 -1.22 ล้านบาท)

ดีไซน์ภายใน

ภายในมาพร้อมหน้าจอสัมผัส infotainment แบบหมุนได้ ขนาด 15.6 นิ้ว (รุ่นเริ่มต้นมาพร้อม ขนาด 12.8 นิ้ว) แผงหน้าปัด LCD ขนาดใหญ่ และพวงมาลัยแบบสองก้าน ทรงท้ายตัด มาพร้อมกับฟังก์ชันสมาร์ทคีย์ NFC ที่รองรับทั้ง iOS และ Android, มีจอแสดงผล Head-up Display และมีระบบกันสะเทือน FSD ที่ปรับอัตโนมัติตามพื้นผิวถนน ดังนั้นรถรุ่นปี 2023 ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก

BYD HAN DM-p Ares (God of War) Edition

HAN DM-p อาจไม่ใช่รุ่นที่ขายดีที่สุด แต่มีข้อมูลที่น่าสนใจมาก คือ มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่มีกำลัง 490 แรงม้า (มอเตอร์ด้านหน้า 218 แรงม้า + มอเตอร์ด้านหลัง 272 แรงม้า) ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลัง 139 แรงม้า ทำให้มีพละกำลังรวมสูงสุด 579 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 822 นิวตันเมตร และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที

มีตัวเลือกแบตเตอรี่เพียงตัวเลือกเดียว คือ แบตเตอรี่ ความจุ 36 kWh สำหรับระยะทาง 200 กม. และถ้าน้ำมันเต็มถังและแบตเตอรี่เต็ม สามารถวิ่งได้ระยะทางรวม 1,120 กม. มีราคา 289,800 หยวน (ประมาณ 1.42 ล้านบาท) ซึ่งเป็นราคาที่ดีมากเลยกับรถที่มีประสิทธิภาพขนาดนี้

ดีไซน์ภายใน

การตกแต่งภายใน ยังเป็นสีดำที่มีการเย็บเดินด้ายสีเหลืองอ่อน และสายเข็มขัดนิรภัยสีเหลือง ภายในเน้นสีดำแทบทุกจุด ทำให้ดูสปอร์ตมาก ยังมาพร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่มีพนักพิงศีรษะในตัว และมาพร้อมเทคโนโลยีระบบกันสะเทือน DiSus-C ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยปรับให้สปอร์ตหรือนุ่มนวลมากขึ้น

การลดราคาของ BYD

BYD ได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ ในท่ามกลางสงครามราคาในประเทศจีน และการลดราคาของรุ่นใหม่เป็นวิธีที่จะให้ “ ลดราคาโดยไม่ต้องให้ส่วนลด ” ดังนั้นจึงไม่เป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์

การลดราคาของ BYD HAN DM-i ปี 2023 คือ 28,000 หยวน (ประมาณ 1.37 แสนบาท) สำหรับรุ่นท็อปอย่าง BYD HAN DM-p ลดลง 32,000 หยวน (ประมาณ 1.57 แสนบาท) และ BYD HAN DM-i ปี 2023 รุ่นท็อปลดลง 42,000 หยวน (ประมาณ 2.05 แสนบาท) เมื่อเทียบกับรุ่นท็อปเวอร์ชันปี 2022

ยอดขาย BYD ในปี 2023

ในเดือนเมษายน BYD HAN มียอดขาย 14,329 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.77% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 5.75% จากเดือนมีนาคม

Wang Chuanfu ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ BYD ประกาศว่า BYD จะขายรถยนต์ได้ 3.6 ล้านคัน ภายในปี 2023 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน บริษัทได้ขายรถยนต์ไปแล้วกว่า 7.57 แสนคัน โดยครึ่งหนึ่งเป็นยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าจากยอดขายทั้งหมด ยอดขายต่อเดือนของ BYD อยู่ที่ประมาณ 2 แสนคัน ดังนั้น BYD จึงจำเป็นเพิ่มยอดขายให้เป็น 3 แสนคันต่อเดือน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ 3.6 ล้านคันภายในปี 2023 นี้

BYD ได้ยุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle : NEV) ทั้งหมด

ที่มา – CarNewsChina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S